ยุคสมัยของเราต้องการปัญญา
8.  พระศาสนจักรทั่วโลกมีหน้าที่พิจารณาไตร่ตรองและทุ่มเทตัวอย่างจริงจังเพื่อทำให้วัฒนธรรมใหม่ที่กำลังปรากฏตัวอยู่ในปัจจุบันได้รับแสงสว่างของพระวรสารอย่างลึกซึ้ง  เพื่อให้มนุษย์โดยทั่วหน้ายอมรับความสำคัญของค่านิยมที่แท้จริง  เพื่อให้สิทธิของชายและหญิงได้รับการคุ้มครองอย่างแน่นอน  และเพื่อให้ความยุติธรรมได้รับการส่งเสริมจนเข้าไปถึงโครงสร้างของสังคม โดยวิธีนี้ “ระบบค่านิยมใหม่”  จะไม่นำมนุษย์ให้หันเหความสัมพันธ์ไปจากพระเจ้า  แต่จะนำให้พวกเขาเสริมสร้างสัมพันธภาพกับพระองค์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
    วิทยาศาสตร์และการประยุกต์วิทยาศาสตร์เปิดโอกาสอย่างกว้างขวางที่จะสร้างระบบค่านิยมดังกล่าว  แต่ด้วยเหตุผลทางการเมืองซึ่งเป็นตัวกำหนดแนวทางของการวิจัยและของการประยุกต์งานวิจัยวิทยาศาสตร์จึงถูกใช้ไปในทางตรงข้างกับการส่งเสริมความเป็นคน  ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายดั้งเดิม
    ดังนั้น  จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนจะต้องฟื้นฟูจิตสำนึกถึงความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดของคุณค่าทางศีลธรรม  ซึ่งเป็นค่านิยมของความเป็นคนโดยเฉพาะ  ภารกิจอันยิ่งใหญ่ซึ่งเราจะต้องเผชิญในปัจจุบันเพื่อรื้อฟื้นโฉมหน้าสังคมเสียใหม่ก็คือ  การตระหนักถึงความหมายสูงสุดของชีวิตและค่านิยมพื้นฐานของชีวิต  การสำนึกถึงความสำคัญของคุณค่าเหนือสิ่งอื่นใดนี้เท่านั้นที่จะทำให้มนุษย์สามารถใช้โอกาสอันกว้างขวางซึ่งวิทยาศาสตร์อำนวยให้โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมความเป็นคนตามสัจธรรม  เสรีภาพ  และศักดิ์ศรีของชายหญิงอย่างครบครัน  วิทยาศาสตร์และปัญญาต้องเป็นสิ่งที่คู่กันไป
    คำกล่าวของการประชุมสังคายนาวาติกันครั้งที่  2  สามารถนำมาประยุกต์กับปัญหาของครอบครัวได้  “ยุคสมัยของเราต้องการปัญญามากกว่ายุคสมัยก่อนๆ  เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ค้นพบนั้นมีลักษณะเป็นของมนุษย์มากยิ่งขึ้น  อนาคตของโลกกำลังจะหายนะถ้าหากว่ายุคของเราไม่สามารถผลิตคนที่มีปัญญาได้”
    ดังนั้นการอบรมเพื่อสร้างจิตสำนึกทางศีลธรรมซึ่งจะทำให้แต่ละคนสามารถที่จะตัดสินวินิจฉัยวิธีที่เหมาะสมในการบรรลุถึงการเป็นตัวเองตามความจริงดั้งเดิมนั้น  เป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดเสียมิได้
    ความสัมพันธ์กับพระปรีชาญาณจะต้องปรากฏอย่างแน่นแฟ้นขึ้นใหม่ในวัฒนธรรมสมัยปัจจุบัน  มนุษย์มีส่วมร่วมกับพระปรีชาญาณนั้นโดยพระผู้สร้างเป็นผู้ประทานให้เอง  อนึ่ง  ครอบครัวต่างๆ ในสมัยปัจจุบันจะสามารถมีอิทธิพลที่ดีงามในการสร้างสรรค์ให้โลกประกอบด้วยความยุติธรรมและภราดรภาพมากขึ้น   ก็ต่อเมื่อครอบครัวเหล่านี้จงรักภักดีต่อความสัมพันธ์กับพระปรีชาญาณนี้เท่านั้น