แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

พระสังฆราชและพระสงฆ์
73.  ผู้รับผิดชอบงานอภิบาลครอบครัวอันดับแรกในเขตของสังฆมณฑล  ก็คือ  พระสังฆราช  ในฐานะที่ท่านเป็นบิดาและเป็นผู้อภิบาล  ท่านก็ต้องห่วงใยเป็นพิเศษในภารกิจด้านการอภิบาลเฉพาะอย่างนี้ซึ่งสำคัญกว่าอย่างอื่นโดยแน่นอน  ท่านก็ต้องยอมทุ่มเทความเอาใจใส่  ความขยันขันแข็ง  เวลา  บุคลากร  แม้กระทั่งทรัพย์สินในงานนี้  ยิ่งไปกว่านั้น  ท่านก็ต้องแสดงว่าท่านเองสนับสนุนครอบครัวและผู้ที่ช่วยท่านในงานอภิบาลครอบครัวตามตำแหน่งในโครงสร้างต่างๆ ของสังฆมณฑล  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  พระสังฆราชควรตระหนักว่า  สังฆมณฑลของตนต้องมีลักษณะเป็น  “ครอบครัวระดับสังฆมณฑล”  อย่างแท้จริงและมากยิ่งขึ้นไปอยู่เสมอ  ซึ่งจะเป็นแบบฉบับและต้นธารแห่งความหวังสำหรับครอบครัวทั้งหลายที่สังกัดในสังฆมณฑลของท่าน  ด้วยทัศนะเช่นนี้  ใครก็ตามจะเข้าใจว่า  การสถาปนาสมณสภาเพื่อครอบครัวนั้นมีวัตถุประสงค์ดังนี้คือ  ให้เป็นเครื่องหมายถึงความสำคัญซึ่งข้าพเจ้าให้แก่งานอภิบาลครอบครัวในระดับโลก  และให้สภานี้เป็นเครื่องมือที่ทรงผลเพื่อที่จะส่งเสริมงานอภิบาลครอบครัวในทุกระดับ
    พระสังฆราชมีผู้ช่วยโดยเฉพาะคือพระสงฆ์  สมัชชาพระสังฆราชได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่าบทบาทของพระสงฆ์นั้น  เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในภารกิจของพระศาสนจักรต่อการสมรสและครอบครัว  เรื่องของสังฆานุกรก็เช่นเดียวกัน  ซึ่งบางที  อาจได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานนี้โดยเฉพาะก็ได้
    หน้าที่ของพระสงฆ์และสังฆานุกรนั้น  ไม่เพียงแต่ควบคุมปัญหาฝ่ายศีลธรรมหรือพิธีกรรมเท่านั้น  แต่ยังต้องควบคุมปัญหาเฉพาะบุคคลและฝ่ายสังคมด้วย  พระสงฆ์กับสังฆานุกรต้องสนับสนุนครอบครัวในยามที่ประสบความลำบากหรือความทุกข์ทรมาน   พระสงฆ์กับสังฆานุกรต้องยืนเคียงข้างสมาชิกของครอบครัวเพื่อที่จะช่วยเขาให้ใช้แสงสว่างของพระวรสารมาพิจารณาความหมายชีวิตของตน  คงจะไม่เป็นการนอกเรื่องถ้าจะกล่าวเป็นข้อสังเกตว่า  เมื่อศาสนบริกรดำเนินงานแพร่ธรรมนี้ด้วยการวินิจฉัยที่เหมาะสมและด้วยจิตตารมณ์ของธรรมทูตที่แท้จริงแล้ว  เขาเองก็จะได้รับแรงกระตุ้นใหม่และพละกำลังฝ่ายจิตใจเพื่อถือตามพระกระแสเรียก  อีกทั้งเพื่อดำเนินภารกิจของตนได้ดีด้วย
    พระสงฆ์หรือสังฆานุกรที่ได้รับการฝึกอบรมสำหรับการแพร่ธรรมประเภทนี้อย่างเข้มงวดและในเวลาที่เหมาะสมแล้ว  ควรจะหมั่นประพฤติตนเป็นทั้งบิดา  พี่น้อง  ผู้อภิบาล  และอาจารย์ของครอบครัวต่างๆ  โดยอาศัยพระหรรษทานเป็นที่ช่วยเขาและอาศัยสัจธรรมเป็นแสงสว่างนำทางเขา  เป็นสิ่งที่จำเป็นด้วยว่า  เนื้อหาของการอบรมสั่งสอนและของการชี้แนะที่พระสงฆ์ให้นั้น  ต้องส่งเสริมให้ประชากรของพระเจ้าประกอบด้วยจิตสำนึกอันเที่ยงตรงในความเชื่อและนำมาประยุกต์กับชีวิตของตนต่อไป  ความซื่อสัตย์สุจริตต่อคำสอนของพระศาสนจักรนี้  ยังเอื้อำนวยให้พระสงฆ์พยายามสุดความสามารถที่จะทำให้กระบวนความคิดเห็นของตนพ้องต้องกันเพื่อจะได้ลบล้างความกังวลใน มโนธรรมของสัตบุรุษของตน
    ภายในพระศาสนจักร   ผู้อภิบาลและฆราวาสมีส่วนร่วมในภารกิจการเป็นประกาศกของพระคริสตเจ้า      ฝ่ายฆราวาสเป็นประจักษ์พยานถึงความเชื่อโดยทางวาจาและการดำเนินชีวิตแบบคริสตชน  ฝ่ายผู้อภิบาลก็โดยการวินิจฉัยในการเป็นประจักษ์พยานนี้และแยกส่วนที่เกิดจากความเชื่ออันเที่ยงแท้ออกจากส่วนที่ไม่ค่อยสอดคล้องกับแสงสว่างความเชื่อ  ฝ่ายครอบครัวในฐานะที่เป็นกลุ่มคริสตชนก็มีส่วนร่วมในภารกิจของพระคริสต์โดยมีส่วนร่วมเฉพาะเจาะจงในความเชื่อและโดยเป็นประจักษ์พยานถึงความเชื่อด้วย  ดังนั้น  จึงเริ่มมีการเสวนาขึ้นระหว่างผู้อภิบาลกับครอบครัว  นักเทววิทยาและผู้เชี่ยวชาญในเรื่องครอบครัวสามารถเป็นผู้ส่งเสริมการเสวนานี้ได้เป็นอย่างดี  โดยชี้แจงเนื้อหาของพระธรรมคำสอนของพระศาสนจักรหรือเนื้อหาของประสบการณ์ชีวิตครอบครัวอย่างแจ่มแจ้ง  ด้วยวิธีนี้  การอธิบายพระธรรมคำสอนจะเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ดีขึ้นและมีโอกาสที่จะพัฒนาขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง  กระนั้นก็ดี  ควรจะเน้นว่า  ผู้รับผิดชอบในพระธรรมคำสอนนั้นเป็นเจ้าของบรรทัดฐานของหลักความเชื่อโดยตรง  และมีอำนาจบังคับในเรื่องเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวเช่นกัน  ความร่วมมือกันอย่างตรงไปตรงมาระหว่างนักเทววิทยา  ผู้เชี่ยวชาญในปัญหาครอบครัว  และผู้รับผิดชอบพระธรรมคำสอนนั้น  เป็นประโยชน์ไม่ใช่น้อยในการที่จะเข้าใจความเชื่ออย่างเที่ยงตรง  รวมถึงการส่งเสริมให้คนมีความแตกต่างกันได้อย่างชอบธรรมภายในขอบเขตแห่งความเชื่อนั้น