กรณีที่ 1 : การทดลองแต่งงาน
80. กรณีแรกที่อยู่นอกลู่นอกทางก็คือ สิ่งที่เขาเรียกกันว่า “การทดลองการแต่งงาน” ในปัจจุบันนี้มีหลายคนใคร่จะสนับสนุนการแต่งงานแบบนี้โดยอ้างว่ามันก็มีค่าเหมือนกัน สามัญสำนึกของมนุษย์ก็ได้เตือนแล้วว่า ไม่สามารถยอมรับการทดลองดังกล่าวได้ เหตุผลก็คือ ไม่ควรที่จะมี “การทดลอง” ในเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นคน ซึ่งประกอบด้วยศักดิ์ศรีที่เรียกร้องให้ “คน” เท่านั้นต้องเป็นจุดมุ่งหมายแห่งการอุทิศตัวให้แก่กันและกันโดยปราศจากการกำจัดขอบเขตอันใดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลาหรือสถานการณ์อื่นใดทั้งสิ้น
ส่วนพระศาสนจักรเองก็ไม่สามารถที่จะยินยอมให้มีการอยู่กันแบบนี้ได้เพราะเห็นแก่เหตุผลต่างๆ และเป็นเหตุผลที่มาจากความเชื่อ ดูนัยหนึ่ง การมอบร่างกายในการที่มีเพศสัมพันธ์เป็นสัญลักษณ์แท้ของการอุทิศตัวทั้งหมด การอุทิศตัวเช่นนี้ ตามความเป็นจริงของกระบวนการแห่งการไถ่กู้นั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้สำเร็จอย่างสมบูรณ์ นอกเสียจากว่า ความรักบริสุทธิ์สูงส่งซึ่งพระคริสตเจ้าทรงประทานให้เองนั้น จะเป็นแรงซ้อนด้วย ดูอีกนัยหนึ่ง การสมรสระหว่างผู้รับศีลล้างบาปสองคน ก็เป็นสัญลักษณ์แท้แห่งการร่วมเป็นหนึ่งเดียวระหว่างพระคริสตเจ้ากับพระศาสนจักร ซึ่งไม่ได้ดำรงอยู่ชั่วคราวหรือเป็น “การทดลอง” แต่เป็นการ่วมกันที่ต้องซื่อสัตย์ชั่วกาลนาน ฉะนั้น การสมรสระหว่างผู้รับศีลล้างบาปสองคนจึงมีเพียงแบบเดียวที่ยกเลิกมิได้เลย
กรณีดังกล่าว ตามปกติไม่อาจแก้ไขได้ นอกเสียจากว่าบุคคลผู้นั้นจะได้รับการอบรมตั้งแต่วัยเด็ก อาศัยพระหรรษทานของพระคริสต์เป็นเครื่องช่วยเหลือ และโดยปราศจากความหวาดกลัว เพื่อว่าเขาจะได้สามารถควบคุมตัณหาที่กำเริบขึ้นได้ พร้อมกับสามารถสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ด้วยความรักอันแท้จริง สิ่งนี้จะเป็นไปไม่ได้ถ้ามิได้รับการอบรมอย่างเข้มงวดเพื่อเข้าถึงความรักอันถ่องแท้ และเข้าใจถึงเรื่องการใช้เพศอย่างถูกต้องซึ่งจะช่วยนำคนให้เข้าถึงธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้าอย่างสมบูรณ์ตามลักษณะของความเป็นคนทุกอย่างซึ่งหมายความถึงตามลักษณะที่เป็นของร่างกายอีกด้วย
จะเป็นประโยชน์อย่างมากที่จะค้นคว้าสาเหตุของกรณีที่ปรากฏขึ้นนี้ในด้านจิตวิทยาและสังคมวิทยาเพื่อจะได้พบวิธีแก้ไขที่เหมาะสม