บทสรุป
86. ก่อนที่จะจบสมณสารนี้ ข้าพเจ้าอยากจะกล่าวอะไรบางอย่างเป็นพิเศษกับสามีภรรยาและบิดามารดาทั้งหลายด้วยความห่วงใย
กับหนุ่มสาว ผู้เป็นเสมือนอนาคตและความหวังของพระศาสนจักรและของสังคมโลก ท่านจะเป็นแก่นที่ทรงพลังของครอบครัวเมื่อ ค.ศ. 2000 ใกล้เข้ามา
กับพี่น้องที่รักและนับถือ พระสังฆราชและพระสงฆ์ทั้งหลาย ผู้ร่วมสังฆภาพกับข้าพเจ้า นักบวชชายหญิง ลูกที่รัก ผู้ถวายชีวิตแด่พระคริสตเจ้า ท่านเป็นประจักษ์พยานถึงความจริงอันสูงส่งแห่งความรักต่อพระเจ้า
กับเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายที่มีใจซื่อตรง สุจริต และที่เป็นห่วงใยต่อวิวัฒนาการของครอบครัว
อนาคตของมนุษยชาติขึ้นอยู่กับครอบครัว
เพราะฉะนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นและเร่งด่วนอย่างยิ่ง ที่มนุษย์ผู้มีน้ำใจดีทุกคนจะได้ตระหนักว่าตนเองพิทักษ์รักษาและส่งเสริมคุณค่าพร้อมกับข้อเรียกร้องต่างๆ ของครอบครัวด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบ
ในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าใคร่เรียนขอให้บรรดาบุตรของพระศาสนจักรมีความพยายามเป็นพิเศษ ด้วยเหตุผลที่ว่าความเชื่อสอนเขาให้ทราบถึงแผนการอันน่าพิศวงของพระเจ้า เขาจึงมีแรงจูงใจมากขึ้นที่จะส่งเสริมสภาพครอบครัวในปัจจุบันอันเป็นเวลาแห่งความยากลำบากและแห่งพระหรรษทาน
พวกเขาต้องมีความรักต่อครอบครัวเป็นพิเศษ นี่เป็นคำบัญชาที่แน่ชัดและเข้มงวด
อันว่า รักครอบครัวนั้น หมายถึงการยกย่องคุณค่าและศักยภาพของครอบครัวรวมทั้งส่งเสริมคุณค่าเหล่านี้เสมอ รักครอบครัวยังหมายความถึงการสังเกตเห็นภยันตรายและสิ่งร้ายแรงที่คุกคามครอบครัวเพื่อที่จะเอาชนะให้ได้ รักครอบครัวยังหมายถึงการสร้างสรรค์บรรยากาศที่ส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าให้แก่ครอบครัวในขณะที่ครอบครัวสมัยปัจจุบันแทบจะหมดกำลังใจหรือมีความกังวลใจ เนื่องจากความยุ่งยากลำบากที่เพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ มีวิธีอันล้ำค่าที่จะแสดงความรักต่อครอบครัวนี้ได้ ก็คือ ช่วยครอบครัวให้มีความมั่นใจในตัวเอง มีความมั่นใจในทรัพยากรทางธรรมชาติหรือทางพระหรรษทานที่เขามี ความมั่นใจในภารกิจที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้เสียใหม่ “จำเป็นอย่างยิ่งที่ครอบครัวสมัยปัจจุบันจะต้องรื้อฟื้นกำลังใจดั้งเดิม จำเป็นอย่างยิ่งที่ครอบครัวจะต้องเดินตามรอยของพระคริสตเจ้า”
คริสตชนยังมีหน้าที่ที่จะประกาศ “ข่าวดี” เกี่ยวกับครอบครัวด้วยความชื่นชมยินดีและด้วยเจตนาที่แน่วแน่ ครอบครัวต้องการอย่างที่สุดที่จะฟังพระวาจาครั้งแล้วครั้งเล่าอีกทั้งต้องการเข้าใจความหมายของถ้อยคำอันเที่ยงแท้ที่ชี้แนะเอกลักษณ์และศักยภาพของครอบครัว พร้อมกับความสำคัญแห่งภารกิจของตนในเมืองของมนุษย์และของพระเจ้า
พระศาสนจักรรู้จักหนทางซึ่งจะนำครอบครัวเข้าไปถึงแก่นแห่งความจริงอันสูงส่งของครอบครัวเอง พระศาสนจักรได้เรียนรู้สัจธรรมนี้จากคำสอนของพระคริสตเจ้าและจากประสบการณ์ที่ได้จากประวัติศาสตร์ตลอดมา โดยที่แสงสว่างของพระจิตเจ้านำความกระจ่างในการตีความประสบการณ์นั้น พระศาสนจักรไม่บังคับคนอื่นให้ยอมรับหลักสัจธรรมนี้ หากแต่สำนึกว่ามีแรงชักจูงให้เสนอสัจธรรมนั้นแก่ทุกคนโดยปราศจากความกลัว ยิ่งกว่านั้น พระศาสนจักรคำนึงถึงหน้าที่ที่ต้องเผยสัจธรรมดังกล่าวด้วยความหวังอันแน่วแน่ทั้งๆ ที่ตระหนักดีกว่า ไม้กางเขนก็เป็นเสมือนภาษาที่ประกอบ “ข่าวดี” อาศัยไม้กางเขนนี้เอง ครอบครัวจึงจะสามารถบรรลุถึงภาวะอันบริบูรณ์ของตนเองและถึงความรักอันสมบูรณ์ได้
ข้าพเจ้าใคร่เรียนกับคริสตชนทั้งปวงให้มีความยินดีและมีความกล้าในอันที่จะร่วมมือกับมนุษย์ทั้งหลายที่บากบั่นในการรับใช้ครอบครัวด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบ บุคคลใดไม่ว่าจะเป็นรายบุคคล สมาคม หรือขบวนการใดก็ตามที่ทุ่มเทเสียสละเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว และปฏิบัติงานนี้ภายในโครงสร้างของพระศาสนจักรในนามและใต้โอวาทของพระศาสนจักรนั้น ย่อมพบปะคนอื่น เป็นรายบุคคลหรือสถาบันก็ดีที่เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเขาโดยมุ่งสู่อุดมคติอันเดียวกัน การร่วมมือกันนี้จะเป็นพลังช่วยให้การส่งเสริมชีวิตครอบครัวดำเนินไปโดยเร็วและโดยสมบูรณ์มากขึ้น ทั้งๆ ที่จะเคารพต่อคุณค่าของพระวรสารและของความเป็นคน พร้อมกับให้เกียรติแก่ทุกฝ่ายที่มีความคิดริเริ่ม
ก่อนที่จะจบสมณสาร ซึ่งมีจุดประสงค์ที่จะกระตุ้นใจของทุกคนให้พิจารณาปัญหาเกี่ยวกับครอบครัวคริสตชนอย่างละเอียด ปัญหาเหล่านี้แม้จะดูหนักมากก็จริง แต่ก็น่าสนใจมากด้วย ในที่สุดนี้ ข้าพเจ้าอยากจะขอภาวนาของความคุ้มครองจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์แห่งนาซาเร็ท
ในครอบครัวศักดิ์สิทธิ์นี้ พระบุตรของพระเจ้าได้ทรงดำเนินพระชนม์ชีพอย่างซ่อนเร้นตลอดเวลาหลายปีตามแผนการอันลึกล้ำของพระเจ้า เพราะฉะนั้นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นตัวอย่าง และคล้ายๆ กับแบบฉบับของครอบครัวคริสตชนทั้งมวล ครอบครัวนี้แม้จะไม่มีครอบครัวใดในโลกนี้เหมือนเลยก็ตาม กระนั้นก็ดีก็ได้ดำรงชีวิตอย่างเงียบๆ และไม่ปรากฏตัวในหมู่บ้านเล็กๆ ของแคว้นปาเลสไตน์ได้อดทนต่อความขัดสน การถูกเบียดเบียน การถูกเนรเทศ ครอบครัวนี้ได้ถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยความเลื่อมใสศรัทธาและความบริสุทธิ์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ฉะนั้น ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นที่พึ่งของครอบครัวคริสตชน รวมถึงครอบครัวทั้งหลายในโลกด้วย ให้ครอบครัวเหล่านั้นได้หมั่นปฏิบัติหน้าที่ประจำวันด้วยความซื่อสัตย์ ให้ครอบครัวพากเพียรอดทนต่อความกังวลและความยุ่งยากในชีวิต ให้ครอบครัวเอาใจใส่ความต้องการของคนอื่นด้วยใจเอื้อเฟื้อ ให้ครอบครัวบำเพ็ญตนตามแผนการของพระเจ้าเกี่ยวกับครอบครัวด้วยความชื่นชมยินดี
ขอให้นักบุญโยเซฟ “ผู้ชอบธรรม” กรรมกรที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ผู้พิทักษ์รักษาคุณค่าที่พระเจ้าทรงฝากกับท่านด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอันสูงส่ง ทรงโปรดคุ้มครอง ปกป้อง และให้แสงสว่างครอบครัวเหล่านั้น
ขอให้พระนางพรหมจารีมารีอา ผู้ทรงเป็นมารดาของพระศาสนจักร โปรดเป็นมารดาของ “พระศาสนจักรระดับครอบครัว” ด้วย อาศัยความช่วยเหลือที่อบอุ่นของพระมารดา ขอให้ครอบครัวชีวิตคริสตชนทั้งหลายได้กลายเป็น “พระศาสนจักรจำลอง” อย่างแท้จริง ซึ่งจะสะท้อนธรรมล้ำลึกแห่งพระศาสนจักรของพระคริสตเจ้าและแสดงธรรมล้ำลึกนั้นออกมาในวิถีชีวิตของตน ขอให้พระนางผู้เป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าได้เป็นแบบฉบับให้แก่ผู้ที่ยอมรับน้ำพระทัยของพระเจ้าด้วยใจสุภาพถ่อมตน และด้วยความปลาบปลื้มปีติยินดี ขอให้พระนางผู้เคยเป็นมารดาที่ตรมตรอมที่เชิงไม้กางเขนโปรดเป็นผู้บรรเทาความทุกข์ทรมาน และเป็นผู้เช็ดน้ำตาของผู้ที่เศร้าโศกเพราะความยากลำบากของครอบครัว
ขอให้พระคริสต์ผู้ทรงเป็นพระเจ้า พระราชาแห่งสากลโลกและพระราชาของครอบครัวทั้งหลาย ทรงโปรดสถิตอยู่ในบ้านของคริสตชนทุกหลัง อย่างที่พระองค์ทรงเคยสถิตที่เมืองคานา เพื่อให้พระองค์ทรงนำความสว่าง ความชื่นชมยินดี ความสงบ และความเข้มแข็งมาสู่บ้านเหล่านี้ ในวันนี้ซึ่งเป็นวันฉลองพระสิริมงคลของพระองค์ผู้ทรงเป็นกษัตริย์ ข้าพเจ้าอ้อนวอนขอให้ทุกครอบครัวได้รู้จักมีส่วนร่วมในการที่จะให้พระอาณาจักรของพระองค์มาถึงมนุษย์ทั้งหลาย ซึ่งเป็น “อาณาจักรที่เต็มไปด้วยสัจธรรมและชีวิต ความศักดิ์สิทธิ์และความเที่ยงธรรม ความรักและสันติภาพ” อันเป็นจุดหมายปลายทางที่มนุษย์ทั้งหลายกำลังแสวงหา
ข้าพเจ้าขอฝากแต่ละครอบครัวไว้กับพระคริสตเจ้า กับพระนางมารีย์ และกับนักบุญโยเซฟ ข้าพเจ้าวางสมณสารนี้ในพระหัตถ์และพระหฤทัยของพระองค์ ขอให้พระองค์ท่านมอบสมณสารนี้ให้แก่ท่านพี่น้องที่เคารพและบรรดาลูกที่รัก ขอพระองค์ท่านทรงโปรดเปิดจิตใจของท่านให้รับแสงสว่างซึ่งพระวรสารส่องมาถึงทุกครอบครัว
ข้าพเจ้าสวดอธิษฐานอุทิศให้แก่ท่านทั้งหลายแต่ละคน และประทานพระพรให้แก่ท่านจากใจจริงของข้าพเจ้าในนามของพระบิดาและพระบุตรและพระจิต
ให้ไว้ ณ กรุงโรม มหาวิหารนักบุญโตร วันที่ 22 เดือนพฤศจิกายน 1981 ตรงกับวันฉลองพระคริสตเจ้า พระราชาแห่งสากลโลก ในปีที่ 4 แห่งสมณสมัยของข้าพเจ้า
ยอห์น ปอล ที่ 2
พระสันตะปาปา