บางวัน การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำให้ฉันรู้สึกทะยานเหมือนนกอินทรี แต่บางวันมันทำให้ฉันรู้สึกงุ่มง่ามอย่างกับฮิปโป ในวัน “นกอินทรี” ฉันขอบคุณพระเจ้าที่มีคอมพิวเตอร์ แต่ในวัน “ฮิปโป” ฉันคิดว่าฉันไม่น่าซื้อมันมาใช้เลย
เมื่อเร็วๆ นี้ ฉันต้องสู้รบกับไวรัสที่ติดเข้ามาในเครื่องของฉัน สิ่งที่น่าหงุดหงิดคือเจ้าไวรัสนี้ถูกสร้างมาอย่างประสงค์ร้าย คนมีปัญญาที่ใช้ชีวิตอยู่ในความมืด อยากจะทำให้คนอื่นพบปัญหา ที่แย่ที่สุดคือ ฉันปล่อยให้มันเข้ามาในเครื่องของฉัน โดยการเปิดอีเมลล์ที่คิดว่าปลอดภัย
ความบาปเหมือนกับไวรัสคอมพิวเตอร์ ซาตานต้องการจะทำลายคริสตชนด้วยการแพร่เชื้อบาปเข้ามาสู่ใจของเรา แต่นักบุญเปาโลแนะนำผู้มีความเชื่อในเมืองโครินธ์ให้ “ปรับความคิดทุกอย่างให้มาอ่อนน้อมเชื่อฟังพระคริสตเจ้า” (2 คร.10:5)
เรายอมให้ความมืดเข้ามาสู่ชีวิต แบบเดียวกับที่เรายอมให้ไวรัสเข้ามาในคอมพิวเตอร์ หากเราประมาทและเปิดตนเองต่อสิ่งชั่วร้าย ที่แทรกซึมอยู่ในวัฒนธรรมของเรา เราลดโล่ป้องกันของเราลง และแทบจะไม่ได้สังเกตเห็นเชื้อบาปที่ติดเข้ามาในความคิดของเราเลย
แต่โดยการไปสารภาพบาป การอ่านพระคัมภีร์ และการภาวนาอธิษฐาน เราได้สร้างกำแพงหรือเกราะป้องกันขึ้น เพื่อปกป้องความคิดของเรา ด้วยความช่วยเหลือของพระจิตเจ้า เราจะรักษาความคิดของเราไม่ให้กลายเป็นเจ้าบ้านที่รับแขกไม่พึงประสงค์ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
“เราเป็นมนุษย์ก็จริง แต่เราไม่ต่อสู้ตามวิธีการของมนุษย์ อาวุธที่เราใช้ต่อสู้ไม่ใช่อาวุธตามธรรมชาติ แต่เป็นอาวุธที่มีอานุภาพจากพระเจ้า ทำลายป้อมปราการได้ เราทำลายความคิดและความหยิ่งยโส ซึ่งยกตัวขึ้นต่อสู้กับความรู้ของพระเจ้าได้ เราปรับความคิดทุกอย่างให้มาอ่อนน้อมเชื่อฟังพระคริสตเจ้า เมื่อท่านเชื่อฟังอย่างดีแล้ว เราก็พร้อมที่จะลงโทษความไม่เชื่อฟังทุกอย่าง” (2 โครินธ์ 10:3-6)
ข้าแต่พระบิดาเจ้าฟ้าสวรรค์
ข้าพระองค์มักจะไม่ระมัดระวังกับสิ่งที่เข้ามาในความคิด
ในวันนี้ ขอพระจิตเจ้า โปรดช่วยข้าพระองค์
ให้เฝ้าระวังความคิดของข้าพระองค์
ขอพระหรรษทานของพระองค์ ปกป้องข้าพระองค์
ให้พ้นจากการคิดร้าย
และสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความสับสนวุ่นวายในความคิด
ที่มา เรื่องเล่าชวนศรัทธา แม่พระยุคใหม่