การจัดการกับความโกรธ
เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยโกรธมากบ้างน้อยบ้างตามแต่เหตุการณ์ บางคนอาจจะแสดงออกมาก บางคนอาจจะแสดงออกน้อย ความโกรธเป็นอารมณ์ปกติของทุกคน หากไม่มาก และสามารถคุมได้ก็ไม่เกิดปัญหา แต่หากอารมณ์โกรธมากเกินความควบคุมก็จะเกิดปัญหากับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล กับงาน และคุณภาพชีวิต
ความโกรธคืออะไร
ความโกรธคืออารมณ์หนึ่งของคนเรา เหมือน รัก เสียใจ ซึ่งมักมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจเช่น หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง เนื่องจากมีการหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความเครียด สาเหตุของความโกรธอาจจะเกิดจากภายนอก เช่น คนบางคนเมื่อเห็นหน้าก็จะเกิดอารมณ์ เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย หรือเหตุการณ์เช่นรถติด น้ำท่วม ความโกรธอาจจะเกิดจากภายในตัวเอง เช่นสุขภาพตัวเอง ความจำเสื่อม
การแสดงออกของความโกรธ
ความโกรธเป็นเป็นการเตรียมพร้อมของเราในการป้องกันตัวเองจากสิ่งที่มากระทบกับตัวเรา การแสดงออกมักจะเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนและพฤติกรรมก้าวร้าว แต่สังคมมีกฎเกณฑ์ และกฎหมายดังนั้นทุกคนควรที่จะควบคุมอารมณ์โกรธให้อย่างเหมาะสมซึ่งมีวิธีการดังนี้
การแสดงออก expression การแสดงออกถึงความโกรธไม่ใช่ให้แสดงความก้าวร้าวแต่ให้แสดงว่าท่านต้องการอะไร และจะได้สิ่งนั้นได้อย่างไรโดยที่ไม่ทำร้ายคนอื่นโดยหลักการเคารพตัวเองและเคารพผู้อื่นด้วย
การกดความโกรธ suppressing ซึ่งสามารถกระทำได้โดยหยุดคิดเรื่องที่โกรธ คิดสิ่งที่ดีและมีความสุขเปลี่ยนความโกรธไปในทางสร้างสรรค์ ข้อเสียคือเมื่อท่านไม่สามารถแสดงความโกรธ ความเครียดยังคงอยู่อาจจะทำให้ท่านเป็นความดันโลหิตสูง หรือซึมเศร้า นอกจากนั้นอาจจะทำให้เกิดผลเสียอย่างอื่นคือไปแสดงความโกรธกับคนอื่นที่ไม่มีส่วนร่วม กล่าวร้ายลับหลังแทนที่จะเผชิญหน้าถกปัญหา มักจะมีพฤติกรรมพูดจาถักถางไม่เป็นมิตร ดูถูกคนอื่นเป็นประจำ ตำหนิในทุกๆเรื่อง คนกลุ่มนี้มักจะมีเพื่อนน้อย
การระงับความโกรธ คือนอกจากจะไม่แสดงความโกรธแล้วยังต้องควบคุมอารมณ์ และชีพขจร
การจัดการกับความโกรธ
เป้าประสงค์ของการจัดการกับความโกรธคือลดอารมณ์โกรธ และการตอบสนองต่อความโกรธทั้งทางร่างกายและจิตใจ ท่านไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนหรือสิ่งที่ทำให้ท่านโกรธแต่ท่านสามารถควบคุมความโกรธได้ซึ่งมีวิธีการดังนี้
การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
การเปลี่ยนขบวนความคิด
การแก้ปัญหา ปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางแก้ไข วางแผนการแก้ปัญหาให้ดีที่สุด และไม่ต้องกล่าวโทษตัวเองหากปัญหานั้นยังไม่สามารถแก้ได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าคุณจะได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
การสื่อสารที่ดี คนที่โกรธมักจะด่วนหาข้อสรุป เมื่อมีความโกรธอย่ารีบตัดสินใจ อย่าพูดสิ่งที่ผุดขึ้นมาจากสมอง ให้คิดก่อนว่าต้องการอะไร ต้องพูดอย่างไร ขณะเดียวกันต้องรับฟังความคิดเห็นคนอื่นและคิดก่อนที่จะตอบ เมื่อมีการตำหนิท่านจงรับฟังและพิจารณาเนื้อหาว่าเป็นจริงแค่ไหน ห้ามโกรธแค้นคนที่ตำหนิ
การใช้อารมณ์ขัน เมื่อมีความโกรธหรือความเครียดจงใช้อารมณ์ขันช่วยแก้สถานการณ์ แต่ต้องใช้ให้ถูกกาลเทศะ
เตือนตัวเองด้วยคำง่ายๆ เช่น ใจเย็นๆ
การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม หลีกเลี่ยงสิ่งแวดล้อมที่ทำให้ท่านโกรธ เช่น เลี่ยงการจราจร เลี่ยงการพูดเรื่องที่ทำให้โกรธ
เปลี่ยนเวลาคุย หากพบว่าการพูดคุยหรือปรึกษาบางเวลาทำให้เกิดความโกรธ เช่นการพูดคุยเวลาเย็นทำให้โกรธง่าย อาจจะเนื่องจากเครียดจากงาน ให้เปลี่ยนเวลามาตอนเช้า
หลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นทำให้โกรธ เช่นการถกปัญหาในบางเรื่อง
หาทางเลี่ยง เช่นการเลียงเวลาออกจากบ้านเพื่อป้องกันรถติด
การเปลี่ยนขบวนความคิด
คนเราเมื่อโกรธมักจะลืมตัว พูดจาเสียงดัง ด่าคน พูดคำหยาบ และอาจจะไม่มีเหตุผล ขณะที่โกรธมักจะคิดว่าสิ่งนั้นมันน่าโมโห ทุกอย่างได้พังหมดแล้ว ให้เปลี่ยนเป็นว่าเรากำลังหัวเสีย เรากำลังไม่พอใจ ความโกรธไม่สามารถแก้ปัญหาและอาจจะทำให้เกิดปัญหามากขึ้น
อย่าใช้คำว่า "ไม่" และ "เสมอ" กับตัวเองและคนอื่น เพราะจะหาเหตุผลว่าที่เราโกรธนั้นถูกต้อง และไม่มีทางที่จะแก้ไขเช่น ไม่ทำงาน หรือลืมเสมอ มีการพิสูจน์แล้วว่าการใช้คำดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และยังก่อให้เกิดความบาดหมางระหว่างเพื่อนร่วมงานด้วย ตัวอย่างเช่นการนัดประชุมมักจะมีคนที่สายประจำ อย่ากล่าวว่า "เธอสายเป็นประจำ" "เธอเป็นคนไม่รับผิดชอบ" ให้คิดว่าเป้าประสงค์คือการประชุมซึ่งก็ได้มีการประชุมตามเป้าประสงค์ วิธีแก้ปัญหาให้แจ้งแก่คนที่สายถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และปรึกษาว่าจะแก้ปัญหาให้สำเร็จได้อย่างไร อาจจะนัดให้สายอีกครึ่งชั่วโมง เพื่อที่จะมาได้ทันและไม่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์
คนที่โกรธมักจะมีความต้องการหลายๆ อย่าง เช่นความยุติธรรม การยอมรับ ข้อตกลง ความต้องการที่จะทำตามวิธีทางของเขา เมื่อไม่ได้รับตามที่ต้องการก็จะเกิดความโกรธ
ความโกรธแต่ละคนรุนแรงไม่เหมือนกัน
คนบางคนจะมีแนวโน้มที่จะโกรธง่ายและโกรธรุนแรง เนื่องจากมีความทนทานต่อแรงกระตุ้นน้อยกว่าคนอื่น สาเหตุอาจจะเกิดจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม พบว่าเด็กที่เกิดในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีจะอารมณ์เสียง่าย
เมื่อไรจึงจะต้องพบจิตแพทย์
ความโกรธเป็นอารมณ์ของคนปกติ หากอารมณ์ของคุณไม่สามารถควบคุมได้ และส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่นหรือคุณภาพชีวิต และคุณต้องการการเรียนรู้เพื่อที่จะควบคุมการแสดงออก และการจัดการเกี่ยวกับการโกรธ คุณสามารถพบจิตแพทย์หรือนักจิตเพื่อปรับตัวเอง
ขอบคุณบทความดีๆ จาก http://www.siamhealth.net
บทความจากหนังสือพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่
(มธ. 5:22 [ThCB])
แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า ทุกคนที่โกรธเคืองพี่น้อง จะต้องขึ้นศาล ผู้ใดกล่าวแก่พี่น้องว่า ‘ไอ้โง่’ ผู้นั้นจะต้องขึ้นศาลสูงผู้ใดกล่าวแก่พี่น้องว่า ‘ไอ้โง่บัดซบ’ ผู้นั้นจะต้องถูกปรับโทษถึงไฟนรก
(อฟ. 4:26 [ThCB])
แม้ท่านจะโกรธ ก็อย่าให้เป็นบาป จงเลิกโกรธก่อนดวงอาทิตย์ตก
(ยก. 1:19 [ThCB])
พี่น้องที่รัก พึงตระหนักว่า ทุกคนจงฉับไวที่จะฟัง แต่ช้าที่จะพูด และช้าที่จะโกรธ
(ยก. 1:20 [ThCB])
คนที่โกรธย่อมไม่ปฏิบัติตนชอบธรรมตามพระประสงค์ของพระเจ้า