เจ้าหญิงไลลาธิดาของกษัตริย์เปอร์เซีย ทรงรักกับมาจนันชายหนุ่มผู้มีฐานะยากจน เพื่อแสดงความรักต่อชายหนุ่ม เจ้าหญิงได้ขอร้องกษัตริย์ให้ประกาศว่า หากมาจนันต้องการอะไรขอให้ร้านค้าทุกแห่งในเมืองมอบสิ่งนั้นให้กับเขา และมาเก็บเงินที่ท้องพระคลัง
ไม่นานนักปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้นเพราะมีชายหนุ่มมากมายอ้างตนว่าเป็นมาจนัน ชายหนุ่มเหล่านั้นเข้าไปตามร้านค้า หยิบสิ่งที่เขาต้องการ และบอกให้เจ้าของร้านไปเก็บเงินที่ท้องพระคลัง มีพ่อค้าแม่ค้ามากมายมาเฝ้ากษัตริย์เพื่อทูลให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พระราชาสัญญาว่าจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น
พระองค์เรียกพระธิดามาเข้าเฝ้าแจ้งปัญหาให้เธอทราบว่า “มีชายมากมายที่อ้างตนเป็นมาจนันเพราะเขาได้ประโยชน์จากสิ่งที่ลูกขอจากพ่อ” พระธิดาทรงรับปากว่าจะแก้ไขปัญหานี้ให้สำเร็จในวันรุ่งขึ้น
เช้าวันรุ่งขึ้นเจ้าหญิงไลลาเรียกหัวหน้ามหาดเล็กเข้าเฝ้า และสั่งให้เข้าไปในเมืองและประกาศว่า “หากมาจนันรักเจ้าหญิงไลลาจริง ขอให้ปรากฏตัวต่อหน้ามหาดเล็ก และเฉือนหัวใจของตนมอบให้กับเจ้าหญิงเป็นการพิสูจน์รักแท้” มหาดเล็กนำข้อความที่เจ้าหญิงสั่งไปประกาศในเมือง ชายที่เคยอ้างตนเป็นมาจนันได้แต่ก้มหน้า บางคนค่อยๆ เดินหนีไป มีเพียงมาจนันตัวจริงที่ก้าวออกมา และกล่าวว่า “ข้าไม่เคยต้องการของกำนัลใดๆ ที่เจ้าหญิงมอบให้แก่ข้า ดังนั้นเมื่อเจ้าหญิงประกาศว่าข้าวของอะไรที่ข้าต้องการ ข้าสามารถหยิบฉวยได้จากร้านค้าต่างๆ ในเมืองโดยไม่ต้องจ่ายเงิน ข้าจึงไม่เคยใช้สิทธินั้น แต่เมื่อเจ้าหญิงต้องการหัวใจของข้าเพื่อพิสูจน์ความรักที่ข้ามีต่อพระนางข้ายินดีและพร้อมเสมอ ขอพวกท่านช่วยพาข้าไปเฉือนหัวใจของข้าต่อหน้าเจ้าหญิงไลลาอันเป็นที่รักของข้าด้วยเถิด” เมื่อมาจนันกล่าวจบ เจ้าหญิงไลลาซึ่งซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ ได้ปรากฏตัว และตรงเข้าสวมกอดมาจนัน และไม่นานหลังจากนั้นเจ้าหญิงก็ได้อภิเษกกับชายหนุ่มที่รักพระนางด้วยความจริงใจ
ชวนคิดสะกิดใจ
ความรักแท้อาจมองเห็นไม่ชัดเวลามีความสุข เวลาปกติในชีวิต แต่ในยามยากลำบากมันจะแสดงตัวของมันอย่างชัดเจน มันทำให้พ่อคิดถึงคำพูดของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวในพิธีศีลสมรสซึ่งมีความหมายมาก เพราะเขาประกาศว่าเขามีรักแท้ต่อกัน “ผม(ดิฉัน)... ขอรับคุณ....เป็นภรรยา(สามี) และขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่”