พระเจ้าทรงเรียกศิษย์คนหนึ่งและสั่งให้เขาเดินไปในถนนสายหนึ่ง เพื่อที่เป็นหลักประกันว่าศิษย์ผู้นั้นจะได้รับความคุ้มครองและเดินทางอย่างปลอดภัย พระองค์ทรงสั่งเขาว่า “ถ้าลูกต้องการความช่วยเหลือขอให้ร้องเรียกเราได้ทุกเวลา”
ศิษย์เริ่มออกเดินทางไปตามถนนที่พระเจ้าทรงบอก เขาพบกับความยากลำบาก ความทุกข์ อุปสรรคบนถนนสายที่พระเจ้าสั่งให้เขาเดินเป็นระยะ เมื่อถึงเวลาค่ำ ด้วยความลำบากที่เขาเผชิญมาทั้งวัน เขาร้องไห้คร่ำครวญอย่างขมขื่น ในที่สุดเมื่อเขารู้สึกเจ็บปวดจนสุดจะทานทน เขาร้องทูลต่อพระเจ้าว่า “พระเจ้าข้า โปรดช่วยลูกด้วย”
พระเจ้าปรากฏพระองค์ในทันใด พระองค์ทรงประทานพละกำลังและทรงปลอบโยนเขา “ข้าแต่พระเจ้า” เขาคร่ำครวญ “ทำไมพระองค์จึงเพิ่งเสด็จมาช่วยลูกตอนนี้ ลูกทนทุกข์จะแย่อยู่แล้ว”
“ลูกเอ๋ย” พระเจ้าทรงยิ้ม “นั่นเป็นเพราะว่าลูกเพิ่งเรียกเราตอนนี้ต่างหาก”
ชวนคิดสะกิดใจ
พระเยซูเจ้าตรัสว่า “จงตื่นเฝ้าและอธิษฐานภาวนา เพื่อจะได้ไม่เข้าสู่การทดลอง จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่เนื้อหนังอ่อนกำลัง” (มธ 26:41) เวลาที่เราพบกับความยากลำบากในชีวิต เราคิดถึงใคร? คิดถึงอะไร? เราแก้ปัญหาอย่างไร? เราคิดถึงและวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้ามากน้อยแค่ไหน? และเราคิดว่าเพียงพอหรือไม่?