Fritz Kreisler นักไวโอลินที่มีชื่อเสียงของโลก เขามักช่วยเหลือผู้ยากไร้จากเงินที่เขาได้รับมาจากคอนเสิร์ตและการแต่งเพลง เขาไปพบไวโอลินตัวหนึ่งระหว่างการแสดงตามที่ต่างๆ เขาชอบมันมากแต่ก็ไม่มีเงินที่จะซื้อมัน เขาพยายามรวบรวมเงินและกลับไปซื้อ แต่ไวโอลินนั้นถูกขายให้แก่นักสะสมไปแล้ว
เขาก็ตามไปถึงที่บ้านของนักสะสมและขอซื้อแต่ก็ได้คำตอบว่าไวโอลินตัวนี้กลายเป็นของสะสมที่มีค่าที่สุดเท่าที่เขาเคยมีมา เขาจะไม่ขายมัน ตอนที่เขากำลังจะลากลับเขาก็คิดว่าควรทำอะไรบางอย่าง เขาถามว่า ผมขอเล่นไวโอลินตัวนี้สักครั้งในชีวิตได้มั้ยครับก่อนที่ผมจะไม่พบมันอีก เขาได้รับอนุญาต เพลงที่เขาเล่นวันนั้นเต็มไปด้วยชีวิตชีวา จับใจและปลุกเร้าอารมณ์อย่างยิ่งทำให้นักสะสมซาบซึ้งใจจนยากจะบรรยาย เขาพูดขึ้นว่า ผมไม่มีสิทธิ์จะเก็บไวโอลินตัวนี้ใว้เอง มันเป็นของคุณแล้ว นำมันไปให้โลกรู้จักเถอะ ให้คนทั้งหลายได้ยินเสียงของมัน
Take it into the world and let the people hear it. ประโยคนี้แปลได้เหมือนกันว่า จงไปทั่วโลกประกาศพระวรสาร แต่เราคงต้องรู้จักและคุ้นเคยกับพระวรสารเสียก่อนจึงจะบรรเลงไพเราะแบบนี้ได้ เป็นเพลงแห่งชีวิตนิรันดร เรามีข่าวดีที่จะนำไปให้โลก จะทำให้โลกมีชีวิตชีวา จับใจ ปลุกเร้าใจและซาบซึ้งใจ ชีวิตคริสตชนของเราช่างมีค่าจริงๆครับจนไม่สามารถถูกเก็บใว้เฉยๆ ชีวิตทุกชีวิตประกาศข่าวดีได้เสมอครับ
(Credit จาก Facebook คุณพ่อสุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์)