สภษ. 22:3 คนเฉลียวฉลาดเห็นอันตรายและซ่อนตัว แต่คนขาดสติเดินต่อไป และรับอันตรายนั้น
มธ. 7:24-25 ผู้ใดฟังถ้อยคำเหล่านี้ของเราและปฏิบัติตาม ก็เปรียบเสมือนคนมีปัญญาที่สร้างบ้านไว้บนหิน ฝนจะตก น้ำจะไหลเชี่ยว ลมจะพัดโหมเข้าใส่บ้านหลังนั้น บ้านก็ไม่พัง เพราะมีรากฐานอยู่บนหิน
สภษ. 11:12 ผู้ที่ดูถูกเพื่อนบ้านย่อมขาดสามัญสำนึก ผู้เฉลียวฉลาดย่อมเงียบ
สภษ. 8:12 ดิฉันคือปรีชาญาณ พำนักอยู่กับความรอบคอบ ดิฉันพบความรู้และความรู้จักคิด
สภษ. 3:19-21 พระยาห์เวห์ทรงวางฐานแผ่นดินด้วยปรีชาญาณ ทรงจัดวางท้องฟ้าด้วยความเข้าใจ ความรู้ของพระองค์เปิดขุมลึก ทำให้เมฆหยาดน้ำค้างลงมา ลูกเอ๋ย จงรักษาคำแนะนำและความรู้จักคิดเอาไว้ อย่าให้ทั้งสองสิ่งนี้คลาดสายตาของลูกไปเลย
สดด. 107:43 ผู้ใดฉลาด พึงจดจำเรื่องเหล่านี้และใส่ใจไว้ จะได้เข้าใจความรักมั่นคงของพระยาห์เวห์
สดด. 112:5 ผู้ที่มีใจเอื้อเฟื้อและให้ยืมย่อมอยู่เป็นสุข เขาดำเนินกิจการอย่างยุติธรรม
สภษ. 16:20-21 ผู้ยอมฟังคำสั่งสอนย่อมพบความดี ผู้วางใจในพระยาห์เวห์ย่อมเป็นสุข ผู้ตัดสินอย่างมีปรีชานับได้ว่าเป็นผู้เฉลียวฉลาด ถ้อยคำอ่อนหวานทำให้คำสั่งสอนมีน้ำหนักมากขึ้น
ฮชย. 14:9 ผู้มีปรีชาพึงเข้าใจเรื่องเหล่านี้ ผู้ใดฉลาดก็จงรู้ เพราะหนทางทั้งหลายของพระยาห์เวห์ล้วนเที่ยงธรรม ผู้ชอบธรรมย่อมเดินตามทางนี้ แต่ผู้ล่วงละเมิดจะสะดุดล้ม
สภษ. 12:23 คนฉลาดย่อมซ่อนความรู้ แต่คนโง่เขลาประกาศความโง่ของตน
สภษ. 4:20-22 ลูกเอ๋ย จงตั้งใจฟังถ้อยคำของพ่อ จงเงี่ยหูฟังคำพูดของพ่อ อย่าให้ถ้อยคำเหล่านี้คลาดสายตาของลูก จงรักษาไว้ในใจของลูก เพราะถ้อยคำเหล่านี้เป็นชีวิตแก่ผู้ที่พบ เป็นยารักษาทุกคนให้มีสุขภาพดี
รม. 16:19 การเชื่อฟังของท่านเป็นที่เลื่องลือไปถึงทุกคน ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงชื่นชมท่าน ต้องการให้ท่านเป็นผู้รอบรู้ในสิ่งที่ดีและไม่เกี่ยวข้องกับความชั่ว
สดด. 2:10 ดังนั้น กษัตริย์ทั้งหลายเอ๋ย จงมีความฉลาดเถิด บรรดาเจ้านายของแผ่นดินเอ๋ย จงเรียนรู้เถิด
สภษ. 14:15 คนขาดสติเชื่อทุกคำที่ผู้อื่นพูด แต่คนฉลาดระวังก้าวเดินของตน
สภษ. 7:4 จงพูดกับปรีชาญาณว่า “เธอเป็นพี่สาวของฉัน” จงเรียกความเข้าใจว่า “เพื่อนสนิท”
อฟ. 5:17 อย่าเป็นคนโง่เขลา แต่จงพยายามเข้าใจว่าพระเจ้าทรงประสงค์สิ่งใด
สดด. 32:8 ข้าพเจ้าจะสอนท่านและจะชี้ทางเดินให้ท่าน ข้าพเจ้าจะคอยดูแลให้คำปรึกษาแก่ท่าน
สภษ. 13:14-15 คำสอนของผู้มีปรีชาเป็นพุน้ำแห่งชีวิต เพื่อหลีกเลี่ยงบ่วงแร้วของความตาย สามัญสำนึกย่อมได้รับความโปรดปราน แต่หนทางของผู้ทรยศนำไปสู่ความพินาศ
ดนล. 12:3 บรรดาผู้มีปัญญาจะส่องแสงเหมือนแสงสว่างบนท้องฟ้า และบรรดาผู้ที่ช่วยคนจำนวนมากให้มีความชอบธรรมจะส่องแสงเหมือนดวงดาวตลอดไป
สภษ. 16:16 มีปรีชาญาณย่อมดีกว่ามีทองคำ มีความเข้าใจย่อมดีกว่ามีเงิน
โยบ 12:16-17 พระองค์ทรงพระอานุภาพและทรงรอบรู้ทุกสิ่ง พระองค์ทรงควบคุมทั้งผู้ถูกลวงและผู้หลอกลวง พระองค์ทรงทำให้บรรดาที่ปรึกษาไร้ปัญญา ทรงทำให้ผู้พิพากษาเป็นคนโง่
อสย. 33:6 พระองค์จะทรงเป็นความมั่นคงของท่านตลอดเวลา ทรงเป็นความรอดพ้น ปรีชาญาณ และความรู้อย่างอุดมสมบูรณ์ ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นทรัพย์สมบัติของศิโยน
ยก. 1:5 ท่านใดขาดปรีชาญาณ จงขอปรีชาญาณนั้นจากพระเจ้าเถิด พระองค์ประทานให้ทุกคนด้วยพระทัยกว้างโดยไม่ทรงตำหนิเลย แล้วเขาจะได้รับปรีชาญาณตามที่ขอ
สภษ. 24:13-14 ลูกเอ๋ย จงกินน้ำผึ้ง เพราะเป็นของดี น้ำผึ้งที่หยดจากรวงนั้นมีรสหวาน จงรู้เถิดว่าปรีชาญาณจะเป็นเช่นนั้นสำหรับชีวิตของลูก ถ้าลูกได้ปรีชาญาณ ลูกก็จะมีอนาคต และความหวังของลูกจะไม่ล้มเหลว
1คร. 8:2 ถ้าผู้ใดคิดว่าตนมีความรู้เรื่องใดๆ เขายังไม่รู้เท่าที่ควร
1คร. 2:6-8 เราพูดถึงปรีชาญาณในหมู่ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วแต่มิใช่ปรีชาญาณของโลกนี้หรือของผู้ปกครองโลกนี้ซึ่งกำลังจะสูญสิ้นไป แต่เรากล่าวถึงพระปรีชาญาณของพระเจ้า เป็นธรรมล้ำลึกอันซ่อนเร้นซึ่งพระเจ้าทรงกำหนดล่วงหน้าไว้ก่อนปฐมกาลสำหรับสิริรุ่งโรจน์ของเรา ไม่มีผู้ปกครองโลกนี้ผู้ใดล่วงรู้พระปรีชาญาณนี้ เพราะถ้าเขารู้ เขาคงไม่ตรึงกางเขนองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระสิริรุ่งโรจน์