พระวาจาหนุนใจ – ความรักต่อเพื่อนมนุษย์
1คร. 13:13 ขณะนี้ยังมีความเชื่อ ความหวังและความรักอยู่ทั้งสามประการแต่ที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดทั้งหมดคือ ความรัก
ลนต. 19:18 ท่านจะต้องไม่แก้แค้น หรืออาฆาตชนชาติเดียวกับท่าน แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราคือพระยาห์เวห์
1ยน. 4:8 ผู้ไม่มีความรัก ย่อมไม่รู้จักพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก
1ยน. 3:10 เราจำแนกบุตรของพระเจ้าจากบุตรของปีศาจได้โดยวิธีนี้ คือทุกคนที่ไม่ประพฤติชอบ และไม่รักพี่น้องของตน ก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า
มธ. 5:43-45 ท่านทั้งหลายได้ยินคำกล่าวว่า จงรักเพื่อนบ้าน จงเกลียดศัตรู แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า จงรักศัตรูจงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน เพื่อท่านจะได้เป็นบุตรของพระบิดาเจ้าสวรรค์ พระองค์โปรดให้ดวงอาทิตย์ของพระองค์ขึ้นเหนือคนดีและคนชั่ว โปรดให้ฝนตกเหนือคนชอบธรรมและคนอธรรม
1ยน. 3:11 นี่คือคำสอนที่ท่านทั้งหลายได้ฟังมาตั้งแต่แรกเริ่ม คือเราจงรักกัน
1คร. 13:1-3 แม้ข้าพเจ้าพูดภาษาของมนุษย์และของทูตสวรรค์ได้ ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็เป็นแต่เพียงฉาบหรือฉิ่งที่ส่งเสียงอึกทึก แม้ข้าพเจ้าจะประกาศพระวาจา เข้าใจธรรมล้ำลึกทุกข้อ และมีความรู้ทุกอย่าง หรือมีความเชื่อพอที่จะเคลื่อนภูเขาได้ ถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใด แม้ข้าพเจ้าจะแจกจ่ายทรัพย์สินทั้งปวงให้แก่คนยากจน หรือยอมมอบตนเองให้นำไปเผาไฟเสียถ้าไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็มิได้รับประโยชน์ใด
1ยน. 4:20-21 ถ้าผู้ใดพูดว่า “ฉันรักพระเจ้า” แต่เกลียดชังพี่น้องของตน ผู้นั้นย่อมเป็นคนพูดเท็จ เพราะผู้ไม่รักพี่น้องที่เขาแลเห็นได้ ย่อมไม่รักพระเจ้าที่เขาแลเห็นไม่ได้ เราได้รับบทบัญญัตินี้จากพระองค์ คือให้ผู้ที่รักพระเจ้า รักพี่น้องของตนด้วย
มธ. 5:24 จงวางเครื่องบูชาไว้หน้าพระแท่น กลับไปคืนดีกับพี่น้องเสียก่อน แล้วจึงค่อยกลับมาถวายเครื่องบูชานั้น
ยน. 15:12-13 นี่คือบทบัญญัติของเรา ให้ท่านทั้งหลายรักกัน เหมือนดังที่เรารักท่าน ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่ กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย
1ยน. 4:11-12 ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราเช่นนี้ เราก็ควรจะรักกันด้วย ไม่มีผู้ใดเคยเห็นพระเจ้า แต่ถ้าเรารักกัน พระเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ในเรา และความรักของพระองค์ในเราก็จะสมบูรณ์
1คร. 6:5-8 ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้เพื่อให้ท่านละอายใจ ในหมู่ท่านไม่มีใครสักคนที่ฉลาดพอจะตัดสินความระหว่างพี่น้องกันเองได้หรือ แล้วทำไมพี่น้องต้องเป็นความกัน ยิ่งกว่านั้นยังเป็นความกันต่อหน้าผู้ไม่มีความเชื่อด้วย อันที่จริง เมื่อท่านมีคดีพิพาทกัน ก็นับว่าเป็นการพ่ายแพ้อยู่แล้ว ท่านยอมถูกรังแกมิดีกว่าหรือ ท่านยอมถูกโกงมิดีกว่าหรือ แต่ท่านกลับไปรังแกและฉ้อโกงกันระหว่างพี่น้องด้วย
1คร. 8:11-12 ดังนั้น ความรู้ของท่านทำให้ผู้อ่อนไหวประสบหายนะ เขาเป็นพี่น้องซึ่งพระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพื่อเขา ถ้าท่านทำบาปต่อพี่น้องและทำร้ายมโนธรรมที่อ่อนไหวของเขา ท่านก็ย่อมทำบาปต่อพระคริสตเจ้า
รม. 13:8 อย่าเป็นหนี้ผู้ใด นอกจากเป็นหนี้ความรักซึ่งกันและกัน ผู้ที่รักเพื่อนมนุษย์ก็ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติครบถ้วนแล้ว
รม. 12:10 จงรักกันฉันพี่น้อง จงคิดว่าผู้อื่นดีกว่าตน
ฮบ. 10:24 เราจงพิจารณาหาทางปลุกใจกันและกันให้มีความรักและประกอบกิจการดี
กท. 5:14 เพราะธรรมบัญญัติทั้งหมดสรุปได้เป็นข้อเดียวว่า จงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง
1ธส. 4:9 ส่วนเรื่องความรักฉันพี่น้องนั้น ไม่จำเป็นต้องเขียนบอกอะไรท่านอีก เพราะท่านได้รับคำสอนจากพระเจ้าให้รักกัน
1ปต. 2:17 จงให้เกียรติทุกคน จงรักพี่น้องผู้มีความเชื่อ จงเคารพยำเกรงพระเจ้า จงถวายพระเกียรติแด่พระจักรพรรดิ
1ยน. 3:16-19 เรารู้จักความรัก จากการที่พระองค์ทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อเรา เราจึงควรสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้องเช่นเดียวกัน ถ้าผู้ใดมีทรัพย์สมบัติของโลกนี้ และเห็นพี่น้องของตนขาดแคลน แต่ยังมีใจแคบต่อเขา ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในผู้นั้นได้อย่างไร ลูกที่รักทั้งหลาย เราอย่ารักกันแต่ปาก เพียงด้วยคำพูดเท่านั้น แต่เราจงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง จากการกระทำนี้ เราจะรู้ว่าเราอยู่กับความจริง เราจะมั่นใจเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์
ฟป. 1:9 ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนาขอให้ความรักของท่านทวียิ่งขึ้น ทำให้เกิดความรู้และวิจารณญาณทุกเรื่อง