พระวาจาหนุนใจเมื่อคุณจะพูด หรือติดต่อกับผู้อื่น
สภษ. 10:19 คนพูดมากมีโอกาสพูดผิด ผู้ที่ควบคุมปากของตนย่อมเป็นคนรอบคอบ
สภษ. 25:11 ถ้อยคำที่พูดตามกาลเทศะ เป็นเหมือนผลไม้ทองคำบนถาดเงิน
คส. 3:8 บัดนี้ ท่านจงขจัดทุกอย่าง คือความโกรธ ความโมโหร้าย การปองร้าย การสาปแช่ง และการพูดหยาบคาย
2คร. 12:6 ถ้าข้าพเจ้าอยากจะโอ้อวด ข้าพเจ้าก็มิใช่คนโง่เขลา เพราะข้าพเจ้าจะพูดความจริง แต่ข้าพเจ้าระงับไว้เพื่อมิให้ผู้ใดตีราคาข้าพเจ้าเกินกว่าที่เห็นในตัวข้าพเจ้าและที่ได้ฟังจากข้าพเจ้า
สภษ. 29:11 คนโง่เขลาย่อมปล่อยอารมณ์โกรธทั้งหมดออกมา แต่ผู้มีปรีชารู้จักระงับโทสะ
สดด. 39:1 ข้าพเจ้ากล่าวว่า “ข้าพเจ้าจะควบคุมวิถีชีวิตไว้เพื่อจะได้ไม่ทำบาปด้วยคำพูด ข้าพเจ้าจะเอาขลุมครอบปากไว้ ตราบที่คนอธรรมอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า
สภษ. 15:1 คำตอบอ่อนโยนทำให้ความโกรธสงบลง แต่คำพูดทิ่มแทงก่อให้เกิดความโกรธ
สภษ. 11:13 ผู้ชอบซุบซิบนินทาย่อมเปิดเผยความลับ แต่ผู้ที่ไว้วางใจได้ย่อมเก็บความลับ
สดด. 141:3 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอทรงวางยามเฝ้าปากของข้าพเจ้าไว้ ขอทรงวางยามไว้ตรงประตูริมฝีปากของข้าพเจ้า
สภษ. 12:18 ถ้อยคำของผู้พูดพล่อยๆ เป็นเหมือนดาบที่ทิ่มแทง แต่ถ้อยคำของผู้มีปรีชาเป็นการบำบัดรักษา
ยก. 3:2 เพราะเราทุกคนต่างก็ผิดพลาดได้หลายเรื่อง ถ้าผู้ใดไม่ผิดพลาดด้วยวาจา ผู้นั้นย่อมเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ เขาบังคับร่างกายทั้งหมดให้อยู่ใต้อำนาจได้
สภษ. 15:23 ผู้รู้จักให้คำตอบย่อมยินดี คำพูดที่ถูกกาลเทศะย่อมดีมาก
สภษ. 15:28 ใจของผู้ชอบธรรมคิดก่อนจะตอบ แต่ปากของคนชั่วร้ายเทสิ่งชั่วร้ายออกมา
คส. 4:6 จงให้คำพูดของท่านอ่อนโยนและถูกกาลเทศะอยู่เสมอ จงรู้จักตอบทุกคนอย่างดีที่สุด