การอภิบาลครูคำสอนในพระศาสนจักรเฉพาะถิ่น
233 เพื่อจะทำให้การทำงานศาสนบริการด้านการสอนคำสอน ในพระศาสนจักรเฉพาะถิ่นมีความมั่นคง จึงจำเป็นต้องมีการอภิบาลครูคำสอนอย่างเหมาะสมโดยมีการคำนึงถึงองค์ประกอบหลายประการ ซึ่งที่จริงแล้วเป็นความพยายามหลายๆ ประการที่จะต้องกระทำ ดังจะกล่าวต่อไปนี้
- การส่งเสริมกระแสเรียกด้านการสอนคำสอนในวัดและ ชุมชนคริสตชนทั้งหลาย เนื่องจากความต้องการด้านการสอนคำสอนในยุคปัจจุบันมีความผันแปรมาก จึงจำเป็นต้องส่งเสริมให้มีครูคำสอนหลายรูปแบบ โดยที่จะต้องมีการวางมาตรการเพื่อการส่งเสริมให้มี “ครูคำสอนที่มีความชำนาญในด้านต่างๆ” (GMC 5)
- ความพยายามที่จะจัดหาครูคำสอนเต็มเวลาจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ครูเหล่านี้สามารถอุทิศตนทำงานอย่างจริงจัง มีการพัฒนาอย่างมั่นคงในการสอนคำสอนยิ่งขึ้น (CT 66) นอกจากนี้ควรจะส่งเสริมให้มีครูคำสอนที่ทำงานบางเวลา (part time) ซึ่งดูเหมือนจะมีจำนวนมากยิ่งขึ้นเป็นธรรมดาของการพัฒนาการสอนคำสอน (อ้างถึง AG 17; GCM 4)
- การจัดระบบการกระจายครูคำสอนให้สมดุลยิ่งขึ้น เพื่อให้มีครูคำสอนทั่วทุกกลุ่มที่ต้องการเรียนคำสอน การรู้ถึงความต้องการในเรื่องการสอนคำสอนผู้ใหญ่และการสอนคำสอนเยาวชน สามารถช่วยให้การกำหนดปริมาณครูคำสอนที่จะต้องสอนเด็กๆและเยาวชนทั้งหลายได้อย่างสมดุลยิ่งขึ้น
- การสนับสนุนให้มีจิตตาภิบาล (animator) ที่มีหน้าที่ในระดับสังฆมณฑล ในเขตต่างๆ และประจำวัดต่างๆ (อ้างถึง GMC 5)
- การจัดระบบการอบรมครูคำสอนอย่างเหมาะสม ทั้งด้านการฝึกอบรมขั้นพื้นฐานและด้านการฝึกอบรมต่อเนื่อง
- การเอาใจใส่ดูแลเรื่องความต้องการต่างๆ ของครูคำสอนทั้งหลายทั้งด้านส่วนตัวและด้านจิตใจ รวมถึงการเอาใจใส่กลุ่มครูคำสอนในลักษณะเดียวกัน งานด้านนี้เป็นหน้าที่ขั้นพื้นฐานและเป็นเรื่องสำคัญของบรรดาพระสงฆ์ตามชุมชนคริสตชนต่างๆ
- การประสานงานกันระหว่างครูคำสอนกับผู้ทำงานอภิบาลด้านอื่นๆ ในชุมชนคริสตชนต่างๆ เพื่องานการประกาศพระวรสารทั้งหมดจะได้มั่นคง และเพื่อความมั่นใจว่าครูคำสอนจะไม่ถูกแยกออกจากหรือไม่สัมพันธ์กันกับชีวิตของชุมชน