การสอนคำสอนในสถานการณ์เกี่ยวกับคริสตสัมพันธ์ (อ้างถึง GCD(1971) 27; MPG 15; EN 54; CT 32-34)
197 ชุมชนคริสตชนทุกๆชุมชน ตามสภาพความเป็นจริงแท้ๆที่เป็นอยู่ ได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้าให้สำนึกถึงกระแสเรียกด้านคริสตสัมพันธ์ในสถานการณ์ต่างๆ ซี่งชุมชนได้ค้นพบเอง โดยการมีส่วนร่วมเสวนาเกี่ยวกับคริสตสัมพันธ์และแผนการสนับสนุนความเป็นเอกภาพของคริสตชน ดังนั้น การสอนคำสอนจึงถูกเรียกร้องให้แสดงออกถึง “ความสำคัญทางด้านคริสตสัมพันธ์” ในทุกแห่ง (CT 32) โดยลำดับแรก ต้องแสดงถึงการเปิดเผยทั้งหมดของพระเป็นเจ้าที่พระศาสนจักรได้เก็บรักษาไว้ในพระคลัง โดยมีการลำดับตามฐานานุกรมแห่งความจริง (hierarchy of truths) (อ้างถึง UR 11)
ลำดับที่สอง การสอนคำสอนจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องเอกภาพของความเชื่อซึ่งมีอยู่ระหว่างคริสตชนทั้งหลาย และอธิบายถึงการแบ่งแยกต่างๆที่มีระหว่างพวกเขา รวมถึงขั้นตอนที่จะเอาชนะการแบ่งแยกเหล่านี้ (อ้างถึง คู่มือแนะแนวการใช้หลักเกณฑ์และข้อบังคับเกี่ยวกับเรื่องคริสตสัมพันธ์ ข้อ 190 หน้า 1107) การสอนคำสอนยังช่วยกระตุ้นและหล่อเลี้ยงความต้องการเอกภาพแท้จริง โดยเฉพาะด้วยความรักพระคัมภีร์ ในที่สุด การสอนคำสอนช่วยเตรียมเด็กๆ เยาวชนและผู้ใหญ่ให้สามารถดำเนินชีวิตสัมพันธ์กับบรรดาพี่น้องคริสตชนที่มิใช่คาทอลิกได้ โดยที่พวกเขาสามารถพัฒนาทั้งเอกลักษณ์คาทอลิกของพวกเขาและความเคารพในความเชื่อของผู้อื่น
198 ในสถานการณ์ที่มีการเป็นพยานถึงพระคริสต์ในรูปแบบที่ต่างกัน พระสังฆราชอาจจะพิจารณาเห็นว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมหรือมีความจำเป็นที่จะมีการร่วมมือกันระหว่างคริสตชนคาทอลิกกับคริสตชนอื่นๆในการสอนศาสนา และในเวลาเดียวกันก็เป็นเรื่องสำคัญที่คริสตชนคาทอลิกต้องได้รับการรับรองว่าจะมีการสอนคำสอนคาทอลิกอย่างแท้จริง โดยทางการจัดสอนให้เป็นพิเศษและด้วยความเอาใจใส่มากยิ่งขึ้น (อ้างถึง CT 33)
การสอนศาสนาในโรงเรียนต่างๆที่มีคริสตชนนิกายอื่นมาเรียนนั้น สามารถก่อให้เกิดคุณค่าในด้านคริสตสัมพันธ์ด้วย เมื่อมีการเสนอคำสอนคริสตชนอย่างแท้จริง การสอนศาสนานี้เป็นโอกาสให้มีการเสวนาซึ่งจะทำให้อคติและความไม่รู้ข้อมูลของกันและกันถูกขจัดออกไป และมีการเปิดใจกว้างขึ้นเพื่อที่จะมีความเข้าใจกันและกันได้ดีขึ้น