การสอนคำสอนที่เหมาะกับผู้สูงอายุ (อ้างถึง GCD (1971) 95, ChL 48)
ผู้สูงอายุ พระพรที่พระเป็นเจ้ามอบให้พระศาสนจักร
186 ในหลายประเทศ จำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นแทนคำท้าทายพระศาสนจักรในด้านการอภิบาลที่เฉพาะและใหม่ บ่อยทีเดียวที่เราเข้าใจว่าผู้สูงอายุเป็นบุคคลเป้าหมายที่ขาดความกระตือรือร้น และอาจเป็นเพียงสิ่งที่เป็นภาระ อย่างไรก็ตาม โดยการพิจารณาด้วยความเชื่อ เราจะต้องเข้าใจว่าพวกเขาเป็นเสมือนพระพรที่พระเป็นเจ้ามอบให้กับพระศาสนจักรและสังคม จึงจะต้องเอาใจใส่สอนคำสอนให้อย่างเหมาะสม พวกเขาก็มีสิทธิและบทบาทหน้าที่ในเรื่องการสอนคำสอนเช่นเดียวกับคริสตชนทุกคน
เราต้องให้ความสนใจในความหลากหลายของสถานการณ์ต่างๆของบุคคล ครอบครัวและสังคมเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องเข้าใจถึงสาเหตุของบางกรณี เช่น การแยกตัวออกและโอกาสที่จะถูกละเลย ครอบครัวมีหน้าที่ที่สำคัญที่สุด เนื่องจากในครอบครัวเป็นที่ที่มีการประกาศเรื่องความเชื่อภายในบรรยากาศแห่งการยอมรับและความรักซึ่งยืนยันความมีเหตุผลของคำสอนได้ดีที่สุด ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม การสอนคำสอนซึ่งมุ่งไปที่ผู้สูงอายุจะต้องเชื่อมโยงกันกับเนื้อหาของความเชื่อ การเข้าร่วมของครูคำสอนและของชุมชนผู้มีความเชื่ออย่างเอาใจใส่ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่ผู้สูงอายุได้มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในกระบวนการสอนคำสอน
การสอนคำสอนเรื่องความสมบูรณ์และความหวัง
187 การสอนคำสอนให้กับผู้สูงอายุต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับลักษณะบางประการของสภาพความเชื่อของผู้สูงอายุ ในกรณีที่ผู้สูงอายุอาจจะมีความเชื่อที่สมบูรณ์และเข้มแข็ง การสอนคำสอนต้องเป็นลักษณะการนำไปสู่ความสมบูรณ์ของกระบวนการแห่งความเชื่อ ด้วยท่าทีแห่งการโมทนาคุณและการมีความหวังในชีวิตหน้าอย่างเต็มเปี่ยม ส่วนในกรณีผู้สูงอายุที่ดำเนินชีวิตแห่งความเชื่อแบบอ่อนแอโดยการปฏิบัติในฐานะคริสตชนอย่างไม่สมบูรณ์ การสอน คำสอนจะต้องเป็นช่วงเวลาแห่งการให้ความสว่างใหม่และความรู้จากประสบการณ์ทางศาสนา บางครั้งกว่าที่มนุษย์เราจะถึงวัยสูงอายุ เขาก็ได้รับความเจ็บปวดแสนสาหัสทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ ในสภาพเช่นนี้ การสอนคำสอนสามารถช่วยเขาให้ทนต่อภาวะที่ประสบได้ในท่าทีแห่งการภาวนา การให้อภัย และความสงบภายในจิตใจ
อย่างไรก็ดี ภาวะของผู้สูงอายุเรียกร้องให้มีการสอนคำสอนเพื่อให้เกิดความหวัง ซึ่งพัฒนามาจากเรื่องภาวะที่แน่นอนแห่งการพบกับพระเป็นเจ้าในท้ายที่สุด การสอนคำสอนเช่นนี้จะเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้สูงอายุและเป็นการปรับปรุงคุณภาพของชุมชนคริสตชน เมื่อผู้สูงอายุรับภาระเป็นพยานถึงความเชื่อซึ่งเติบโตอย่างสง่างามยิ่งขึ้น ขณะที่พวกเขาค่อยๆ เข้าใกล้ช่วงเวลาอันสำคัญยิ่งที่จะพบกับพระเป็นเจ้า
ปรีชาญาณและการเสวนา (อ้างถึง ChL 48)
188 พระคัมภีร์เสนอภาพชายชราผู้หนึ่งให้แก่เราในฐานะเป็นสัญลักษณ์ของบุคคลที่เปี่ยมด้วยปรีชาญาณ และความยำเกรงพระเป็นเจ้า และเป็นดั่งตู้เก็บความรู้จากประสบการณ์ที่เข้มข้นของชีวิต ซึ่งเหตุนี้ทำให้เขาเป็น “ครูคำสอน” โดยธรรมชาติในชุมชน เขาเป็นพยานคนหนึ่งในกระบวนการสืบทอดความเชื่อ เป็นครูด้วยชีวิตคนหนึ่ง และเป็นคนงานผู้ประกอบด้วยเมตตาจิตคนหนึ่ง การสอน คำสอนให้คุณค่าแก่พระพรนี้ ซึ่งช่วยผู้สูงอายุให้ค้นพบความมีค่ามากมายในตัวของเขา และรับบทบาทเป็นครูคำสอนท่ามกลางเด็กๆ ผู้ที่มักจะยกย่องให้เขาเป็นปู่ย่าตายาย ดังนั้นการเสวนาที่เป็นรากฐานระหว่างคนรุ่นต่างๆ ควรได้รับการสนับสนุนทั้งภายในครอบครัวและภายในชุมชน