การสอนคำสอนผู้ใหญ่ (อ้างถึง ภาคที่ 3 บทที่ 1 ข้อ 142-144; GCD (1971) 20,92-97, CT 43-44; COINCAT, การสอนคำสอนผู้ใหญ่ในชุมชนคริสตชน, 1990)
บรรดาผู้ใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของการสอนคำสอน (อ้างถึง GCD (1971) 20; CT 19,44; COINCAT 10-18)
172 การบรรยายเรื่องความเชื่อให้กับผู้ใหญ่ ต้องพิจารณาอย่างจริงจังถึงประสบการณ์และสถานการณ์ของพวกเขา อีกทั้งการท้าทายที่พวกเขาต้องเผชิญในชีวิต ปัญหาเกี่ยวกับความเชื่อของพวกเขาก็มีอยู่มากมายและหลากหลายเช่นเดียวกับความต้องการของพวกเขา (อ้างถึง COINCAT 10-18) เพราะฉะนั้นจึงอาจแบ่งแยกประเภทของผู้ใหญ่ที่จะรับการสอนคำสอนได้ดังต่อไปนี้
- ผู้ใหญ่คริสตชน ผู้ซึ่งดำเนินชีวิตอย่างยึดมั่นตามทางความเชื่อของพวกเขา และปรารถนาอย่างแท้จริงในความต้องการทำให้ความเชื่อนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น
- ผู้ใหญ่ซึ่งได้รับศีลล้างบาปแล้ว แต่มิได้รับการสอนคำสอนลึกซึ้งเพียงพอ หรือมิได้รับการโน้มนำให้เกิดความสุขและพอใจในการเดินทางอันเกิดจากการเริ่มต้นชีวิตคริสตชน หรือมีความเชื่อลดลง จนถึงระดับที่อาจเรียกได้ว่า “คล้ายผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชน” (CT 44)
- ผู้ใหญ่ที่ไม่ได้รับศีลล้างบาป ซึ่งจะต้องมีการเตรียมตัวเป็นคริสตชนอย่างแท้จริง และถูกต้องเหมาะสม (อ้างถึง CT 19)
ยังจะต้องพูดถึงเรื่องบรรดาผู้ใหญ่ที่ได้ประกาศตนเป็น คริสตชนในนิกายอื่นๆ ซึ่งไม่เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์กับพระศาสนจักรคาทอลิก
องค์ประกอบและหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เหมาะสมกับการสอน
คำสอนผู้ใหญ่ (อ้างถึง GCD 1971) 92-94; COINCAT 20-25, 26-30, 38-84)
173 การสอนคำสอนผู้ใหญ่เป็นห่วงบุคคลต่างๆ ซึ่งมีสิทธิและหน้าที่ที่จะต้องทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อที่พระเป็นเจ้าทรงหว่านไว้ในตัวเขาเติบโตเต็มที่ (อ้างถึง 1คร 13:11; อฟ 4:13) และมีจุดหมายอยู่ที่ปัจเจกชนทั้งหลายผู้ซึ่งได้รับการตักเตือนให้มีความรับผิดชอบต่างสังคมในหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งบรรดาบุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของการเปลี่ยนแปลงและวิกฤตการณ์ทุกรูปแบบซึ่งบางครั้งก็ลึกล้ำ ดังนั้น ความเชื่อของผู้ใหญ่ทั้งหลายจะต้องได้รับการส่องสว่าง พัฒนาและปกป้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่ความเชื่อนั้นอาจทำให้ได้รับปรีชาญาณแบบคริสตชน ซึ่งทำให้มีความฉลาดในประสบการณ์มากมายทั้งในด้านชีวิตส่วนตัว ด้านสังคมและชีวิตจิต อีกทั้งสามารถนำสิ่งต่างๆเหล่านี้มาเรียงร้อยเข้าด้วยกันจนเกิดความหวังในสิ่งใหม่นั้น การสอนคำสอนผู้ใหญ่ต้องการการบ่งชี้ถึงลักษณะเฉพาะต่างๆ อันเป็นแบบฉบับของผู้ใหญ่คริสตชนอย่างแม่นยำ เพราะจะต้องแปลสิ่งนี้ไปเป็นวัตถุประสงค์ต่างๆ และเนื้อหาสาระของการสอน รวมถึงการกำหนดสิ่งที่จะต้องมีอยู่อย่างถาวรในการเสนอเนื้อหาทั้งหลาย การสอนคำสอนนี้จะต้องกำหนดวิธีการต่างๆที่เป็นหลักการซึ่งมีประสิทธิภาพที่สุด และเลือกรูปแบบต่างๆ ของการนำเสนอเนื้อหาทั้งหมดและแบบอย่างต่างๆ บทบาทและเอกลักษณ์ของครูคำสอนซึ่งทำงานกับผู้ใหญ่ทั้งหลายและการฝึกอบรมของพวกเขา -บุคคลที่รับผิดชอบเรื่องการสอนคำสอนผู้ใหญ่ในชุมชน- เป็นความสำคัญที่ขาดไม่ได้ (อ้างถึง COINCAT 33-84)
174 ในบรรดาหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ทำให้มั่นใจจนกล่าวได้ว่า การ สอนคำสอนผู้ใหญ่เป็นของแท้จริงและมีประสิทธิภาพ จะต้องประกอบด้วยเรื่องต่อไปนี้
- การพิจารณาถึงบรรดาบุคคลที่เป็นเป้าหมายของการสอนคำสอน ในสถานภาพของพวกเขาคือ ผู้ใหญ่ที่เป็นชายและหญิง จำเป็นต้องพิจารณาถึงปัญหาและประสบการณ์ต่างๆของพวกเขา คุณลักษณะต่างๆเฉพาะบุคคลทั้งทางด้านจิตใจและด้านสังคม ด้วยความเคารพในความแตกต่างของพวกเขาอย่างแท้จริง
- การพิจารณาถึงฐานะฝ่ายฆราวาสของผู้ใหญ่ทั้งหลาย ผู้ซึ่งศีลล้างบาปได้มอบภารกิจเรื่อง “การแสวงหาพระอาณาจักรของพระเป็นเจ้า โดยการเข้ามีส่วนร่วมในงานต่างๆทางโลกและควบคุมให้งานเหล่านั้นเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า” (LG 31; เทียบ EN 70; ChL 23) และผู้ซึ่งได้รับเรียกมาสู่ความศักดิ์สิทธิ์ (อ้างถึง ChL 57-59)
- การพิจารณาถึงความเกี่ยวพันของชุมชน เพื่อว่าการสอนคำสอนจะได้อยู่ในบรรยากาศแห่งการต้อนรับและการสนับสนุน
- การพิจารณาเพื่อทำให้งานอภิบาลผู้ใหญ่อย่างเป็นระบบมีความมั่นคง โดยมีการรวมเอาการอบรมเกี่ยวกับพิธีกรรมและงานบริการด้านเมตตาธรรมเข้าไว้ด้วย
หน้าที่โดยทั่วไปและหน้าที่โดยเฉพาะของการสอนคำสอนผู้ใหญ่ (อ้างถึง GCD (1971) 97)
175 เพื่อจะตอบสนองความต้องการต่างๆ ที่ลึกซึ้งในช่วงเวลาของเรา การสอนคำสอนผู้ใหญ่จะต้องนำเสนอความเชื่อคริสตชนในลักษณะที่สมบูรณ์และเชื่อถือได้อย่างเป็นระบบตามความเข้าใจของพระศาสนจักร โดยต้องให้ความสำคัญกับการประกาศเรื่องการช่วยให้รอดพ้นเป็นอันดับแรก ด้วยการจูงความสนใจไปยังความยุ่งยาก ข้อสงสัย ความเข้าใจผิด อคติและการโต้แย้งมากมายในปัจจุบัน การสอนคำสอนต้องแนะนำผู้ใหญ่ให้อ่านพระคัมภีร์ด้วยความเชื่อมั่นและให้หมั่นภาวนา หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกและหนังสือคำสอนผู้ใหญ่อันมีหนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกเป็นพื้นฐาน ซึ่งจัดทำโดยพระศาสนจักรท้องถิ่นก็ได้ให้การบริการขั้นพื้นฐานประการหนึ่งแก่การสอนคำสอนผู้ใหญ่ (คือให้เนื้อหาเพื่อนำไปสอน) ส่วนหน้าที่โดยเฉพาะของการสอนคำสอนผู้ใหญ่นั้นมีดังนี้
- ส่งเสริมการอบรมและการพัฒนาชีวิตในพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ โดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น วิธีสอนเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ การเข้าเงียบ การชี้แนวทางด้านจิตวิญญาณ
- ให้การศึกษาเรื่องการประเมินผลอันถูกต้องในเรื่องความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทางสังคมและวัฒนธรรม โดยอาศัยการพิจารณาด้วยความเชื่อ นั่นคือชุมชนคริสตชนต้องได้รับการสนับสนุนในคุณค่าอ้นแท้จริงต่างๆ ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ในอารยธรรมของเรา และต้องเรียนรู้ถึงอันตรายในอารยธรรมนี้เช่นกัน อีกทั้งได้รับการสนับสนุนในการนำเอาทัศนคติที่เหมาะสมมาใช้
- ให้คำตอบที่ชัดเจนแก่ปัญหาต่างๆ ด้านศาสนาและด้านศีลธรรม ซึ่งก็คือ ปัญหาทั้งหลายที่ทั้งชายและหญิงในยุคของเราต้องประสบ ตัวอย่างเช่น ศีลธรรมของตัวบุคคลและของสังคม โดยคำนึงถึงปัญหาต่างๆทางสังคมและการให้การศึกษาแก่บุคคลในโลกอนาคต (future generations)
- ให้ความกระจ่างเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างการดำเนินการฝ่ายโลกและการดำเนินการฝ่ายพระศาสนจักร โดยแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างและความเกี่ยวข้องมากมายระหว่างกัน และการมีผลกระทบต่อกันอย่างเหมาะสม ด้วยจุดมุ่งหมายในข้อนี้เอง ที่ทำให้คำสอนด้านสังคมของพระศาสนจักรเป็นส่วนที่จำเป็นต่อความสมบูรณ์ของคำสอนผู้ใหญ่
- ให้การพัฒนารากฐานเหตุผลแห่งความเชื่อ เพื่อว่าการเข้าใจที่ถูกต้องในความเชื่อและข้อเท็จจริงต่างๆที่ต้องเชื่อนั้น สอดคล้องกันกับความต้องการมากมายในเรื่องเหตุผลและสัมพันธ์กับพระวรสารเสมอ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องส่งเสริมเป้าหมายด้านการอภิบาลแนวคิดและวัฒนธรรมของคริสตชนอย่างมีประสิทธิภาพ งานนี้ช่วยให้ชนะบางรูปแบบของมูลฐานนิยม (fundamentalism) รวมถึงการตีความโดยพลการและแบบส่วนตัว
- กระตุ้นผู้ใหญ่ให้มีส่วนรับผิดชอบในพันธกิจของพระศาสนจักร และสามารถเป็นประจักษ์พยานถึงองค์พระคริสตเจ้าในสังคมได้
ผู้ใหญ่จะต้องได้รับความช่วยเหลือให้สามารถค้นพบ ประเมินค่าและปฏิบัติสิ่งที่เขาได้รับมาโดยธรรมชาติและโดยทางพระหรรษทาน ทั้งในชุมชนคริสตชนและโดยทางการดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมมนุษย์ ด้วยวิถีทางนี้เขาจะสามารถฝ่าฟันภัยอันตรายต่างๆจากการจัดมาตรฐานและการปกปิดตัวตนที่แท้จริง ซึ่งเป็นเรื่องที่เด่นเป็นพิเศษในบางสังคมที่มีอยู่ทุกวันนี้ และนำไปสู่การสูญเสียเอกลักษณ์และขาดความรู้คุณค่าในทรัพย์สินและคุณลักษณะต่างๆของปัจเจกชน
รูปแบบเฉพาะของการสอนคำสอนผู้ใหญ่ (อ้างถึง ภาคที่ 1 บทที่ 2 ; GCD (1971) 96)
176 สถานการณ์และสภาพแวดล้อมบางอย่างต้องการการสอน คำสอนในรูปแบบเฉพาะต่างๆ ดังนี้
- การสอนคำสอนสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคริสตชน หรือการเตรียมตัวเป็นคริสตชนของผู้ใหญ่ทั้งหลาย การสอนคำสอนนี้มีรูปแบบที่ชัดเจนของตัวเองใน RCIA
- รูปแบบต่างๆที่สืบต่อกันมาจากการสอนคำสอนของประชากรของพระเป็นเจ้า ได้ถูกปรับให้เหมาะสมตามกำหนดเวลาในปีพิธีกรรม หรือในรูปแบบพิเศษของงานแพร่ธรรมต่างๆ
- การสอนคำสอนต่อเนื่องของบรรดาบุคคลที่มีหน้าที่ฝึกอบรมในชุมชน ซึ่งก็คือ ครูคำสอนและบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานฆราวาสแพร่ธรรม
- การสอนคำสอนสำหรับโอกาสที่สำคัญพิเศษในชีวิต เช่น การแต่งงาน การล้างบาปให้แก่เด็กๆ รวมถึงการรับศีลมหาสนิทครั้งแรกและการรับศีลกำลัง ช่วงวิกฤตการณ์ต่างๆ ในวัยหนุ่มวัยสาว ในยามเจ็บป่วย ฯลฯ ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ บุคคลมนุษย์ชอบที่จะค้นหาความหมายอันแท้จริงของชีวิตมากกว่าเคย
- สำหรับโอกาสและประสบการณ์ต่างๆที่พิเศษ เช่น โอกาสเริ่มเข้าทำงาน เข้าเป็นทหาร อพยพไปอยู่ที่ใหม่ ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงเช่นที่กล่าวมานี้อาจช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ในจิตใจ หรือสร้างความยุ่งยากใจ เป็นโอกาสที่จะเน้นถึงความต้องการพระวาจาที่ช่วยให้รอดของพระเป็นเจ้า
- การสอนคำสอนเพื่อให้คริสตชนรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดและการท่องเที่ยว
- การสอนคำสอนสำหรับโอกาสพิเศษต่างๆ ในชีวิตของพระศาสนจักรและสังคม
การสอนคำสอนในรูปแบบเฉพาะดังที่กล่าวมานี้ รวมทั้งรูปแบบพิเศษอื่นๆ อีก เป็นสิ่งที่ส่งเสริม แต่มิอาจทดแทนหลักสูตรการสอนคำสอนอย่างมีแบบแผนและต่อเนื่องที่ชุมชนพระศาสนจักรทุกแห่งต้องจัดสำหรับบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลาย