วิธีสอนของพระเป็นเจ้า
139 “พระเจ้าทรงกระทำต่อท่านเยี่ยงกระทำต่อบุตร มีบุตรคนใดบ้างที่บิดาไม่ได้เฆี่ยนตีสั่งสอนเลย” (ฮบ 12:7) ความรอดพ้นของบุคคล ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดแห่งการเปิดเผยของพระเป็นเจ้า ถูกแสดงไว้เป็นเหมือนผลที่เกิดจาก “วิธีสอนของพระเป็นเจ้า” ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมและทรงประสิทธิภาพตลอดช่วงเวลาประวัติศาสตร์ และคล้ายกับจะเป็นความเคยชินของมนุษย์ที่มีต่อพระเป็นเจ้าและการเปลี่ยนไปตามลำดับยุคแห่งวัฒนธรรมนี้เองที่ทำให้พระเป็นเจ้าในพระคัมภีร์ถูกมองเป็นเหมือนบิดาผู้ใจเมตตา ครูและนักปราชญ์ (อ้างถึง ฉธบ 8:5, ฮชย 11:3-4, สภษ 3:11-12)
พระองค์ทรงแสดงหลักความประพฤติของบุคคลทั้งแบบส่วนตัวและแบบหมู่คณะตามสถานการณ์ต่างๆ ที่ทรงพบ พระองค์ทรงปลดปล่อยตัวบุคคลให้พ้นจากพันธนาการแห่งมารร้าย และดึงเขากลับมาหาตัวเขาเองด้วยข้อผูกมัดแห่งความรัก พระองค์ทรงช่วยมนุษย์เติบโตขึ้นอย่างมีขั้นตอน และอย่างอดทนในทิศทางที่จะบรรลุถึงวุฒิภาวะของบุตรที่มีอิสรภาพคนหนึ่งซึ่งซื่อสัตย์และเชื่อฟังพระวาจาของพระองค์ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้พระเป็นเจ้าในฐานะครูที่สร้างสรรค์และมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งได้ทรงแปลงเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประชากรของพระองค์ ให้เป็นบทเรียนต่างๆ ที่มีปรีชาญาณ (อ้างถึง ฉธบ 4:36-40, 11:2-7) ทรงปรับเปลี่ยนตัวพระองค์เองไปตามช่วงเวลาต่างๆ และสถานการณ์ที่หลากหลายของชีวิต ด้วยเหตุนี้เอง พระองค์จึงทรงมอบถ้อยคำที่จะต้องสั่งสอนและการสอนคำสอนซึ่งจะถูกถ่ายทอดจากชนรุ่นหนึ่งไปสู่ชนอีกรุ่นหนึ่ง (อ้างถึง อพย 12:25-27, ฉธบ 6:4-8, 6:20-25, 3:12-13, ฮชย 4:20) พระองค์ทรงตักเตือนด้วยรางวัลและการลงโทษ การทดสอบและการทนทุกข์ทรมานทั้งหลาย ซึ่งได้กลายเป็นอิทธิพลที่สำคัญต่อการพัฒนาบุคคล แท้จริงแล้ว การช่วยให้บุคคลหนึ่งได้พบกับพระเป็นเจ้า ซึ่งเป็นภาระหน้าที่ของครูคำสอน ตั้งใจเน้นความสัมพันธ์ทั้งหมดซึ่งบุคคลหนึ่งมีต่อพระเป็นเจ้าก่อนสิ่งอื่นใด เพื่อว่าเขาจะสามารถสร้างความสัมพันธ์กับพระเป็นเจ้าได้ด้วยตนเอง และยอมให้พระเป็นเจ้านำทางชีวิตของเขา