ทุกคนที่เห็นพระบุตรแล้วเชื่อในพระบุตร จะมีชีวิตนิรันดร
ยน 6:37-40
37)ทุกคนที่พระบิดาทรงมอบให้เรา จะมาหาเรา และผู้ที่มาหาเรา เราจะไม่ผลักไสไปเลย (38)เพราะเราลงมาจากสวรรค์ มิใช่เพื่อทำตามใจของเรา แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามา (39)พระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามาก็คือ เราจะไม่สูญเสียผู้ใดที่พระองค์ทรงมอบให้แก่เรา แต่จะให้ผู้นั้นกลับคืนชีพในวันสุดท้าย (40)พระประสงค์ของพระบิดาของเรา ก็คือทุกคนที่เห็นพระบุตรแล้วเชื่อในพระบุตร จะมีชีวิตนิรันดร และเราจะให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย
“พระประสงค์ของพระบิดาของเรา ก็คือทุกคนที่เห็นพระบุตรแล้วเชื่อในพระบุตร จะมีชีวิตนิรันดร และเราจะให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย” ข้อความนี้เผยแสดงให้เราเห็น ขั้นตอนในการมีชีวิตนิรันดรของคริสตชน
1. เราพบเห็นพระเยซูเจ้า
เราพบเห็นพระองค์โดยการอ่านพระคัมภีร์ ฟังเทศน์ ฟังคำสอนของพระศาสนจักร หรือบางครั้งเราอาจมีประสบการณ์ได้สัมผัสกับพระเยซูเจ้าโดยตรงเป็นการส่วนตัว
2. เราเข้าหาพระองค์
เมื่อพบเห็นพระเยซูเจ้า เราเริ่มเรียนรู้ว่าพระองค์ไม่ใช่เป็นเพียงตัวละครเอกในหนังสือพระคัมภีร์ หรือเป็นวีรบุรุษที่อยู่ห่างไกล ตรงกันข้ามเราทราบว่า พระองค์ทรงอยู่ใกล้ชิดเรา และเราสามารถเข้าถึงพระองค์ได้โดยง่าย
3. เราเชื่อในพระองค์
เรายอมรับว่าพระองค์เป็นพระเจ้า พระองค์มีอำนาจเด็ดขาดเหนือชีวิตมนุษย์ เราจึงเข้ามาหาพระองค์และ ยอมขึ้นต่อพระองค์ ยอมมอบความไว้วางใจทั้งหมดไว้ในพระองค์ แบบเดียวกับที่พระองค์ทรงยอมขึ้นกับพระบิดาเมื่อทรงตรัสว่า “เราลงมาจากสวรรค์ มิใช่เพื่อทำตามใจของเรา แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามา” นี่คือความเชื่อ
4. เรามีชีวิต
ความเชื่อในพระเยซูเจ้าทำให้เรามีความสัมพันธ์ใหม่กับพระเจ้า พระองค์กลายเป็นบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรัก มิใช่บุคคลลึกลับน่ากลัวอีกต่อไป ความสัมพันธ์ใหม่นี้คือชีวิต
5. ทุกคน
พระเจ้าทรงส่งคำเชิญสู่ความสัมพันธ์ใหม่นี้ถึงทุกคน และ ฟรี
6. โดยพระเยซูเจ้า
ถึงจิตใจมนุษย์จะหิวกระหายหาพระเจ้ามากเพียงใดก็ตาม ความสัมพันธ์ใหม่นี้จะเกิดได้ก็โดยผ่านทางพระเยซูเจ้าเท่านั้น ปราศจากพระองค์เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหาอะไร และหาอย่างไร
7. พระเจ้าเป็นผู้ริเริ่มและกระทำทุกสิ่ง
พระองค์ไม่เป็นเพียงจุดหมายปลายทางของชีวิตเราเท่านั้น แต่พระองค์ยังเป็นผู้กระตุ้นจิตใจมนุษย์ให้กระหายหาพระองค์ ชักนำทุกคนให้เข้ามาหาพระเยซูเจ้า และช่วยนำความหยิ่งจองหองอันเป็นอุปสรรคต่อการยอมรับพระเยซูเจ้าออกไปจากจิตใจของเรา
8. เราคือผู้ตัดสินใจ
พระเป็นเจ้าเป็นผู้ริเริ่มแผนการแห่งความรอด และเชื้อเชิญมนุษย์ทุกคนมาสู่ความรอดนี้ สิ่งเดียวที่จะหยุดยั้งแผนการของพระองค์ได้ คือความดื้อดึงหรือจิตใจอันแข็งกระด้างของมนุษย์ การตอบรับหรือปฏิเสธคำเชิญเป็นการตัดสินใจ และเป็นความรับผิดชอบของเราเอง
หากเราตอบรับ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
8.1 ความสุขและสันติ จิตใจที่หิวกระหายและแสวงหาชีวิตจะพบกับความอิ่มและพอใจ ความหิวกระหายและการดิ้นรนจะหมดสิ้นไป สิ่งที่คงอยู่คือความสุขและสันติในจิตใจ
8.2 ความมั่นคงทั้งในชีวิตนี้และชีวิตหน้า สิ่งที่พระเยซูเจ้าหยิบยื่นให้แก่เราคือชีวิตหรือความสัมพันธ์ใหม่กับพระเจ้าทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า พระองค์สัญญาว่า “เราจะให้เขากลับคืนชีพในวันสุดท้าย”
นี่คือความยิ่งใหญ่และเกียรติมงคลที่หากเราปฏิเสธ ก็เท่ากับว่าเราโกงตัวเองจากสิ่งที่เราควรจะได้
เราพอสรุปประเด็นสำคัญได้ 3 ประการ กล่าวคือ
1. พระเป็นเจ้าเป็น อัลฟา และ โอเมกา
2. ความเชื่อในพระเยซูเจ้าเป็นเงื่อนไขสำคัญและจำเป็นสำหรับความรอด
3. ความรับผิดชอบเป็นของมนุษย์เราแต่ละคน