ข้อคิดข้อรำพึง
ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง ปี C
ผู้คนในสมัยเก่าก่อนมีวิธีมองดูและทำความเข้าใจเกี่ยวกับโลกจักรวาลที่แตกต่างไปจากคนสมัยปัจจุบัน
พวกเขามองเห็นโลกจักรวาลแบ่งเป็นสามชั้นทับซ้อนกัน โดยโลกชั้นบนเป็นที่ประทับของพระเจ้า โลกชั้นกลางคือโลกที่มวลมนุษยชาติดำรงชีวิตอยู่ โลกชั้นล่างคือที่อยู่ของคนที่ตายไปแล้ว
อันเนื่องมาจากบาปของอาดัมและเอวา โลกชั้นกลางกลายเป็นโลกที่มีความชั่วช้าทวีขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปีที่ผ่านไป
ผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจึงภาวนาขอให้พระเจ้าเสด็จลงมาจากโลกชั้นบนของพระองค์ และให้ทรงจัดการบางอย่างในโลกที่ยุ่งเหยิงของพวกเขานี้
ดังนั้น ประกาศกอิสยาห์ได้ภาวนาต่อพระเจ้า กล่าวว่า “ทำไมพระองค์ไม่ทรงฉีกท้องฟ้าออก และเสด็จลงมา” (อสย 64:1)
ในหนังสือเพลงสดุดีได้พูดเช่นเดียวกัน “ข้าแต่พระเจ้า โปรดให้ท้องฟ้าเปิดออก และเสด็จลงมา”
ด้วยภูมิหลังเช่นนี้ จะทำให้เราเข้าใจพระวรสารของอาทิตย์นี้ดีมากขึ้น เพราะมีเหตุการณ์ 3 อย่างเกิดขึ้นหลังจากที่พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง
เหตุการณ์แรกคือ ท้องฟ้าเปิดออกเหนือพระเยซูเจ้า นี่พิสูจน์ให้เห็นชัดเจนว่าสิ่งที่ประชาชนได้ภาวนาขอกำลังเกิดขึ้น พระเจ้าได้ทรงฉีกท้องฟ้าออก พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์เพื่อมาจัดระเบียบใหม่ให้แก่โลกนี้ พูดได้ว่าการปรากฏพระองค์และการรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้าได้ก่อให้เกิดรุ่งอรุณแห่งสมัยใหม่ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ
เหตุการณ์ที่สอง พระจิตของพระเจ้าเสด็จลงมาจากท้องฟ้าที่เปิดออก มีรูปร่างที่เห็นได้ดุจนกพิราบ ประทับเหนือพระเยซูเจ้าและเหนือน้ำนั้น เหตุการณ์นี้ทำให้เราคิดย้อนกลับไปถึงตอนที่พระเจ้าทรงสร้างโลก เมื่อพระจิตของพระเจ้าล่องลอยอยู่เหนือน้ำก่อนที่พระเจ้าจะทรงสร้างสรรค์จักรวาลให้เกิดขึ้น “เมื่อแรกเริ่มนั้น พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดิน แผ่นดินยังเป็นที่ร้างไร้รูปร่าง ความมืดมิดปกคลุมอยู่เหนือทะเลลึก และลมพายุแรงกล้า พัดอยู่เหนือน้ำ พระเจ้าตรัสว่า "จงมีความสว่าง" และความสว่างก็อุบัติขึ้น” (ปฐก.1:1-3) คำว่า "ลมพายุแรงกล้า พัดอยู่เหนือน้ำ" แปลตามตัวอักษรว่า "ลมของพระเจ้า" ซึ่งไม่ได้หมายถึงพระจิตเจ้าและบทบาทของพระองค์ในการเนรมิตสร้าง การเนรมิตสร้างเกิดขึ้นโดย "พระวาจา" หรือโดย "กิจการ" ของพระองค์ (อธิบายจากพระคัมภีร์คาทอลิกฉบับสมบูรณ์ หน้า 16 ข้อ d) แต่อย่างไรก็ตามถ้าเราเข้าใจว่า "ลมของพระเจ้า" เท่ากับ "พระจิตเจ้า" พัดอยู่เหนือน้ำในเวลาการเนรมิตสร้างครั้งแรก ดังนั้น พระจิตในรูปนกพิราบที่ประทับเหนือพระเยซูเจ้าและเหนือน้ำในแม่น้ำจอร์แดนก็ได้ไขแสดงให้เราเห็นการสร้างครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น พระเจ้ากำลังจะสร้างโลกของเราขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง พระองค์ทรงกำลังทำให้พันธสัญญาที่ให้ไว้กับประกาศกอิสยาห์เป็นจริงดังที่ทรงกล่าวว่า “ดูซิ เราจะสร้างฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ จะไม่มีผู้ใดคิดถึงและจดจำเรื่องราวในอดีตอีก แต่จงร่าเริงยินดีเสมอในสิ่งที่เรากำลังจะสร้างขึ้น” (อสย 65:17-18)
เหตุการณ์ที่สาม มีเสียงจากสวรรค์ กล่าวว่า "ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา" ซึ่งไขแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพระเยซูเจ้าคือ พระบุตรของพระเจ้า หมายความว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นอาดัมคนใหม่ เป็นองค์แรกในบรรดา “สิ่งสร้างใหม่” ถ้าอยากทราบเรื่องการอธิบายถึงอาดัมคนใหม่ในสิ่งสร้างใหม่ ให้ไปอ่านข้อเขียนของนักบุญเปาโล ถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 1 บทที่ 15 ข้อ 47, 49 (แปลจาก Mark Link, SJ; Illustrated Sunday Homilies – Year C -)
พี่น้องครับ โดยวันฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง ทำให้เราได้เข้าใจได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นถึงการไขแสดงของพระองค์ โดยเฉพาะการที่พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระองค์แรกในสิ่งสร้างใหม่ พระองค์เองเป็นผู้ที่มาเปิดประตูสวรรค์ ทรงทำให้เราได้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวและมาติดต่อกับพระเจ้าองค์แห่งนิรันดรได้อีก สวรรค์ที่เคยถูกปิดสำหรับคนบาปถูกเปิดขึ้นมาใหม่โดยพระผู้กอบกู้ที่ยิ่งใหญ่ พระเยซูเจ้าทรงเป็นเหมือนบันไดของยาโคบที่มีปลายข้างหนึ่งหยั่งอยู่บนพื้นโลก แต่ปลายอีกด้านจรดสวรรค์ เป็นที่เชื่อมสวรรค์และโลก เราสามารถติดต่อกับสวรรค์ได้โดยผ่านทางพระองค์ โดยเฉพาะเมื่อเรารับศีลล้างบาปด้วยน้ำและพระจิตเจ้า ซึ่งเป็นศีลล้างบาปที่พระเยซูเจ้าทรงนำมา จะทำให้เรากลับเป็นบุตรที่พระบิดาทรงรัก
(คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดพระกุมารเยซู เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2010)