วันพุธ สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา
พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 9:1-6)
เวลานั้น พระเยซูเจ้าทรงเรียกอัครสาวกสิบสองคนเข้ามาพร้อมกัน ประทานอำนาจเหนือปีศาจ และพลังรักษาโรค ทรงส่งเขาไปประกาศพระอาณาจักรพระเจ้าและรักษาคนเจ็บป่วย พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เมื่อท่านเดินทาง อย่านำสิ่งใดไปด้วย อย่านำไม้เท้า ย่าม อาหาร เงิน หรือแม้แต่เสื้อสำรองไปด้วย เมื่อท่านเข้าไปในบ้านใด จงพักอยู่ที่นั่นจนกว่าจะเดินทางต่อไป ถ้าเขาไม่ต้อนรับท่าน จงออกจากเมืองนั้นและสลัดฝุ่นจากเท้าไว้เป็นพยานกล่าวโทษเขา” บรรดาอัครสาวกจึงออกไปตามหมู่บ้าน ประกาศข่าวดีและรักษาโรคไปทั่วทุกแห่ง
ลก 9:1-6 มาถึงจุดนี้ในพระวรสาร บรรดาอัครสาวกร่วมงานกับพระคริสตเจ้าในพันธกิจของพระองค์ ณ ตอนนี้พระองค์ทรงส่งพวกเขาออกไปสืบสานพันธกิจของพระองค์โดยไม่มีพระองค์เสด็จไปด้วย พระองค์ยังทรงบอกพวกเขาถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพระองค์ด้วยคือ จะทรงรับความทุกข์ทรมาน สิ้นพระชนม์ และเสด็จกลับคืนพระชนมชีพ
CCC ข้อ 551 นับตั้งแต่ทรงเริ่มเทศน์สั่งสอนประชาชน พระเยซูเจ้าทรงเรียกชายกลุ่มหนึ่งจำนวนสิบสองคนให้อยู่กับพระองค์เพื่อจะมีส่วนร่วมพันธกิจกับพระองค์ พระองค์ทรงจัดให้เขามีส่วนร่วม พระอำนาจของพระองค์ “ทรงส่งเขาไปประกาศพระอาณาจักรพระเจ้าและรักษาโรค” (ลก 9:2) บุคคลเหล่านี้คงมีส่วนร่วมกับพระอาณาจักรของพระคริสตเจ้าตลอดไป เพราะพระองค์ ทรงนำพระศาสนจักรผ่านเขาเหล่านี้“เราจัดพระอาณาจักรให้ท่านทั้งหลายดังที่พระบิดาทรงจัดไว้ให้เรา ท่านจะได้กินและดื่มร่วมโต๊ะกับเรา ในพระอาณาจักรและจะนั่งบนบัลลังก์พิพากษาอิสราเอลทั้งสิบสองตระกูล” (ลก 22:29-30)
ลก 9:3 อย่านำสิ่งใดไปด้วย : พระคริสตเจ้าทรงย้ำถึงคุณธรรมความยากจนและการไม่ยึดติดกับวัตถุสิ่งของ บรรดาศิษย์จะต้องพึ่งพาน้ำใจของผู้อื่นในแต่ละเมืองที่พวกเขาไปเทศน์สอน การไปโดยปราศจากการเตรียมเสบียงยังหมายถึงการเน้นถึงความหมายฝ่ายจิตที่โดดเด่นกว่าของการตั้งพระอาณาจักรพระเจ้าด้วย บรรดาผู้ที่ถูกเรียกให้เป็นนักบวชจะต้องถือศีลบนแห่งความยากจน ซึ่งเป็นหนึ่งในคำแนะนำแห่งพระวรสาร 3 ประการ คือ 1 ความยากจน 2 ความบริสุทธิ์ 3 ความนบนอบเชื่อฟัง เพื่อการจะเลียนแบบชีวิตของพระคริสตเจ้าอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น
CCC ข้อ 915 พระคริสตเจ้าทรงเสนอแนะคำแนะนำหลากหลายตามพระวรสารแก่บรรดาศิษย์ทุกคน ความครบครันแห่งความรักที่พระคริสตเจ้าทรงเรียกคริสตชนผู้มีความเชื่อทุกคนให้ปฏิบัตินั้น สำหรับผู้ที่รับการเรียกมาดำเนินชีวิตถวายแด่พระเจ้าโดยสมัครใจนั้นรวมถึงข้อบังคับให้ปฏิบัติความบริสุทธิ์โดยการถือโสด ความยากจนและการนบนอบเชื่อฟังเพื่อพระอาณาจักร การประกาศว่าจะปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ในสภาพถาวรของชีวิตที่พระศาสนจักรให้การรับรองนี้เป็นเครื่องหมายเฉพาะของ “ชีวิตถวายตนแด่พระเจ้า”
CCC ข้อ 2103 พระศาสนจักรยอมรับคุณค่าของคำบนบานจะปฏิบัติตามคำแนะนำของพระวรสารว่าเป็นแบบอย่างน่าปฏิบัติตาม “พระศาสนจักรมารดายินดีที่พบว่าภายนอกอ้อมอกของตนมีชายและหญิงหลายคนที่ติดตามการสละตนของพระผู้ไถ่อย่างใกล้ชิด และแสดงอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น รับความยากจนโดยอิสระเสรีเยี่ยงบุตรของพระเจ้า และสละน้ำใจของตนเอง เขาเหล่านี้ยอมอยู่ใต้บังคับของมนุษย์ด้วยกันมากกว่าตามพระบัญญัติ เพราะเห็นแก่พระเจ้าในเรื่องความครบครัน เพื่อทำตนให้ละม้ายอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้นกับพระคริสตเจ้าผู้ทรงยอมเชื่อฟัง” ในบางกรณี พระศาสนจักร เพราะเหตุผลสมควร อาจยกเว้นจากพันธะของการบนบานและคำสัญญาได้
ลก 9:5 สลัดฝุ่นออกไป: เมื่อคนหนึ่งปฏิเสธพระวาจาของพระเจ้า เขาก็กำลังปิดประตูต่อพระพรที่พระเจ้าทรงปรารถนาจะมอบให้แก่เขา หากคนๆ นั้นไม่ต้องการดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับพระหรรษทาน การกลับใจและการเปลี่ยนแปลงในพระคริสต์ก็ไม่สามารถเป็นไปได้
CCC ข้อ 2545 คริสตชนผู้มีความเชื่อทุกคนต้องเอาใจใส่ “จัดลำดับความรักของตนให้ถูกต้อง เพื่อมิให้การใช้สิ่งของต่างๆ ทางโลกและการติดใจกับทรัพย์สมบัติซึ่งตรงข้ามกับจิตตารมณ์ความยากจนตามพระวรสารขัดขวางเขาไม่ให้บรรลุถึงความรักที่สมบูรณ์ได้”
(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)