ข้อคิดข้อรำพึง
อาทิตย์ที่ 6 เทศกาลปัสกา ปี B
“ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย”
อัตชีวประวัติของนักบุญมักซีมีเลียน โกลเบ พระสงฆ์และมรณสักขี (ค.ศ. 1894 – 1941) เป็นที่น่าสนใจ ขอเล่าช่วงปลายชีวประวัติของท่านนะครับ ในปี ค.ศ. 1936 ได้เป็นบรรณาธิการการพิมพ์คาทอลิกของโปแลนด์ สิ่งนี้ทำให้หน่วยเกสตาโปเกลียดชัง และ 3 ปีต่อมาก็ถูกจับขังคุก ด้วยข้อหาโฆษณาต่อต้านนาซี ต่อมาถูกปล่อย และถูกจับตัวอีกครั้ง ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1941ด้วยข้อหาให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยชาวยิวระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง คราวนี้ถูกส่งไปอยู่ที่ค่ายกักกันเอ๊าสวิตซ์ (Auschwitz)
วันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 1941 นักโทษคนหนึ่งหนีไปจากค่ายกักกัน ผลก็คือ ต้องมีการลงโทษให้หลาบจำ โดยเลือกนักโทษ 10 คน ใช้วิธีสุ่มให้อดอาหารจนตายในห้องใต้ดิน คนหนึ่งที่ถูกเลือกให้ตายเป็นหัวหน้าครอบครัวมีลูกถึง 9 คน เขาสวดออกมาดังๆ ว่า "โอ้องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดอย่าให้เป็นผมเลย หากเป็นเช่นนั้น ภรรยาที่น่าสงสาร และลูกๆ ของผมจะเป็นเช่นไร"
ด้วยความสงสารจับใจ คุณพ่อโกลเบก้าวออกมาบอกกับผู้คุมว่าขอไปแทนชายผู้น่าสงสารนั้น กล่าวว่า “ผมเป็นพระสงฆ์คาทอลิกชาวโปแลนด์ และก็มีอายุมากแล้ว ผมขอไปแทนชายคนนั้น เพราะเขามีภรรยาและลูกๆ”
ในขณะอดอาหารรอความตาย คุณพ่อได้ช่วยปลอบโยน และให้กำลังใจผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน สวดภาวนา และร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า แทนที่จะร่ำไห้อย่างหมดหวัง ในที่สุด ท่านได้ยอมตายเป็นมรณสักขี เพราะความรักในแบบที่พระคริสตเจ้าสอน “ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่าการสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย”
พระวรสารของนักบุญยอห์นอาทิตย์นี้สอนเราเรื่องของ “ความรัก” พระเจ้าทรงเป็นความรัก พระบิดาทรงรักพระบุตร พระบุตรทรงรักเราเช่นเดียวกับที่พระบิดาทรงรักพระองค์ ความรักจึงเป็นสิ่งยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใดๆ ในจักรวาล ความรู้ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ ช่วยให้โลกมีความเจริญและสะดวกมากขึ้นก็จริง แต่ไม่มีทางมาแทนความรักได้ มีอัศจรรย์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในโลกใบนี้อันเนื่องมาจากความรัก เราเรียกว่า “อัศจรรย์แห่งความรัก” ในช่วงแห่งการประกาศข่าวดีของพระเยซูเจ้า ทรงทำอัศจรรย์ต่างๆ มากมาย ก็เพราะทรงรักประชากรมากนั่นเอง
พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เราดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ น่าแปลกที่พระวรสารตอนสั้นๆ ของนักบุญยอห์น บทที่ 15 นี้ พูดเรื่อง “ดำรงอยู่” ถึงสิบเอ็ดครั้งด้วยกัน และยังทรงสอนให้เรารักกันและกัน เหมือนที่พระองค์ทรงรักเรา
พระเจ้าทรงใส่พลังแห่งความรักไว้ในสิ่งสร้างอย่างน่าพิศวง กลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พลังเช่นนี้ใช้เงินหมดทั้งโลกมาก็ให้ไม่ได้ ใช้ความรู้ทั้งหมดที่มีก็ให้ไม่ได้ เป็นอำนาจที่ผู้นำทั้งหมดในโลกไม่ได้เป็นเจ้าของ เป็นอำนาจที่กองกำลังทั้งหมดในโลกไม่สามารถนำเอามาได้
ที่พิเศษไปกว่านั้น ความรักเป็นพลังที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกๆ คน ไม่ว่าจะชายหรือหญิง นับถือศาสนาอะไร คนของชาติใด ไม่สำคัญว่าต้องจบการศึกษาสูงๆ
แถมความรักยังไม่สงวนไว้สำหรับคนที่มีสุขภาพดี หรือเฉพาะคนที่ร่ำรวย หรือเฉพาะคนที่ชาญฉลาด หรือเฉพาะผู้ที่มีชื่อเสียง
ความรักเป็นของทุกๆ คน ความรักเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราเท่าเทียมกันเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า และต่อกันและกัน
( คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2012
Based on : (1) Saint Companions for Each Day ; by : A.J.M Mausolfe ; J.K. Mausolfe
(2) Illustrated Sunday Homilies, Year - B ; by ; Mark Link, S.J. )