ข้อคิดข้อรำพึง
อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลปัสกา ปี B
“เป็นเราเองจริงๆ”
ศิษย์ทั้งสองคน(แห่งเอมมาอุส) เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตามทาง และเล่าว่าตนจำพระองค์ได้เมื่อทรงบิขนมปัง แต่ก่อนจะมาถึงจุดนี้ ศิษย์ทั้งสองได้ฟังการอธิบายพระคัมภีร์จากพระเยซูเจ้าในขณะที่ทรงร่วมเดินทางไปกับพวกเขา น่าแปลกที่เขาไม่ฉุกใจคิดและจำพระองค์ได้เวลานั้น เขาเองทั้งคู่ก็ยังสงสัยตัวเองในเรื่องนี้ แต่เอาเถิดยังจำพระองค์ได้เมื่อทรงบิขนมปัง ก็ยังดี
อันที่จริง เรื่องการกลับฟื้นคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในความรู้สึกของพวกศิษย์ เราลองมาดูข้อเท็จจริงกัน พระวรสารของวันนี้เล่าว่า ขณะที่พวกเขากำลังสนทนากันอยู่นั้น พระเยซูเจ้าทรงประจักษ์มายืนอยู่ท่ามกลางพวกเขา ตรัสว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด” ปฏิกิริยาของพวกเขาคือตกใจกลัว คิดว่าได้เห็นผี และวุ่นวายใจ ทั้งนี้เพราะการสิ้นพระชนม์บนกางเขนของพระองค์ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใจ และสิ้นหวังโดยสิ้นเชิง เขาได้ทุ่มเทเวลาและชะตาชีวิตให้กับพระองค์ แต่มันพังพินาศไปหมดในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นเรื่องแสนเศร้า (เดี๋ยวนี้คนไทยชอบพูดว่ามันเป็นเรื่องดรามา) ในชีวิตของเขาและมาถึงจุดจบแล้ว พวกเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะได้เห็นพระเยซูเจ้าอีก แล้วจู่ๆ พระองค์ก็เสด็จมาอยู่ท่ามกลางพวกเขา อยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเขา ทรงท้าทายให้พวกเขาคลำดูพระองค์ (ว่ามีเนื้อ มีกระดูก และไม่ใช่ผี) ทรงเสวยปลาย่างเพื่อพิสูจน์ว่า ทรงกลับฟื้นคืนพระชนม์แล้วจริงๆ พวกสาวกแม้จะมีความยินดี แต่ยังระคนไปด้วยความแปลกใจจนไม่อยากจะเชื่อ
แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญในการประจักษ์ครั้งนี้คือ ทรงสอนบรรดาสาวกให้เข้าใจพระคัมภีร์ ทรงสอนให้รู้ว่าทุกสิ่งที่มีเขียนไว้เกี่ยวกับพระองค์ในธรรมบัญญัติของโมเสส ของบรรดาประกาศก และเพลงสดุดีจะต้องเป็นจริง ทรงเปิดดวงปัญญาของบรรดาสาวกว่าพระคริสตเจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานและจะกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายในวันที่สาม และทรงมอบหมายให้พวกเขาไปประกาศพระนามของพระองค์ให้นานาชาติได้กลับใจ ให้พวกเขาทั้งหลายเป็นพยานถึงเรื่องทั้งหมดนี้
พระเยซูเจ้าทรงรักและทรงศึกษาพระคัมภีร์อย่างดี ตั้งแต่วัยเด็ก ทรงเคยค้างในพระวิหารอยู่ท่ามกลางบรรดาปราชญ์ เหล่านี้หมายความว่า แม่พระและนักบุญโยเซฟได้อบรมสั่งสอนมาอย่างดี พระองค์ทรงอ้างพระคัมภีร์เสมอๆ เวลาที่ทรงประกาศเทศนาเรื่องข่าวดี
มีเรื่องเล่าว่ามีมิชชันนารีผู้หนึ่งทำการเผยแผ่ศาสนาที่เมืองนาโกยาในญี่ปุ่น คุณพ่อรุชเชอร์ผู้นี้ได้ตั้งกลุ่มศึกษาพระคัมภีร์และทำงานด้วยความขยันขันแข็งอย่างยิ่ง ในทุกๆปีช่วงวันเสาร์ปัสกา คุณพ่อรุชเชอร์จะทำการล้างบาปให้ผู้ใหญ่จำนวนมากที่มาเรียนกับท่าน บางครั้ง 30-40 คน นับว่ามากกว่าพระสงฆ์ใดๆ ในเขตนั้นหรือใกล้ๆ นั้น
เมื่อวิเคราะห์ดูความสำเร็จของท่าน อาจจะเป็นที่ว่าท่านใจดี พูดภาษาญี่ปุ่นได้เก่ง เข้าถึงได้ง่าย แต่เหตุผลที่สำคัญน่าจะเป็นที่ว่า คุณพ่อรักพระคัมภีร์มากและยินดีอธิบายพระคัมภีร์อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ประชาชนรู้สึกได้ถึงความร้อนรนและประทับใจอย่างลึกซึ้งในความกระตือรือร้นของท่าน
พี่น้องครับ ลองเปิดใจให้พระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับฟื้นคืนพระชนมชีพเข้ามาประทับกับเรา วอนขอให้พระองค์ทรงเปิดดวงปัญญาของเราให้เข้าใจในพระคัมภีร์ดุจดังที่ทรงทำกับบรรดาสาวก แล้วเราจะพบกับความสุขที่แท้จริง
สุขสันต์เทศกาลปัสกาครับ
( คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2012)