วันเสาร์ สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์
พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก (มก 16:1-8)
เมื่อวันสับบาโตล่วงไปแล้ว มารีย์ชาวมักดาลา มารีย์มารดาของยากอบ และนางสะโลเม ซื้อเครื่องหอมเพื่อชโลมพระศพของพระเยซูเจ้า เช้าตรู่ของวันต้นสัปดาห์ เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นแล้ว สตรีทั้งสามคนไปยังพระคูหา และกล่าวแก่กันว่า “ใครจะกลิ้งก้อนหินออกจากทางเข้าพระคูหาให้เรา” แต่เมื่อมองไป ก็เห็นว่าก้อนหินนั้นถูกกลิ้งออกไปแล้ว หินก้อนนั้นใหญ่โตมาก ครั้นเข้าไปภายในพระคูหา สตรีทั้งสามคนเห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งสวมเสื้อยาวสีขาวนั่งอยู่ด้านขวามือ ก็ตกตะลึง ชายหนุ่มผู้นั้นกล่าวกับสตรีทั้งสามคนว่า “อย่ากลัวไปเลย ท่านกำลังมองหาพระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว พระองค์มิได้ประทับอยู่ที่นี่ สถานที่นี้คือสถานที่ที่เขาได้วางพระศพไว้ จงไปแจ้งบรรดาศิษย์และเปโตรให้รู้ว่า “พระองค์เสด็จล่วงหน้าท่านทั้งหลายไปในแคว้นกาลิลีแล้ว ท่านจะเห็นพระองค์ที่นั่น ดังที่ทรงบอกท่านไว้” สตรีทั้งสามคนออกจากพระคูหา หนีไปเพราะตกใจกลัวจนตัวสั่น และไม่ได้พูดเรื่องใดๆ กับใครเลยเพราะกลัว
มก 16:1-8 หนุ่มคนหนึ่งซึ่งก็คือ ทูตสวรรค์ เป็นผู้แจ้งเรื่องการกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้า ให้แก่บรรดาสตรีใจศรัทธา และให้พวกเขาส่งข่าวถึงเปโตรและบรรดาอัครสาวกด้วย (การเจาะจงถึงเปโตรเป็นการบ่งชี้ถึงความเป็นอันดับแรกของเขาในหมู่อัครสาวก) การกลับคืนพระชนมชีพนี้เกิดขึ้นในวันอาทิตย์ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันว่า วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นวันแห่งการนมัสการของคริสตชน
CCC ข้อ 333 นับตั้งแต่การรับสภาพมนุษย์จนถึงการเสด็จสู่สวรรค์ พระชนมชีพของพระวจนาตถ์ผู้รับสภาพมนุษย์มีทูตสวรรค์คอยนมัสการและรับใช้อยู่ตลอดเวลา เมื่อพระเจ้า “ทรงส่งพระโอรสองค์แรกมาสู่โลกมนุษย์ พระองค์ตรัสว่า ‘ให้ทูตสวรรค์ทั้งหลายของพระเจ้ากราบนมัสการพระองค์เถิด’” (ฮบ 1:6) บทเพลงสรรเสริญของบรรดาทูตสวรรค์ในการสมภพของพระคริสตเจ้ายังคงดังก้องอยู่ตลอดมาในการขับร้องสรรเสริญของพระศาสนจักร “พระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระเจ้าในสวรรค์สูงสุด.....”(ลก 2:14) บรรดาทูตสวรรค์คอยปกป้องพระเยซูเจ้าในปฐมวัย คอยปรนนิบัติรับใช้พระองค์ในถิ่นทุรกันดาร มาปลอบโยนเมื่อพระองค์ทรงทนทุกข์ในสวนเกทเสมนี ถ้าทรงประสงค์ พระองค์อาจทรงได้รับความช่วยเหลือจากทูตสวรรค์ให้พ้นจากเงื้อมมือของบรรดาศัตรู เช่นเดียวกับที่อิสราเอลเคยได้รับในอดีตด้วย บรรดาทูตสวรรค์ยังนำข่าวดีมาบอก ให้บรรดาคนเลี้ยงแกะรู้เรื่องการที่พระเจ้าเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ และประกาศข่าวการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้าให้บรรดาศิษย์รู้ บรรดาทูตสวรรค์จะปรากฏมาประกาศการเสด็จกลับมาของพระคริสตเจ้า และมารับใช้พระองค์ในการพิพากษามวลมนุษย์
CCC ข้อ 1166 “ตามธรรมประเพณีที่สืบเนื่องมาจากอัครสาวก และมีต้นกำเนิดจากวันที่พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ พระศาสนจักรเฉลิมฉลองพระธรรมล้ำลึกปัสกาทุกวันที่แปด ซึ่งเรียกได้อย่างถูกต้องว่า ‘วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า’ หรือ ‘วันพระ’” วันกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้าในเวลาเดียวกันยังเป็น “วันแรกของสัปดาห์” เป็นการระลึกถึงวันแรกของการเนรมิตสร้าง และ “วันที่แปด” ที่พระคริสตเจ้า หลังจากการ “พักผ่อน” ของวันหยุดยิ่งใหญ่ ทรงเริ่มวัน “ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้าง” (สดด 118:24) “วันไม่มีเวลาเย็น” “การเลี้ยงอาหารค่ำขององค์พระผู้เป็นเจ้า” เป็นศูนย์กลางของวันนี้ เพราะในการเลี้ยงนี้ทั้งชุมชนของบรรดาผู้มีความเชื่อมาพบกับองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพที่ทรงเชิญเขาทั้งหลายมาร่วมงานเลี้ยงของพระองค์ “วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า วันแห่งการกลับคืนพระชนมชีพ วันของบรรดาคริสตชน เป็นวันของเรา วันนี้ถูกเรียกว่า “วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า” เพราะในวันนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้พิชิตเสด็จขึ้นไปหาพระบิดา ถ้าบรรดาคนต่างศาสนาเรียกวันนี้ว่า “วันอาทิตย์” เราก็ยินดีเห็นด้วย เพราะแสงสว่างส่องโลกเกิดขึ้นในวันนี้ ดวงอาทิตย์แห่งความยุติธรรมซึ่งส่องรัศมีรักษาโรคให้หายได้ขึ้นมาในวันนี้”
CCC ข้อ 1167 วันอาทิตย์เป็นวันดีที่สุดสำหรับการชุมนุมประกอบพิธีกรรม “เพื่อฟังพระวาจาของพระเจ้า และร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ ระลึกถึงพระทรมาน การกลับคืนพระชนมชีพและพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า และขอบพระคุณพระเจ้าผู้ทรงบันดาล ให้เราบังเกิดใหม่และมีความหวังที่จะมีชีวิตอาศัยการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้าจากบรรดาผู้ตาย” “[ข้าแต่พระคริสตเจ้า] เมื่อข้าพเจ้าทั้งหลายคิดคำนึงถึงการอัศจรรย์รุ่งโรจน์และเครื่องหมายน่าพิศวงที่สำเร็จไปในวันอาทิตย์ศักดิ์สิทธิ์นี้ที่ทรงกลับคืนพระชนมชีพอย่างรุ่งโรจน์ ข้าพเจ้าทั้งหลายก็กล่าวว่า วันอาทิตย์เป็นวันที่ได้รับพระพร เพราะการเนรมิตสร้างได้เริ่มขึ้นในวันนี้.... รวมทั้งการไถ่โลก... การรื้อฟื้นมนุษยชาติขึ้นใหม่... ในวันนี้สวรรค์และแผ่นดินส่องแสงสว่างจ้าและโลกจักรวาลเต็มไปด้วยแสงสว่าง วันอาทิตย์เป็นวันที่ได้รับพระพร เพราะประตูสวรรค์ได้เปิดออกในวันนี้เพื่อให้อาดัมและทุกคนที่ถูกกันไว้เข้าไปได้โดยไม่ต้องกลัวสิ่งใด”
CCC ข้อ 2174 พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ “เช้าตรู่ของวันต้นสัปดาห์” (มก 16:2) ในฐานะที่เป็น “วันที่หนึ่ง” วันที่พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจึงชวนให้เราคิดถึงการเนรมิตสร้างครั้งแรก ในฐานะที่ “วันที่แปด” ที่ตามหลังวันสับบาโต วันนี้จึงหมายถึงการเนรมิตสร้างครั้งใหม่ที่เริ่มขึ้นโดยการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า กลายเป็นวันแรกของวันทั้งหลายสำหรับคริสตชน เป็น “วันขององค์พระผู้เป็นเจ้า” (dies Dominica, he kyriake hemera) หรือ “Dominica” “เมื่อถึงวันอาทิตย์ พวกเราก็มาชุมนุมพร้อมกัน เพราะว่าวันนี้เป็นวันแรก [หลังวันสับบาโตของชาวยิว และยังเป็นวันแรก] ที่พระเจ้าทรงแยกวัตถุจากความมืด ทรงเนรมิตสร้างโลก และเพราะว่าพระเยซูคริสตเจ้า พระผู้ไถ่ของเราทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันเดียวกันด้วย”
มก 16:7 พระองค์เสด็จล่วงหน้าท่านทั้งหลายไปในแคว้นกาลิลีแล้ว : นี่คือสิ่งที่พระคริสตเจ้าตรัสอย่างแน่วแน่กับอัครสาวกทั้งสิบสองคน เมื่อพระองค์ตรัสล่วงหน้าถึงการละทิ้งพระองค์ในพระวรสารโดยนักบุญมาระโก 14:28
CCC ข้อ 652 การกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้าเป็นการทำให้พระสัญญาของพันธสัญญาเดิมสำเร็จเป็นจริง รวมทั้งพระสัญญาที่พระเยซูเจ้าทรงสัญญาไว้ขณะที่ทรงพระชนมชีพในโลกนี้ด้วย ข้อความที่ว่า “ตามความในพระคัมภีร์” แสดงว่าการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้าทำให้คำพยากรณ์เหล่านี้สำเร็จเป็นความจริง
(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)