ข้อคิดข้อรำพึง
อาทิตย์พระทรมาน (แห่ใบลาน) ปี B
“ดูซิ กษัตริย์ของเจ้ากำลังเสด็จมาแล้ว ประทับบนหลังลูกลา”
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ใบลาน เราเริ่มต้นสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยการเฉลิมฉลองพระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่าผ่าเผย
การตัดสินพระทัยเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มเพื่อร่วมฉลองปัสกาของชาวยิวในครั้งนี้ถือว่าเป็นการตัดสินพระทัยที่กล้าหาญมาก เพราะว่าเวลาของพระองค์กำลังจะมาถึง “บรรดาประชาชนพากันเสาะหาพระเยซูเจ้า และขณะที่ยืนอยู่ในพระวิหารก็ถามกันว่า “ท่านทั้งหลายคิดอย่างไร เขาจะมาในวันฉลองหรือไม่” บรรดาหัวหน้าสมณะและชาวฟาริสีได้ออกคำสั่งว่า ถ้าใครรู้ว่าพระองค์อยู่ที่ไหนก็ให้มารายงาน เพื่อจะได้จับกุมพระองค์” (ยน.11:55-57)
บางคนคิดว่าพระเยซูเจ้าจะไม่เสด็จไป เพราะสถานการณ์ในขณะนั้นอยู่ในสภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน บางคนคิดว่าพระองค์จะเสด็จไปแบบลับๆ ไม่ให้ผู้ใดจำพระองค์ได้ แต่เปล่าเลย พระองค์กลับเสด็จเข้าไปอย่างเปิดเผย น่าจะบอกว่า อย่างเอิกเกริกด้วยซ้ำ เพราะมีประชาชนเป็นจำนวนมากถือใบปาล์มออกไปรับเสด็จ พลางร้องว่า
“โฮซันนา ขอถวายพระพรแด่พระองค์ ผู้เสด็จมาในพระนามพระเจ้า ขอถวายพระพรกษัตริย์แห่งอิสราเอล”
ประกาศกเศคาริยาห์ ได้เคยทำนายถึงกษัตริย์ในอนาคตของศิโยนว่าดังนี้ “ธิดาแห่งเยรูซาเล็มเอ๋ย จงโห่ร้องด้วยความยินดีเถิด ดูซิ กษัตริย์ของท่านกำลังเสด็จมาหาท่าน พระองค์ทรงเที่ยงธรรมและทรงชัยชนะ ทรงถ่อมพระองค์และประทับบนหลังลา บนหลังลาตัวน้อย” (ศคย.9:9)
และพระเยซูเจ้าก็ทรงเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มโดยประทับหลังลูกลา เพื่อจะบอกเป็นความนัยว่าพระองค์คือ กษัตริย์ของเยรูซาเล็มนั่นเอง เข้าใจว่าบรรดาผู้ที่มุ่งร้ายต่อพระองค์ไม่เข้าใจในภาพสัญลักษณ์ที่พระองค์ทรงสื่อหมายถึง ถ้าคัมภีราจารย์หรือฟาริสีคนใดที่รู้พระคัมภีร์ดีๆ เกิดเข้าใจขึ้นมา เขาคงจะหมั่นไส้ที่พระองค์ทรงวางพระองค์ในแบบที่พระคัมภีร์ได้กล่าวพยากรณ์ไว้เป็นแน่ เพราะใจของพวกเขาบอดมืดและปิดสนิท
ส่วนนักบุญยอห์น ผู้นิพนธ์พระวรสารเองก็สารภาพว่า ในขณะนั้นบรรดาศิษย์ไม่เข้าใจในความหมายของเหตุการณ์นี้ ต่อเมื่อพระเยซูเจ้าได้รับสิริรุ่งโรจน์แล้ว พวกเขาจึงเข้าใจว่าสิ่งนี้มีเขียนไว้แล้วในพระคัมภีร์
อยากจะพูดถึงเรื่องลา ซึ่งเป็นสัตว์ที่พระเยซูเจ้าทรงเลือกในที่นี้สักหน่อย คือ ถ้าเราจะถามว่าการที่พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มมีความหมายอะไรที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่ และการที่มีประชาชนมาโห่ร้องต้อนรับนั้นหมายความว่าอย่างไร เชื่อไหมครับ กุญแจของคำตอบนี้อยู่ที่ ลา
แม้ว่าในปัจจุบันเราจะนำคำว่าลามาใช้ในทางขบขัน แต่ผู้คนในสมัยพระคัมภีร์ต่างก็ให้เกียรติแก่ลา ถือว่าลาเป็นสัตว์แห่งสันติภาพ ตรงข้ามกับม้าซึ่งเป็นสัตว์ที่ใช้ในการทำสงคราม และประกาศกเศคาริยาห์ได้เคยทำนายว่าพระเมสสิยาห์จะเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มโดยประทับบนลูกลา พระเยซูเจ้าทรงทำตามที่ประกาศกทำนายไว้ เพื่อยืนยันว่าพระองค์คือพระเมสสิยาห์ของประชากรอิสราเอล
ยิ่งกว่านั้น ทรงเผยให้เห็นว่าพระภารกิจของพระเมสสิยาห์จะเป็นเช่นไร ซึ่งการเผยนี้จำเป็นอย่างยิ่งยวดในสมัยของพระเยซูเจ้า เพราะผู้คนสมัยนั้นสับสนเรื่องบทบาทของพระเมสสิยาห์ เช่นพวกเขาคิดว่าพระองค์จะต้องรวบรวมกำลังพลแล้วขับไล่ชาวโรมันออกจากแผ่นดินปาเลสไตน์ให้ตกทะเลไป แต่การที่พระองค์เสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มโดยประทับบนสัตว์ที่มีสัญลักษณ์ของสันติภาพ ทรงชี้ให้เห็นว่าพระเมสสิยาห์มิได้ทรงเป็นกษัตริย์กระหายสงคราม ซึ่งมาคอยปราบปรามศัตรูของชาวอิสราเอล
พระเยซูเจ้ามิได้เสด็จมาเพื่อประทับบนบัลลังก์ เพื่อให้บรรดาผู้ที่พระองค์ทรงปราบจนได้รับชัยชนะมาคอยปรนนิบัติรับใช้พระองค์ แต่เสด็จมาเพื่อคุกเข่าลงไปกับพื้นและล้างเท้าให้กับบรรดาศิษย์ของพระองค์
พระเยซูเจ้ามิได้เสด็จมาเพื่อรวบรวมประชาชนกลุ่มหนึ่งให้ต่อสู้กับอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ทรงรวบรวมประชาชนให้มาติดตามพระองค์ในการต่อสู้กับความยากจน ความหิวโหย ความเกลียดชัง และความอยุติธรรมทุกชนิด
พระเยซูเจ้ามิได้เสด็จมาเพื่อประณามลงโทษประชาชน แต่ทรงมาเพื่อให้อภัยพวกเขา
พระเยซูเจ้ามิได้ทรงมาเพื่อทำลายความฝันของประชาชน แต่ทรงมาเพื่อทำให้ความฝันอันแสนงามที่สามารถจินตนาการได้นั้นเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
พระเยซูเจ้ามิได้ทรงมาเพื่อบังคับให้ผู้คนติดตามพระองค์ไป แต่ทรงเชื้อเชิญให้ก้าวเดินไปกับพระองค์
และบัดนี้... ทรงเชื้อเชิญเราก้าวสู่สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ที่เริ่มต้นด้วยเสียงโห่ร้องต้อนรับ มีใบลานโบกไหวพลิ้ว ไปสู่เสียงโห่ร้องขับไล่ให้นำตัวไปตรึงกางเขน และยอมสิ้นพระชนม์เพื่อจะทรงถูกยกขึ้น และจะทรงดึงดูดทุกคนเข้าหาพระองค์
( คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดพระกุมารเยซู เมื่อปี ค.ศ. 2009
Based on : Illsutrated Sunday Homilies, Year - B ; by Mark Link, SJ )