ข้อคิดข้อรำพึง
ฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง ปี B
สุภาพสตรีชราคนหนึ่งได้เดินทางกลับจากวัดมาถึงบ้านของเธอ เธอพบขโมยคนหนึ่งกำลังขโมยของอยู่ในบ้าน ด้วยความตกใจ เธอตะโกนขึ้นมาสุดเสียงว่า "Acts 2:38 ( = หนังสือกิจการอัครสาวกบทที่ 2 ข้อ 38 ) - จงกลับใจ และรับศีลล้างบาปเดชะพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า เพื่อจะได้รับการอภัยบาป" ขโมยได้ยินเช่นนั้นก็หยุดนิ่งและยืนตัวแข็งไม่เคลื่อนไหวใดๆ ในขณะที่หญิงชราได้แจ้งไปยังตำรวจ เมื่อตำรวจมาถึง พวกเขาก็ใส่กุญแจมือขโมยผู้นั้น ตำรวจคนหนึ่งพูดว่า "โอ๊ะ น่าแปลกใจจริงๆ ทำไมคุณถึงหยุดนิ่งเมื่อเธอตะโกนถ้อยคำจากพระคัมภีร์ออกมา" "ถ้อยคำจากพระคัมภีร์หรือ" ขโมยถามด้วยความแปลกใจ "ผมคิดว่าเธอมีขวาน ( = AXE ตอนที่เธอร้องคำว่า Acts ) และมีปืน .38 อีก 2 กระบอกซะอีก"
วันฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างนี้เป็นวันสุดท้ายของเทศกาลคริสต์มาส มีการเล่าเรื่องการรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้านี้โดยผู้นิพนธ์พระวรสารทั้งสาม ได้แก่ นักบุญมัทธิว นักบุญมาระโก และนักบุญลูกา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแต่ละท่านให้ความสำคัญที่จะนำเสนอเหตุการณ์ที่สำคัญมากนี้ เพราะถือเป็นจุดเปลี่ยนในพระชนมชีพของพระเยซูเจ้าเลยทีเดียว ในขณะที่เรารำพึงว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น ณ ที่นี้ในพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า เราต้องเชื่อมโยงกับชีวิตของเรา กับศีลล้างบาปที่เราได้รับ และอะไรที่มีความหมายต่อเราแต่ละคน
ศีลล้างบาปมีความหมายอะไรสำหรับเรา ก็เป็นความหมายเดียวกันนั้นสำหรับพระเยซูเจ้า พระองค์กำลังจะทรงเริ่มต้นพระชนมชีพเปิดเผยต่อสาธารณะ นั่นคือการเริ่มต้นพระภารกิจของพระองค์นั่นเอง การรับพิธีล้างของพระองค์ถือเป็นจุดเริ่มต้น เป็นเหมือนจารีตพิธีในการเข้าไปสู่พระภารกิจนั้น ในน้ำแห่งแม่น้ำจอร์แดนพระองค์ทรงถูกนำไปสู่การเริ่มต้นและการเรียกให้ไปสู่ภารกิจที่ทรงได้รับมอบหมาย
คริสตชนทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปต่างก็มีภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้นำข่าวดีไปถึงทุกผู้ทุกคนที่อยู่ล้อมรอบเรา ข่าวดีนั้นคือพระเยซูคริสตเจ้า จะมีสักกี่คนที่เราได้นำข่าวดีนี้ไปมอบให้ จะมีสักคนหนึ่งไหมที่ประทับใจในตัวเราหรือในสิ่งที่เราได้กระทำ จนเขาขอเรียนรู้เรื่องพระคริสตเจ้ามากขึ้น หรือเขาขอมาเป็นคริสตชนด้วย เราอาจจะรู้สึกละอายใจที่เราไม่ได้เป็นคาทอลิกหรือเป็นคริสตชนที่ดีเพียงพอก็เป็นไปได้
ในศีลล้างบาปของเรา พระเจ้าทรงนับเราเป็นบุตรสุดที่รักของพระองค์ ดังนั้น สิ่งที่เราจะดำเนินการต่อจากนี้ไปคือต้องออกมาจากตัวตนที่เราได้รับมา ดังเช่นพระเยซูเจ้าซึ่งเป็นพระบุตรที่รักของพระเจ้า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่เราจะตระหนักว่า พระเยซูเจ้าได้ทรงค้นพบอัตลักษณ์ของพระองค์ ได้ทรงพร้อมจะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า และทรงติดตามชะตากรรมของพระองค์ ความเชื่อของพระเยซูเจ้านั่นเองที่ช่วยพระองค์ แล้วความเชื่อของเราจะช่วยเราได้อย่างไร
ศีลล้างบาปได้ทำให้เราเป็นบรรดาบุตรสุดที่รักของพระเจ้า และภารกิจที่เราได้รับมอบหมายคือติดตามพระเยซูเจ้าเพื่อช่วยสร้างพระอาณาจักรของพระเจ้า - ให้เป็นอาณาจักรแห่งความยุติธรรม แห่งการรักษาเยียวยา และแห่งการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ ในศีลล้างบาปของเรา เราถูกชำระให้สะอาดโดยน้ำ และพระจิตเจ้าทรงส่องสว่างเราให้ก้าวไปไกลกว่าขอบเขตที่กำหนด ให้ไกลกว่าความคุ้นเคยชิน และให้ไกลกว่าระดับความพึงพอใจของเรา ชีวิตตามธรรมชาติจมลงไปในน้ำ และเริ่มต้นการเกิดใหม่โดยฉายแสงความสว่างของเราไปในทิศทางเดียวกับที่เป็นของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงเริ่มต้นงานสู่สาธารณะโดยทรงเป็นผู้นอบน้อมต่อพระเจ้า ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่แท้จริงแห่งตัวตนของพระองค์ ให้เราภาวนาเพื่อเราจะพบอัตลักษณ์ของเราผ่านทางพระคริสตเจ้าโดยศีลล้างบาปของเรา เพื่อว่าเราจะสามารถได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ด้วย ที่ว่า "ท่านเป็นบุตรชายและหญิงที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา"
ขณะที่เราจุ่มมือของเราลงไปในอ่างศีลล้างบาป ให้เราคิดถึงศักดิ์ศรี คิดถึงกระแสเรียกของเรา และพระดำรัสของพระเจ้าที่ทรงมอบหมายภาระหน้าที่นี้ให้กับเรา "ท่านเป็นที่รักของเรา เป็นผู้ที่เราโปรดปราน จงไป และจงเป็นศิษย์ของเรา" แล้วนั้น ขอให้เราจงเป็นเช่นนั้นเทอญ
(คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ ลงวันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 2021
Based on : The Table of the Word ; by : Fr John Pichappilly)