ข้อคิดข้อรำพึง
ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์
เมื่อครบกำหนดเวลาที่มารดาและบุตรจะต้องทำพิธีชำระมลทินตามธรรมบัญญัติของโมเสส โยเซฟพร้อมด้วยพระนางมารีย์นำพระกุมารไปที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายแด่พระเจ้า
เราเห็นภาพครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ เป็นครอบครัวที่น่ารัก ร่วมใจกันปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้าด้วยใจศรัทธาเลื่อมใส พ่อ แม่ ลูก กำลังพากันไปที่วิหารของพระเจ้า ครอบครัวที่มีนักบุญโยเซฟเป็นหัวหน้านี้ เป็นครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย ดำรงชีพอย่างเรียบง่ายและสมถะ ทุกคนต่างรู้บทบาทหน้าที่ที่ตนพึงกระทำ และได้กระทำเป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้แต่ละฝ่ายสามารถทำตามกระแสเรียกของตน โดยสามารถตอบสนองพระประสงค์ของพระเจ้าได้อย่างเต็มที่ ความสุขของสมาชิกในครอบครัวนี้ มิได้อยู่ที่วัตถุสิ่งของเงินทอง แต่อยู่ที่การทำตามพระประสงค์ของพระเจ้านั่นเอง
ความสุขของสมาชิกในครอบครัวศักดิ์สิทธิ์เป็นแบบที่นักบุญเปาโล เขียนถึงชาวโคโลสี ซึ่งเป็นบทอ่านที่สองของวันนี้ คือ “ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร...จงเห็นอกเห็นใจกัน จงมีความใจดี ความถ่อมตน ความอ่อนโยนและความพากเพียรอดทนเป็นเสมือนเครื่องประดับตน...แต่สิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งใดคือความรัก”
สมาชิกทั้งสามของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ต่างก็สวมอาภรณ์แห่งความรัก ความรักที่มีต่อพระเจ้า ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง และความรักที่มีต่อกันและกันก็ติดตามมาแบบติด ๆ
นี่คือแบบอย่างของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ต่อครอบครัวของเรา
ลองทบทวนดูเถิดว่า เราได้ดำเนินชีวิตครอบครัวแบบไหน เราได้สวมใส่อาภรณ์แห่งความรักที่ต้องมีต่อพระเจ้าเป็นลำดับแรกหรือเปล่า
ครอบครัวเราได้ไปวัดวันอาทิตย์ร่วมกันหรือไม่ ถ้าได้ทำเช่นนี้เสมอมา ก็สามารถวาดภาพว่าเป็นภาพเดียวกันที่แม่พระ และนักบุญโยเซฟพาพระกุมารไปที่พระวิหาร
พระเยซูเจ้าเป็นนักภาวนา ย่อมทำให้เราแน่ใจว่าครอบครัวของพระองค์ได้ปลูกฝังเรื่องการสวดภาวนามาเป็นอย่างดี ตลอดพระชนมชีพเปิดเผยของพระเยซูเจ้า ผู้นิพนธ์พระวรสารจะเล่าเรื่องที่พระเยซูเจ้าทรงภาวนาอยู่เป็นประจำ เช่น เวลาที่ทรงทวีขนมปังเลี้ยงดูฝูงชน เวลารับประทานอาหารค่ำมื้อสุดท้าย ทรงหลบไปภาวนาแต่ผู้เดียว บางทีไปภาวนาบนภูเขา ฯลฯ
ส่วนลำดับต่อมาเราต้องสวมใส่อาภรณ์แห่งความรักต่อกันและกัน ปฏิบัติต่อกันและกันด้วยความเอาใจใส่ ช่วยเหลือกันอย่างดีที่สุดในการก้าวไปด้วยกันถึงจุดมุ่งหมายของชีวิต
พี่น้องครับ ขอให้ครอบครัวของพี่น้องทุกท่านสวมอาภรณ์แห่งความรักต่อพระเจ้า และต่อกันและกัน ขอให้เป็นครอบครัวที่กล้าแกร่งในการเผชิญอุปสรรคต่าง ๆ โดยมีความไว้วางใจ ในพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม และรู้จักภาวนาต่อพระองค์ด้วยความเชื่อศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยมหัวใจ
( คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนลงสารวัดพระกุมารเยซู เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 2008 )