บทเทศน์บทรำพึง
อาทิตย์ที่ 2 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า ปี B
มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง อายุ 53 ปี และ 32 ปีตามลำดับ ได้ทำการแล่นเรือใบความยาว 21 เมตร จากท่าเรือที่นิวยอร์กในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2005 พวกเขาใช้เวลาอยู่ในเรือเพื่อเดินทางรอบโลกเป็นเวลาหนึ่งพันวัน โดยแล่นเรือไปรอบมหาสมุทรแปซิฟิก แอตแลนติก และอินเดีย และจะกลับถึงฝั่งที่เริ่มต้นภายในเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 2008 "ใครๆก็ใฝ่ฝันว่าจะได้แล่นเรือออกไป และละทิ้งทุกๆสิ่งและทุกๆคนไว้เบื้องหลัง" ฝ่ายสามีได้กล่าวไว้เช่นนี้ "และเราก็ได้ทำให้ฝันนั้นเป็นจริงขึ้นมา" พวกเราล่ะ จะสามารถละทุกๆสิ่งและทุกๆคนไว้เบื้องหลัง แล้วแล่นเรือไปกับพระเยซูเจ้าในอาทิตย์แห่งการเตรียมรับเสด็จพระคริสต์นี้ได้หรือไม่
พระวาจาสำหรับอาทิตย์นี้บอกเราให้ตระเตรียมทางสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า "จงเปิดทางตรงในทุ่งเวิ้งว้างสำหรับพระเจ้า" (อิสยาห์) "พระเจ้าทรงประสงค์ให้ทุกคนกลับใจ เปลี่ยนวิถีชีวิต" (จดหมายของนักบุญเปโตร) และ "จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด" (คำพูดของท่านยอห์น ผู้ทำพิธีล้างในพระวรสารของนักบุญมาระโก) แม้ว่าข่าวสารของทั้งสามบทอ่านนี้เหมือนกัน แต่บริบทของสามบทอ่านนี้ต่างกัน
สำหรับบทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์นั้น ข้อความทำนายของท่านในตอนนี้เป็นที่รู้จักกันดี และแพร่หลายกว้างขวางจนกระทั่งนักประพันธ์เพลงเอกคนหนึ่งของโลก คือ G.F. Handel นำเอาข้อความของอิสยาห์ 3 ตอนมาเป็นตอนเปิดในผลงานเอกของท่าน คือบทเพลง Messiah ดังนี้
(1) Comfort ye, comfort ye my people, saith your God... (อสย 40 : 1-3)
(2) Every valley shall be exalted, and ev'ry mountain and hill made low... (อสย 40:4)
(3) And the glory of the Lord shall be revealed.... (อสย 40:5)
ที่น่าสังเกตเกี่ยวกับอิสยาห์ที่เรียกว่าประกาศกแห่งการเนรเทศนี้ ท่านไม่ได้คิดไปถึงพระเยซูคริสต์คือพระเมสสิยาห์ ท่านเพียงแต่เห็นภาพของการฟื้นฟูอิสราเอลจากการเนรเทศไปบาบิโลนในช่วงราวปี 538 ก่อนคริสตกาล ซึ่งเป็นปีที่พระเจ้าไซรัสทรงมีชัยชนะเหนืออำนาจของบาบิโลนที่ร่วงโรยไป
"ท่านผู้นำข่าวดีมายังศิโยนเอ๋ย จงขึ้นไปบนภูเขาสูงเถิด ท่านผู้นำข่าวดีมาให้กรุงเยรูซาเล็มเอ๋ย จงร้องตะโกนให้สุดเสียงเถิด" คำของท่านอิสยาห์ที่ว่า "ข่าวดี" ( = good tidings ) ในภาษาฮีบรูทำให้เราได้คำนามที่ว่า "พระวรสาร" (Gospel) ในความหมายของพันธสัญญาใหม่นั่นเอง ข่าวดีในที่นี้แฝงไว้ว่าพระเจ้าจะทรงเข้ามาเกี่ยวข้องในประวัติศาสตร์เพื่อทรงนำให้กลับมาจากการเนรเทศ
การเนรเทศในอิสยาห์เป็นการพรรณนาด้วยภาษาสัญลักษณ์หมายถึงการอพยพครั้งที่สอง (as the Second Exodus) อัศจรรย์ต่างๆในการอพยพครั้งแรกที่เกิดขึ้น จะมีการทำซ้ำในบัดนี้ "หุบเขาทุกแห่งจะถูกถมให้เต็ม.... ที่สูงๆต่ำๆ จะราบเรียบ" ณ ที่นี้ ให้เราสังเกตว่า ทั้งการอพยพ และการเนรเทศได้กลับกลายเป็นแม่พิมพ์แห่งความหวังในอนาคต พระเจ้าจะทรงปลดปล่อยประชากรอีกครั้ง เพราะพระเจ้าจะทรงซื่อตรงต่อความเป็นพระของพระองค์
ในบทอ่านที่สองที่อ้างว่าเป็นคำกล่าวของนักบุญเปโตร บางทีอาจจะเป็นตอนที่เพิ่มเติมขึ้นในเวลาต่อมา เพื่อยืนยันถึงอำนาจของนักบุญเปโตร ผู้คนในสมัยของท่านดูเหมือนผิดหวังที่วันสุดท้ายยังมาไม่ถึงสักที ดังนั้นคำอธิบายที่ว่า "สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงหนึ่งวันก็เหมือนกับพันปี และหนึ่งพันปีก็เหมือนหนึ่งวัน" พระเจ้าทรงเป็นเจ้านายสูงสุดเหนือกาลเวลาและฤดูกาลที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน แต่อย่างไรก็ตาม "วันของพระเจ้าจะมาถึงอย่างไม่รู้ตัวเหมือนขโมย" ดังนั้น กลุ่มคริสตชนได้ถูกตักเตือนให้เฝ้าระวังและรอคอย ด้วยความหวัง
บทเริ่มต้นของพระวรสารวันนี้กล่าวว่า "การเริ่มต้นข่าวดีเรื่องพระเยซูเจ้าเป็นพระคริสต์...." นักบุญมาระโกผู้นิพนธ์ได้เริ่มต้นด้วยคำพยากรณ์ของประกาศกอิสยาห์ และพรรณนาถึงท่านยอห์นผู้ทำพิธีล้างในฐานะที่เป็น (1) ผู้ประกาศให้มีการกลับใจ และ (2) ผู้นำหน้าพระเมสสิยาห์ เราลองคิดดูสิว่า การเรียกร้องให้กลับใจของท่านยอห์นเป็น "ข่าวดี" ใช่หรือไม่
หญิงคนหนึ่งกำลังจะตายเพราะโรคมะเร็ง คุณหมอที่ดูแลเธอพูดว่า "คุณครับ มะเร็งของคุณมันแพร่กระจายแล้ว ผมเกรงว่าคุณจะตายในไม่ช้า คุณมีความปรารถนาสุดท้ายอะไรที่อยากให้ผมทำให้ไหม" หญิงนั้นตอบว่า "มีค่ะ คุณช่วยพาฉันไปหาคุณหมอคนใหม่ได้ไหม" บางทีการยอมรับความจริงที่น่าเจ็บปวดก็เป็นสิ่งที่ยากลำบาก เช่น ฉันเป็นคนป่วย ฉันกำลังจะตาย หรือ ฉันเป็นคนบาป แต่ยอห์นผู้ทำพิธีล้างก็ชี้นิ้วมาวินิจฉัยถึงโรคมะเร็งฝ่ายจิตใจของเรา และบอกวิธีรักษาด้วยว่า "จะต้องกลับใจใช้โทษบาป"
"ประชาชนจากทั่วแคว้นยูเดีย และชาวกรุงเยรูซาเล็มทั้งหลายไปพบเขา" เราเป็นคนหนึ่งในฝูงชนเหล่านั้นที่ขวนขวายไปหาท่านยอห์นด้วยหรือเปล่า ไปเพื่อให้ได้ยินคำกล่าวของท่านที่ว่า "จงเตรียมทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงทำทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด" คำภาษากรีกของการกลับใจใช้โทษบาป (repentance) คือคำ metanoia รากศัพท์หมายถึง "การพลิกด้าน หรือ การย้อนกลับ ของจิตใจ" ( = reverse mind) ท่านยอห์นเรียกร้องเราให้หันกลับจากการต่อต้านพระเจ้า มาสู่การล่องไปบนคลื่นแห่งความรักอย่างปลอดภัย
แม้หนทางของโลกมีสิ่งที่น่าหลงใหล และกระแสคลื่นทางโลกนำไปสู่ความสุดโต่งทางด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด ความหลงตนเอง (narcissism) เรื่องทางเพศ ความสำเร็จ ความมีชื่อเสียง และ การเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ แต่ท่านยอห์นเป็นเสียงที่ร้องเตือนมาจากแดนไกล จากถิ่นทุรกันดาร ให้เราถอยห่างจากยุคสมัยใหม่ที่อาจพาให้เราหลงไป ดังนั้น เราจงตระเตรียมหนทางของเราเพื่อจะพบพระองค์ผู้ทรงเป็นหนทางที่แท้จริงดีกว่า
(คุณพ่อ วิชา หิรัญญการ เขียนเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 2020
Based on : Sunday Seeds For Daily Deeds ; by ; Francis Gonsalves, S.J.)