วันศุกร์สัปดาห์ที่ 18 (ปีคู่)
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 16:24-28 )
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ถ้าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิตของตนให้รอดพ้น ก็จะสูญเสียชีวิต แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตของตนเพราะเรา ก็จะพบชีวิต มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่ได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียชีวิต มนุษย์จะต้องให้สิ่งใดเพื่อแลกกับชีวิตที่สูญเสียไปให้กลับคืนมา” “บุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จกลับมาในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ เมื่อนั้นพระองค์จะประทานรางวัลแก่ทุกคนตามความประพฤติของเขา เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า บางท่านที่ยืนอยู่ที่นี่จะยังไม่ตาย จนกว่าจะได้เห็นบุตรแห่งมนุษย์เสด็จกลับมาในพระอาณาจักรของพระองค์”
มธ 16:24-26 จงเลิกคิดถึงตนเอง แบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรามา : การกลายเป็นศิษย์แท้ของพระคริสตเจ้านั้น เรียกร้องการรักที่จะเสียสละด้วยการปฏิเสธตนเองและเต็มใจที่จะยอมรับการความทุกข์ทรมาน เพราะเห็นแก่ความรักต่อพระคริสตเจ้า ในบทภาวนาของนักบุญนิโคลัสมีกล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า โปรดทรงขจัดทุกสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าต้องออกห่างจากพระองค์ ข้าแต่พระเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า โปรดประทานแก่ข้าพเจ้าซึ่งทุกสิ่งที่นำข้าพเจ้าให้เข้าใกล้พระองค์มากยิ่งขึ้น ข้าแต่พระเจ้าและองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า โปรดช่วยให้ข้าพเจ้าไม่ยึดติดกับตนเอง เพื่อจะสามารถมอบตัวของข้าพเจ้าทั้งครบไว้กับพระองค์”
คำสอนพระศาสนจักร CCC ข้อ 618 ไม้กางเขนเป็นการถวายบูชาเพียงหนึ่งเดียวของพระคริสตเจ้า คนกลางเพียงผู้เดียวระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ แต่เนื่องจากว่าพระองค์ “ทรงประหนึ่งว่ารวมเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์ทุกคน” ในพระบุคคลพระเจ้าผู้ทรงรับสภาพมนุษย์ “พระองค์จึงประทานให้มนุษย์ทุกคนมีโอกาสร่วมส่วนในพระธรรมล้ำลึกปัสกาได้โดยวิธีการที่พระเจ้าทรงทราบ” พระองค์ทรงเรียกร้องให้บรรดาศิษย์แบกไม้กางเขนของตนและตามพระองค์ เพราะพระองค์ทรงรับทรมานเพื่อเราและประทานแบบฉบับไว้ให้เราดำเนินตามรอยพระบาท พระองค์ทรงประสงค์ให้ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการถวายบูชาไถ่กู้ของพระองค์ก่อนผู้อื่นได้มีส่วนร่วมในการถวายบูชานี้ด้วย การนี้เป็นจริงอย่างสมบูรณ์ในองค์พระมารดาของพระองค์ผู้ทรงมีส่วนร่วมพระธรรมล้ำลึกพระทรมานไถ่กู้ของพระองค์อย่างลึกซึ้งมากกว่าผู้ใดทั้งสิ้น “นี่คือบันไดแท้จริงเพียงหนึ่งเดียวเพื่อขึ้นสวรรค์ และไม่มีบันไดอื่นใดอีกนอกจากไม้กางเขนที่เราจะใช้เดินขึ้นสวรรค์ได้”
CCC ข้อ 2029 “ถ้าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรา” (มธ 16:24)
CCC ข้อ 2232 ความสัมพันธ์ในครอบครัวสำคัญมาก แต่ก็ไม่เด็ดขาด เช่นเดียวกับที่เด็กทารกเติบโตเป็นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบส่วนตัวตามธรรมชาติและด้านจิตใจยิ่งขึ้น กระแสเรียกเฉพาะส่วนตัวของเขาที่มาจากพระเจ้าย่อมปรากฏชัดเจนและเข้มแข็งยิ่งขึ้น บิดามารดาจะต้องสังเกตกระแสเรียกของบุตรและสนับสนุนให้ตอบสนองเพื่อติดตามกระแสเรียกนี้ เขาต้องคิดว่ากระแสเรียกประการแรกของคริสตชนก็คือการติดตามพระเยซูเจ้า “ผู้ที่รักบิดามารดามากกว่ารักเรา ก็ไม่คู่ควรกับเราผู้ที่รักบุตรชายหญิงมากกว่ารักเรา ก็ไม่คู่ควรกับเรา” (มธ 10:37)
มธ 16:27-28 บางท่านที่ยืนอยู่ที่นี่จะยังไม่ตาย… พระอาณาจักร : พระคริสตเจ้าไม่ได้หมายความว่าอัครสาวกบางจะมีชีวิตอยู่จนถึงเวลาแห่งการเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งของพระองค์ การยืนยันนี้จะได้รับการเติมเต็มในการสำแดงพระวรกายของพระคริสตเจ้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง (มธ 17:1-9) อีกทั้งยังอาจอ้างอิงถึงการกลับคืนพระชนมชีพและเสด็จสู่สวรรค์ของพระองค์ด้วย ที่สุดยังอาจเป็นการบอกล่วงหน้าถึงเรื่องการทำลายพระวิหารด้วยฝีมือของชาวโรมัน ซึ่งจะเป็นเครื่องหมายบอกถึงการพิพากษาที่จะมาพร้อมกับการมาถึงของพระอาณาจักรพระเจ้า
CCC ข้อ 1038 การกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตาย “ทั้งผู้ชอบธรรมและคนอธรรม” (กจ 24:15) จะมาถึงก่อนการพิพากษาครั้งสุดท้าย แล้วจะถึง “เวลาที่ทุกคนในหลุมศพจะได้ยินพระสุรเสียง […] [ของบุตรแห่งมนุษย์] และจะออกมา ผู้ที่ได้ทำความดีจะกลับคืนชีพมารับชีวิตนิรันดร ส่วนผู้ที่ทำความชั่วก็จะกลับคืนชีวิตมารับโทษทัณฑ์” (ยน 5:28-29) แล้วพระคริสตเจ้า “จะเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์พร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ […] บรรดาประชาชาติจะมาชุมนุมกันเฉพาะพระพักตร์ พระองค์จะทรงแยกเขาออกเป็นสองพวกดังคนเลี้ยงแกะแยกแกะออกจากแพะ ให้แกะอยู่เบื้องขวา ส่วนแพะอยู่เบื้องซ้าย […] แล้วพวกนี้ก็จะไปรับโทษนิรันดร ส่วนผู้ชอบธรมจะไปรับชีวิตนิรันดร” (มธ 25:31-33,46)
(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)