วันพุธที่ 1 มีนาคม 2017
วันพุธรับเถ้า เริ่มเทศกาลมหาพรต
“40 วันจากนี้ไปเพื่อการชำระล้าง เพื่อการเดินทางความเชื่อที่ลึกซึ้ง เพื่อการประกาศศรัทธาในพระเจ้า เพื่อการอ่านพระวาจา การจำศีล การภาวนา การให้ทาน และการทำกิจใช้โทษบาป”... วันนี้พ่ออยากเริ่มแบบตรงๆ สั้นๆแบบนี้ และอยากให้อ่านพระวาจา อยากให้พี่น้องเพื่อน facebook ทุกคนของพ่อ และเพื่อนๆของเพื่อน ที่เป็นคริสตชนหรือไม่ก็ตาม ใช้เวทีนี้เพื่อการเข้าสู่เทศกาลมหาพรต หรือการเข้าสู่ 40 วันแห่งการเปลี่ยนแปลงตนเอง การสำนึกและกลับใจ ขัดเกลาและชำระจิตใจให้ด้วยกัน
สำหรับพระคัมภีร์ หน้าตาของคนที่มีศรัทธานั้น ต้องมีสามสิ่งที่พึงต้องกระทำจากใจจริงๆ ซึ่งเราได้ยินจากพระวรสารในวันนี้... สามอย่างนี้คือ
1. การให้ทาน Alms Giving หรือการแบ่งปัน การบริจาค เป็นเครื่องหมายของการตัดใจจากทรัพย์สิน เพื่อประกาศความรักต่อพี่น้องผู้ยากไร้ที่ต้องการโอกาสและความช่วยเหลือ... อย่าลืมทำทานมากขึ้นนะครับ ทำด้วยจิตตารมณ์คริสตชน แบ่งปัน และให้เพื่อความรักต่อเพื่อนพี่น้องที่ลำบาก เหลียวมองสังคมที่ลำบากและหยิบยื่นความช่วยเหลือนะครับ
2. การภาวนา Praying เป็นเครื่องหมายของการมีความสัมพันธ์อันดีกับพระเจ้า มหาพรต สวดภาวนามากๆ สวดภาวนาสรรเสริญพระเจ้าให้มากขึ้น ขอบพระคุณพระเจ้าให้มากขึ้น ขอโทษพระเจ้าให้มากขึ้น และวอนขอพระพรของพระเจ้าให้มากขึ้น โดยการขอพระพรแห่งสันติภาพและการคืนดีกับพระเจ้าและกับเพื่อนพี่น้อง
3. จำศีลอดอาหาร ลด ละ เลิก Fasting หลายอย่างที่ไม่จำเป็นเพื่อประกาศถึงสิ่งที่จำเป็นกว่าคือการรักพระเจ้าและรักเพื่อนมนุษย์ การจำศีลเป็นเครื่องหมายของการจัดการกับความปรารถนาของตนที่มากเกินไป เพื่อทำให้ผู้อื่นได้รับสิ่งที่เรายอมลดละและอดออม... เป็นการขัดเกรานิสัยไม่ดีของตน การขัดเกราคำพูด ความคิด และจิตใจตน เป็นโอกาสของการชำระล้างจิตใจ ความคิดและมโนธรรมของตน...
พี่น้องที่รัก วันนี้เราอ่านหนังสือประกาศกโยเอลกันดีๆครับ เปิดใจให้พระวาจาของพระเจ้าได้สัมผัสและพาเราให้ “หันกลับ” กลับใจมาหาพระเจ้ากันอย่างดีนะครับ... เริ่มอ่านเลยครับ
ยอล 2:12-18….. คำเชิญชวนให้กลับใจ
12แต่บัดนี้ – พระยาห์เวห์ตรัส –
ท่านทั้งหลายจงกลับมาหาเราด้วยสุดจิตสุดใจเถิด
จงจำศีลอดอาหาร ร่ำไห้ และไว้ทุกข์คร่ำครวญ
13จงฉีกใจของท่าน มิใช่ฉีกเสื้อผ้า
จงกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
เพราะพระองค์ทรงเมตตาและกรุณา
ไม่ทรงโกรธง่าย ทรงเปี่ยมด้วยความรักมั่นคง
ทรงสงสารและไม่ทรงลงโทษ
14ใครจะรู้ได้ พระองค์อาจจะทรงเปลี่ยนพระทัยสงสาร
กลับมาประทานพระพร
ท่านถวายผลิตผลเป็นธัญบูชาและเทเหล้าองุ่น
ถวายพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
15จงเป่าแตรเขาสัตว์ในศิโยน
จงประกาศให้มีการจำศีลอดอาหาร
จงเรียกประชาชนให้มาชุมนุมกัน
16จงเรียกประชาชนให้มาพร้อมกัน
จงประกาศให้มีการประชุม
จงเรียกบรรดาผู้อาวุโสมาชุมนุมกัน
จงรวบรวมเด็กๆ แม้ทารกที่ยังกินนม
จงให้เจ้าบ่าวออกมาจากห้องหอ
และให้เจ้าสาวออกจากห้องวิวาห์
17จงให้บรรดาสมณะผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์
ร่ำไห้อยู่ระหว่างเฉลียงกับพระแท่นบูชา
ทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงเมตตาประชากรของพระองค์เถิด
ขออย่าทรงทำให้มรดกของพระองค์ถูกลบหลู่
และถูกนานาชาตินินทาว่าร้าย
ทำไมชนชาติทั้งหลายจะต้องพูดว่า
“พระเจ้าของเขาอยู่ที่ไหน”
18พระยาห์เวห์ทรงหวงแหนแผ่นดินของพระองค์
ทรงสงสารประชากรของพระองค์
อรรถาธิบาย
• มารู้จักประกาศกโยเอล และหนังสือประกาศกโยเอลกันก่อนครับ
• ชื่อประกาศกโยเอล ภาษาฮีบรู יוֹאֵ֖ל อ่านว่า “โยเอล” แปลว่า “ยาห์เวห์คือพระเจ้า” (JaHWeH is EL) โยเอลเป็นบุตรของเปธูเอล น่าจะเป็นพระสงฆ์ที่รับใช้พระวิหาร
• เรื่องราวของโยเอล เกิดในช่วงเวลาของการฟื้นฟูและการสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ ในสมัย เอสราและเนหะมีย์ เป็นช่วงเวลาของการฟื้นฟูชาติและสร้างพระวิหาร ศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาล
• ช่วงเวลาที่พวกที่เหลืออยู่อย่างซื่อสัตย์เพื่อรอคอยพระยาห์เวห์ Remnant คนกลุ่มเล็กๆที่ยังคงซื่อสัตย์ ไม่ทรยศ ไม่หันไปหาพระเท็จเทียม แต่อย่างไรก็ตามพวกเขามีความยากลำบากอย่างยิ่งเพราะโรคระบาดและการทำลายล้างของฝูงตักแตนที่เข้ามาทำลายพื้นผลไร่นาที่เป็นความหวัง
• ประกาศกโยเอลได้ให้กำลังใจประชาชนให้เห็นว่า ความโชคร้ายของการทำลายของการระบาดเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างหรือเป็นเพียงการเริ่มต้นของภัยพิบัติที่ร้ายแรงกว่าใน “วันของพระยาห์เวห์” (Day of the LORD)
• เป้าหมายของหนังสือประกาศกโยเอลคืออะไร
• คำตอบคือการเรียกร้องให้ “เป็นทุกข์ถึงบาปและกลับใจ” เพื่อเสริมกำลังให้มองไปในอนาคต มองไปให้เห็นถึง “พระสัญญาของพระเจ้า และการที่พระองค์จะประทานกำลังแห่งพระจิตเจ้าแก่ทุกคน”
• เทววิทยา หรือคำสอน คือ “สำหรับอิสราเอล การที่จะหลบหนี้พ้นจากความพินาศได้นั้น ต้องอาศัย การภาวนาอย่างจริงจัง การอดอาหารและบำเพ็ญพรต ดังนั้น ประชากรของพระเจ้าต้องภาวนาวอนขอความรอด และต้องจำศีลอดอาหารเคร่งครัดเพื่อจะได้ไม่ล่มสลายไปอาศัยความช่วยเหลือของพระเจ้า”
• หนังสือประกาศกโยเอลแบ่งเป็นสองภาค
1. บทที่ 1-2 อธิบายหายนะที่มาจากการระบาดของตักแตนและปฏิกิริยาของประชากร
2. บทที่ 3-4 อธิบายถึงความจริงจังเคร่งครัดในวันที่อิสราเอลถูกศัตรูกดขี่ข่มเหง และแน่นอนศัตรูจะถูกตัดสินและอิสราเอลจะได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ และปลอดภัยจากศัตรู
• จุดเด่นๆในหนังสือประกาศกโยเอล
1. การเรียกร้องเชิญชวนให้กลับใจ “แต่บัดนี้ – พระยาห์เวห์ตรัส – ท่านทั้งหลายจงกลับมาหาเราด้วยสุดจิตสุดใจเถิด จงจำศีลอดอาหาร ร่ำไห้ และไว้ทุกข์คร่ำครวญ จงฉีกใจของท่าน มิใช่ฉีกเสื้อผ้า จงกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เพราะพระองค์ทรงเมตตาและกรุณา ไม่ทรงโกรธง่าย ทรงเปี่ยมด้วยความรักมั่นคง ทรงสงสารและไม่ทรงลงโทษ” (ยอล 2:12-13)
2. คำสัญญาจะประทานพระจิตเจ้า “ต่อจากนี้ เราจะหลั่งจิตของเราลงเหนือมนุษย์ทุกคน บรรดาบุตรชายและบุตรหญิงของท่านจะประกาศพระวาจา บรรดาคนชราของท่านจะฝันเห็นสิ่งต่างๆ บรรดาคนหนุ่มของท่านจะเห็นนิมิต 2ในวันเหล่านั้น เราจะหลั่งจิตของเรา เหนือแม้กระทั่งทาสชายและทาสหญิง” (3:1-2)
3. ความรอดพ้นของผู้เลือกสรรของพระเจ้า “แล้วท่านทั้งหลายจะรู้ว่าเราเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เราพำนักอยู่ในศิโยน ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา กรุงเยรูซาเล็มจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ จะไม่มีคนต่างด้าวยึดครองเมืองนี้อีกเลย เมื่อวันนั้นมาถึง ภูเขาจะหลั่งเหล้าองุ่นใหม่ น้ำนมจะไหลตามเนินเขา ห้วยต่างๆของยูดาห์จะมีน้ำไหล น้ำจะไหลออกมาจากพุน้ำในพระวิหารของพระยาห์เวห์ และจะรดหุบเขาชิทธีม” (4:17-18)
พี่น้องที่รักพระวาจาจากประกาศกโยเอลวันนี้ เรียกร้องจริงๆให้เราต้องกลับใจ เรียกร้องอยากเปิดเผยที่สุดให้เราเข้าสู่การสำนึกถึงบาปความผิด กลับใจ และภาวนา เป็นการเข้าสู่มหาพรตจริงๆ และที่สำคัญ เราพบกว่า พระจิตเจ้า คือ สัญญา แก่ทุกคนที่กลับใจ และความรอดแก่ทุกคนที่ได้กลับใจมาหาพระเจ้าจริง
พ่อขอนำพระวาจาวันนี้ มาเป็นบทสรุป ที่เป็นคำสั่ง เพื่อการปฏิบัติของเรานะครับ จากข้อที่ 15 ถึงข้อที่ 16 ครับ น่าสนใจในการนำมาไตร่ตรองครับ...เพราะการอ่านและสำรวจของพ่อ เราได้พบ “คำสั่ง” คำกริยาในรูปคำสั่ง (Imperative) 10 ประการ พอดีๆ แม้ในคำแปลภาษาไทยอาจไม่ครบก็ตาม ต้นฉบับเหมือนกันครับ ใช้คำกริยาคำสั่งร่วมกันทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว เป็นคำสั่งแยกกันให้ “ออกจาก” เหมือนกัน อยู่มีความสุขต่อไม่ได้ต้องออกมาเพื่อเข้าสู่การกลับใจและการสำนึกเสียใจ... ดังนั้น ตรงนี้น่าสนใจจริงๆ ครับ ที่เราต้องกลับไปทบทวนบัญญัติสิบประการ หรือพระวาจาสิบคำที่สอนสั่งชีวิตของเราครับ
1. จงเป่าแตรเขาสัตว์ในศิโยน
2. จงประกาศให้มีการจำศีลอดอาหาร
3. จงเรียกประชาชนให้มาชุมนุมกัน
4. จงเรียกประชาชนให้มาพร้อมกัน
5. จงประกาศให้มีการประชุม
6. จงเรียกบรรดาผู้อาวุโสมาชุมนุมกัน
7. จงรวบรวมเด็กๆ แม้ทารกที่ยังกินนม
8. จงให้เจ้าบ่าวออกมาจากห้องหอ
9. (จง)ให้เจ้าสาวออกจากห้องวิวาห์
10. จงให้บรรดาสมณะผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ ร่ำไห้อยู่ระหว่างเฉลียงกับพระแท่นบูชา
ทูลว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ โปรดทรงเมตตาประชากรของพระองค์เถิด ขออย่าทรงทำให้มรดกของพระองค์ถูกลบหลู่ และถูกนานาชาตินินทาว่าร้าย ทำไมชนชาติทั้งหลายจะต้องพูดว่า “พระเจ้าของเขาอยู่ที่ไหน” พระยาห์เวห์ทรงหวงแหนแผ่นดินของพระองค์ ทรงสงสารประชากรของพระองค์
พี่น้องครับ พ่อไม่เขียนอะไรมากไปกว่านี้ พ่อขอให้อ่านพระวาจาของพระเจ้า ขอให้เราเข้าสู่การกลับใจ การคืนดี การทบทวนชีวิตและเข้าสู่เทศกาลมหาพรตด้วยความรักต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนพี่น้องทุกคน ระลึกถึงบัญญัติของพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัญญัติแห่งความรัก และให้เราได้ตระหนัก เชื่อ ศรัทธา และกลับใจมาหาพระเจ้าด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักต่อพระองค์นะครับ ขอให้เสียงของโยเอลเชิญชวนเราให้ไม่ต้องกลัว พระเจ้าจะอยู่กับเรา ขอเพียงให้เราได้กลับใจมาหาพระองค์ นั่นคือสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับเทศกาลนี้ครับ... ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ