แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2015
สัปดาห์ที่สามสิบเอ็ด เทศกาลธรรมดา

ลก 16:1-8…
9‘ดังนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงใช้เงินทองของโลกอธรรมนี้ เพื่อสร้างมิตรให้ตนเอง เพื่อว่าเมื่อเงินทองนั้นหมดสิ้นแล้ว ท่านจะได้รับการต้อนรับสู่ที่พำนักนิรันดร 10ผู้ที่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่ด้วย ผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่ด้วย 11เพราะฉะนั้นถ้าท่านไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเงินทองของโลกอธรรมแล้ว ผู้ใดจะวางใจมอบสมบัติแท้จริงให้ท่านดูแลเล่า 12ถ้าท่านไม่ซื่อสัตย์ในการดูแลทรัพย์สมบัติของผู้อื่น ผู้ใดจะให้ทรัพย์สมบัติของท่านแก่ท่าน
13“ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะเกลียดชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง เขาจะจงรักภักดีต่อนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้
14ชาวฟาริสีที่รักเงินทอง ได้ยินถ้อยคำทั้งหมดนี้ จึงหัวเราะเยาะพระองค์ 15พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายคิดว่าท่านเป็นผู้ชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์ แต่พระเจ้าทรงล่วงรู้ใจของท่าน สิ่งที่มนุษย์ยกย่องเป็นสิ่งน่ารังเกียจเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า”
อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “เงิน” กับ “พระเจ้า” ยากจริงๆ พระเยซูเจ้าสอนต่อเนื่องจากเรื่องผู้จัดการที่ฉลาด (แกมโกงคนนั้น) พระเยซูเจ้าตรัสแบบแรงและดูเหมือนภาษาแบบ irony “ประชดประชัน” เพราะในท่ามกลางบรรดาฟาริสีที่ปฏิเสธคนบาปและคนยากไร้ ก็มีบรรดาฟาริสีที่ “รักเงิน” พระคัมภีร์ใช้คำนี้ตรงเลยครับ พ่ออ่านแล้วทำให้พ่อต้องตั้งใจคิดไตร่ตรองอย่างพิเศษจริงๆ พระเยซูเจ้าตรัสวันนี้ช่างเฉียบคม ตรง และไม่ธรรมดาสำหรับยุคของพระองค์ และสำหรับยุคของเรา พ่อคิดว่า ยิ่งจำเป็นต้องฟังคำสอนของพระองค์และเลือกให้ชัดเจนถูกต้องมากที่สุดครับ

• พระดำรัสพระเยซู....
• “จงใช้เงินทองของโลกอธรรมนี้เพื่อสร้างมิตรให้ตนเอง เพื่อว่าเมื่อเงินทองนั้นหมดสิ้นแล้ว ท่านจะได้รับการต้อนรับสู่ที่พำนักนิรันดร”
o ตรงนี้เป็นภาษาประชดประชัน และความเป็นนิรันดรในพระวรสารของนักบุญลูกาเมื่อไปอ่านเรื่องเศรษฐีกับยาจากลาซารัส... ความเป็นนิรันดร์ หมายถึงในความสุขนิรันดร์ และก็หมายถึงความทุกข์ในไฟทรมานนิรันดร์เช่นกัน... ดังนั้นคำว่า “ท่านจะไดรับการต้อนรับสู่ที่พำนักนิรันดร” ตรงนี้ไม่ได้หมายถึงพระอาณาจักรสวรรค์ แต่เป็นความทุกข์กับคนอธรรมด้วยกันนิรันดร เพราะพ่อตรวจในภาษาต้นฉบับแล้ว ภาษากรีกใช้คำว่า “ σκηνάς” คำนี้อ่านว่า “สะเกนาส” คำนี้แปลว่า “กระโจมหรือเต็นท์” เท่านั้น.. ไม่ได้หมายถึงพระอาณาจักรสวรรค์แต่ประการได้... ถ้าตีความดี ตรงนี้เป็นภาษาประชดประชัน... จงใช้เงินทองของโลกอธรรมสร้างมิตร และที่สุดก็ไปสุมหัวอยู่ที่เดียวกันตลอดไป...
• “ผู้ที่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่ด้วย ผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่ด้วย”
o ความซื่อสัตย์ คือ รากฐานหรือพื้นฐานสำคัญที่สุดแม้ในสิ่งเล็กน้อย ถ้าซื่อสัตย์ ก็จะซื่อสัตย์ในสิ่งใหญ่โตด้วย... ความซื่อสัตย์นั้น แสดงออกชัดที่สุดในเรื่องความรับผิดชอบเรื่องเล็กๆน้อยๆ และกระทำจนเป็นนิสัยคุณธรรม ความไม่ซื่อสัตย์ที่ปรากฎและเป็นบ่อเกิดของเรื่องใหญ่ๆสำหรับเรามนุษย์ คือ “การโกหก” นั่นเป็นเรื่องเล็กๆที่ใกล้ตัวที่สุด ความซื่อสัตย์สำคัญเหลือเกิน และเริ่มต้นที่ “ความคิดเล็กๆที่แสดงออกมาเป็นคำพูดของเรา”
o พี่น้องที่รัก พ่ออ่านมาถึงตอนนี้ ไตร่ตรอง พ่อคิดจริงๆ ว่าเรื่องสำคัญคือ “ความจริง” ความรักในความจริง การพูดความจริงๆ เรื่องเล็กๆน้อยๆเสมอ จะไม่มีวันนำเรามนุษย์ไปสู่ความเสื่อมเสียหรือความผิดใหญ่ได้เลย... พ่ออยากเน้น “ความซื่อสัตย์” วันนี้เป็นพิเศษ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องกองเงินทองมหาศาลหรือทรัพย์สินที่ต้องรับผิดชอบ... เริ่มจาก “คำพูด ความคิด แต่ละคำ ขอเพียง.... “ความจริง”” ไม่ง่ายนะครับ แต่เป็นสิ่งที่เราต้องฝึกปฏิบัติการยืนอยู่ในความซื่อตรง ไม่โกหก...
o การโกหกคือจุดเริ่มต้นของความผิดพลาดมากมายจริงๆ การพูดโกหกคือความไม่ซื่อสัตย์ที่จะนำเราถลำไปสู่ความเจ็บปวดความบาปผิดต่างๆมากมาย... โลกปัจจุบันเราต้องระวังให้มากและยิ่งต้องซื่อตรงให้มากที่สุด
เครื่องมือโกหกและไม่ซื่อสัตย์มากที่สุดในปัจจุบันคือสื่อ โทรศัพท์มือถือที่ทำแอ๊พแบ๊วกันมาเหลือเกิน เราใช้ LINE มากเพื่อ LIAR กันจริงนะครับ ต้องระวังที่สุด.... LINE คือการเชื่อโยงกลุ่มสื่อสารกัน แต่บ่อยครั้ง เรา LIAR คือ โกหกกันมากเหลือเกินจริงๆ พ่อนังคิดไตร่ตรอง LINE ไม่ได้เลวในตัวมันเอง มันมีประโยชน์มาก แต่ แต่ แต่ มันก่อให้เกิดปัญหามากเหลือเกิน... ถ้า ไม่ซื่อสัตย์ โกหกจะตามมา นัดหมาย วางแผน ทั้งซื่อสัตย์และไม่ซื่อสัตย์คือสิ่งที่จะตามมา...อีกมากมาย... บ้านแตกครอบครัวพังก็เพราะไลน์ที่เราใช้ liar โกหกหรอกลวงกัน...
o ดังนั้น สิ่งที่เดียวที่จำเป็น “ฝึกฝนคุณธรรมความซื่อสัตย์กันเถอะครับ” พ่อเองก็กังวลใจที่จะถูกตำหนิจากมโนธรรมเช่นกัน... คนเราอ่อนแอ และเราจะต้องฝึกฝนที่จะไม่โกหกกันดีกว่า คงไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นกลับใจกันใหม่... ไม่ต้องเรื่องใหญ่ๆนะครับ เรื่องเล็กที่สุด คือ “อย่าโกหก” “อย่าพูดเท็จ” นั่นคือจุดเริ่มต้นของความบริสุทธิ์และซื่อตรงเรื่งอใหญ่ๆได้แน่นอน.... พระเยซูเจ้าตรัส “ผู้ที่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่ด้วย ผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่ด้วย”
o พี่น้องที่รักครับ ให้เราจริงใจจริงจังกับการกลับใจอย่างต่อเนื่องในเรื่องความ “ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย” แบบที่พระเยซูเจ้าสอนกันเถิดนะครับ...
• “เพราะฉะนั้นถ้าท่านไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเงินทองของโลกอธรรมแล้ว ผู้ใดจะวางใจมอบสมบัติแท้จริงให้ท่านดูแลเล่า ถ้าท่านไม่ซื่อสัตย์ในการดูแลทรัพย์สมบัติของผู้อื่น ผู้ใดจะให้ทรัพย์สมบัติของท่านแก่ท่าน”
o กระแสโลกีย์ กระแสเงินทอง ดึงดูดและน่าสนใจมาก มันมีแรงดึงดูดมหาศาล การล่อลวงให้เราอยากได้ อยากมี อยากรวย และที่สุดถ้าไม่ระวัง ก็โกงแม้ไม่อยาก แต่ไปๆ ก็อยากโกง
o ปีศาจความโลภในทรัพย์สิน ความโลภโกรธหลงและโลกีย์ช่างล่อลวงจริงๆนะครับ พ่อคิดว่าในโลกของเงินทองที่อาจนำไปสู่ความอธรรมและตัณหามากมาย... ขอให้เราซื่อสัตย์ให้ได้นะครับและเราจะงดงามแท้จริงในชีวิตเรา พ่อรู้ว่าเราอ่อนแอ พ่อด้วย แต่เราต้องฝึก เพราะเราเป็นศิษย์พระคริสตเจ้าองค์พยานผู้ซื่อสัตย์และตรัสความจริงครับ ขอพระเจ้าเสริมกำลังเราด้วยพระวาจานะครับ

• “ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะเกลียดชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง เขาจะจงรักภักดีต่อนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้”
o รับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้...นั้นจริงแน่นอน แต่พ่อไตร่ตรอง...
o ยิ่งถ้าเราให้เงินเป็นพระเจ้า แทนพระเจ้า นั่นซ้ำร้ายที่สุด
o พี่น้องที่รัก มนุษย์เราเข็ดยาก เห็นแล้วก็ไม่ยอมรับว่า เงินทองนั้นเราเอาไปกับชีวิตไม่ได้เลยเมื่อต้องก้าวผ่านจากชีวิต... ชีวิตเราไม่ได้ยาวมากเลย กินเท่าๆ กันก็อิ่ม แต่ก็ไม่ง่ายที่จะยอมรับและเข้าใจ... พระเจ้าของมนุษย์บ่อยครั้งคือเงินและโลกีย์ตัณหาที่ไม่รู้จักพอ พระเท็จเทียมตัวนี้ข้ามยุคสมัยและยังปรากฎชัดในปัจจุบัน ยิ่งวันยิ่งแรงและน่ากลัวครับ...
o ไม่รู้สิ... พ่อรู้สึกว่า ใครๆว่าศาสนาเสื่อมถอย ก็จริงนะ กระแสเรียกลดลงก็จริงนะ แต่ไม่รู้สิ พ่อเห็นเป็นส่วนตัวว่าโลกปัจจุบันที่อิงเงินทองและทรัพย์สิน เงินตราและธุรกิจ พ่อดูว่ามันกำลังไปไม่รอด... และพ่อส่วนตัวรู้สึกว่าศาสนากำลังต้องกลับมาและกลับไปแก้กันที่พื้นฐานกัน ที่ความซื่อสัตย์และความจริง ปัจจุบันยิ่งคงเป็นไปตามคำสอนพระเยซู “ความจริงจะทำให้ท่านเป็นอิสระ” (ยน 8:32) เพราะปัจจุบันดูเหมือนความเท็จที่เริ่มจากเล็กน้อย กำลังถลำชีวิตสังคมไปใหญ่หลวง จนโลกเราเสียสมดุลไปแล้ว...
o ถึงเวลากลับมากหาพระเจ้าเที่ยงแท้แต่เก่าก่อนและเป็นนิรันดร คือ พระเจ้าแห่งสัจจะและความ ความรัก และความี... ความดีที่เป็นนิรันดรแห่งความจริงครับ...

• “ชาวฟาริสีที่รักเงินทอง ได้ยินถ้อยคำทั้งหมดนี้ จึงหัวเราะเยาะพระองค์ พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายคิดว่าท่านเป็นผู้ชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์ แต่พระเจ้าทรงล่วงรู้ใจของท่าน สิ่งที่มนุษย์ยกย่องเป็นสิ่งน่ารังเกียจเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า””
o ตรง บาดใจ และสอนใจ... ถ้าเรารักเงินทองและคิดว่าเราชอบธรรม เป็นคนศาสนามีศาสนามีปรีชาและความรู้แบบฟาริสี ที่สุดเราก็จะตกเป็นฟาริสีต่อไปได้ง่ายมาก คือความหน้าซื่อใจคดนั่นเอง...
o พระเจ้ารู้ใจเราครับ... บ่อยครั้งเรายกย่องให้เกียรติกันเพราะเป็นคนเก่ง เป็นคนมีพระพร เป็นคนศาสนา เป็นพระสงฆ์นักบวช พ่อเองก็ยอมรับและต้องกลับใจ เพราะพระวาจาของพระเจ้าเตือนตรงเหลือเกิน... สิ่งที่มนุษย์ยกย่องเป็นสิ่งน่ารังเกียจเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า...

• พอละครับ.. พ่อหยุดละครับ ขอไปพิจารณาความคิด คำพูด มโนธรรม การกระทำของตนเอง และเชิญชวนพี่น้องที่รักได้ไตร่ตรองทบทวนด้วยกันนะครับ... ขอให้เรา “รักในความจริง” (Caritas in Veritate) นะครับ และ “จริงใจใส่ซื่อสัตย์จริงในความรักนะครับ”
• พี่น้องทีรัก พ่อ...ขอพระเจ้าองค์ความจริงสอนเราให้เจริญชีวิตในความจริง ในความซื่อสัตย์ด้วยเทอญพระเจ้าเข้า.... พระวาจาจากพระวรสารนักบุญลูกาช่วงนี้บดขยี้และบาดลึก Cut to the heart ของพ่อเองจริงครับ ขอให้เราเปิดใจ ขอให้พ่อเปิดใจครับ อาแมน อาแมน อาแมน

(Credit : Facebook จาก คุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร)