มธ 11:25-27…
25เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ข้าแต่พระบิดา เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ข้าพเจ้าสรรเสริญพระองค์ที่ทรงปิดบังเรื่องเหล่านี้จากบรรดาผู้มีปรีชาและ รอบรู้ แต่ทรงเปิดเผยแก่บรรดาผู้ต่ำต้อย 26ถูกแล้ว พระบิดาเจ้าข้า พระองค์พอพระทัยเช่นนั้น 27พระบิดาทรงมอบทุกสิ่งแก่ข้าพเจ้า ไม่มีใครรู้จักพระบุตร นอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้จักพระบิดา นอกจากพระบุตรและผู้ที่พระบุตรเปิดเผยให้รู้
อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ไม่ยาวเลย เพียงสามข้อเท่านั้น พ่ออ่านซ้ำไปซ้ำมา พ่ออ่านและไตร่ตรอง ว่าถ้าพ่อพบพระวาจาวันนี้ และพ่อจะเทศน์อะไรดี พ่อจะนำเสนอการไตร่ตรองอะไรกับพระวาจาตอนนี้ดีหนอ... พ่ออ่านในบริบทแล้วพ่อเห็นว่า พระเจ้าทรงเมตตาเปิดเผยพระเจ้า เปิดเผยความรักของพระเจ้า “แก่บรรดาผู้ต่ำต้อย”
• พ่ออ่านมาถึงตอนนี้ พ่อดูหัวข้อในพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคาทอลิก พ่อก็เห็นเขียนไว้เป็นหัวข้อว่า “ผู้ต่ำต้อยได้รับข่าวดี” ผู้ที่ได้รับข่าวดีคือบรรดาผู้ต่ำต้อยนั่นเอง... พ่อมาถึงคำว่า ผู้ต่ำต้อย.. พ่อเห็นว่า เรื่องนี้สำคัญอย่างยิ่งที่พ่อจะไตร่ตรอง เพราะพระเยซูทรงเป็นเช่นนั้น พระองค์เป็นข่าวดีแท้จริงๆ และพระองค์คือต้นแบบของความ “ถ่อมตน ความต่ำต้อย” แท้จริง เพราะทรงเป็นพระเจ้า แต่ทรงสละความเป็นพระเจ้า และทรงสละความเป็นพระเจ้าแสนยิ่งใหญ่มารับสภาพมนุษย์ดุจเรา ทรงรักเรา เคียงบ่าเคียงไหล่กับเราในความเป็นมนุษย์ และในความยากจน ทรงรับสภาพดุจทาส เป็นมนุษย์ดุจเรา และทรงรับแม้ความตาย เป็น “ความตายบนไม้กางเขน” และบนกางเขน คือ “ต้นแบบชีวิตของเรา” ณ ที่นั่น บนกางเขน พระองค์ให้แบบฉบับแก่เรา แบบนี้ที่เราต่างมองดูพระองค์บนไม้กางเขน... ณ เขากัลวาริโอ จำได้ไหม ภาพที่ถ่ายทอดออกมาทางจินตนาการโดยศีลปิน ที่ทำให้เราเห็นว่า “ทุกคนต่างมองดูพระองค์บนไม้กางเขน” และพระวรสารบันทึกในพระวรสารนักบุญยอห์น บทที่ 19 ว่า “เขาได้มองดูผู้ที่เขาได้แทง”...
• ณ ที่นั่นบนไม้กางเขน พระเยซูเจ้าได้รับนามว่า “ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ หรือผู้ต่ำต้อยของพระยาห์เวห์” และบนไม้กางเขนนั้น พระองค์ โดยทางพระเยซูเจ้า พระองค์เปิดเผย ในความต่ำต้อย ณ ความตายของพระองค์ พระองค์เปิดเผย “ความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า” บนไม้กางเขนนั้น พระองค์ เปิดเผยความรักของพระเจ้า
• พ่อใช้จินตนาการของพ่อในการเทศน์วันนี้หน่อยครับ...
o พ่อเห็นภาพ ณ เวลานั้น ที่แม้บนไม้กางเขนที่ทรงยอมรับความต่ำต้อยมากๆ มากจริงๆ แต่ ณ เวลาที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ พระคัมภีร์บันทึกต้องตรงกันว่า “ทรงเอนพระเศียร สิ้นพระชนม”
o การที่ทรงเอนพระเศียร ก้มพระเศียรลงนั้น คือ การก้มลงที่แสนต่ำต้อยในความตายนี้... พระองค์เปิดเผยความรักสูงสุดของพระบิดาเจ้าครับ
o พ่อเห็นภาพสโลว์โมชั่นแบบนี้ว่าพระเศียรที่กำลังก้มลงอย่างเมื่อสิ้นพระชนม์ นั้น เป็นภาพสโลว์โมชั่นที่กำลังถ่ายทอดความรักที่สุด เปิดเผยความรักที่สุดที่พระเจ้าทรงรักเราเช่นนี้นั่นเอง... “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร” (เทียบ ยน 3:16)
o พี่น้องมองเห็นภาพนี้เหมือนพ่อไหม จงจ้องดูพระเยซูบนกางเขน และอ่านไตร่รองพระคัมภีร์ตอนนี้ดีๆ สิครับ... ทรงเอนพระเศียรลงมาและเทชีวิตให้หมดเลย... เทความรักของพระเจ้าพระบิดา คือ ในพระเยซูนั้น เทลงหมด ให้หมด ให้กับมนุษย์ทุกคนจริงๆ
• พ่อสรุปพระวาจาตอนนี้ว่า... จริงครับ แน่นอน พระเจ้าเปิดเผยความงดงามและความจริงนี้แก่บรรดาผู้ต่ำต้อย.. เพราะพระบุตรถ่อมพระองค์ลงมายังเราทุกคน เราจะเรียนรู้จักพระองค์ เราต้องถ่อมตน สุภาพ และต่ำต้อยลงไปเพื่อเรียนรู้จักความสุภาพและถ่อมตนของพระองค์
• จำเป็นมากสำหรับเราคริสตชน.. ความถ่อมตน น้อมจิตน้อมใจของเราเพื่อเรียนรู้จักความรักที่แท้จริงๆ ความรักทำให้คนเราพร้อมจะย่อตัวลงเสมอ เคยเห็นภาพการขอแต่งงานอยู่เนืองๆในละครไทยหรือหนั่งฝรั่งก็ตาม ชายชาตรีผู้เข็มแข็งเมื่อขอความรัก ล้วนมีกระบวนท่าเหมือนๆกันทั้งนั้น คือ จับมือผู้หญิงอย่าอ่อนโยน ย่อเข่าลงข้างหน้าของเธอ และเงยหน้ามองขึ้นไปที่ตาเธอ ที่กำลังก้มลง และก็ร้องขอ “แต่งงานกับผมนะครับ” (ดราม่าหน่อย) พ่อก็เห็นแบบนี้ทั้งนั้นเลย
o พี่น้องที่รักครับ พระเยซูเจ้าทรงรักเราที่สุด ทรงก้มเอนพระเศียร ก้มพระพักตร์ลงมาจากไม้กางเขนมาหาเรา ทรงเสด็จจากสวรรค์มาหาเรา รักเราถึงเพียงนี้ พ่อคิดว่า ถึงเวลาจริงๆ ที่เราจะเรียนรู้ความถ่อมตนเสมอ
o เราต้องย่อเข่าลงกับพื้น และลองแหงนหน้าขึ้นไปมองพระพักตร์ พระเนตรของพระองค์ และสารภาพรักกับพระองค์ จะรักแบบพระองค์สิครับ นี่คือข่าวดีที่สุดที่เราได้รับคือพระองค์ทรงรักเรา
• พ่อไม่ทราบว่าพี่น้องเคยรู้สึกเหมือนพ่อไหม... ในวัดของเราคาทอลิก ถ้าบนมักจะติดรูปพระเยซูบนกางเขน เป็นศูนย์กลางของชีวิตเรา พ่อเทศน์เสมอว่า ให้เราเมื่อเข้าโบสถ์ แหงนหน้ามองดูพระองค์ที่ก้มลงมาหาเรา ทรงรักเรา ทรงถ่อมพระองค์ลงมาเพื่อเราจริงๆ พ่ออยากให้เราวันนี้ นับจากนี้ เข้าวัดลองมองดู หรือมองดูกางเขนที่ติดไว้สูงให้เราได้แหงนหน้าขึ้นไปมองดู...
• ที่วัดพ่อ วัดเจ้าเจ็ด กางเขนสวยกว่าที่ไหนๆ สำหรับพ่อ กางเขนกลางของวัด ของศาลาสวดศพที่แสนสวยงามสว่างไสวกว่าที่ไหนๆ พ่อยืนยัน... เพราะศาลาสวดศพที่นี่สีสว่างมาก ไฟสว่าง จนลืมความโศกกลายเป็นความรุ่งโรจน์ของชีวิต พ่อเพิ่งผ่านงานศพบิดามาเดือนเศษ พ่อยืนยัน ไฟสว่าง สีสว่าง งานศพเต็มไปด้วยแสงสว่างแท้แห่งชีวิตจริงๆ พ่อขอบคุณพ่อเจ้าวัดที่สร้างไว้อย่างสวยงามและเต็มความหมาย
o กางเขนดั้งเดิมที่ปั้นโดยลูกวัด พี่พินิจญาติของพ่อ ต้นแบบกางเขนแห่งเจ้าเจ็ดก็อยู่ที่นั่น
o ยิ่งกว่านั้น รูปภาพบนผืนผ้าใบที่วาดรูปนักบุญยอห์นบับติสตาชี้บอกบรรดาศิษย์ให้เห็นพระ เยซูเจ้าผู้อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำจอร์แดนว่า “นี่คือลูกแกะของพระเจ้า ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก”... ภาพบนผ้าใบที่วาดมาตั้งแต่ปี 1964 กระมัง... วาดโดยญาติของพออีกคน พี่พิชัย ทั้งสองคนคือลูกของพี่ชายจาพ่อเอง...
• มีโอกาสไปเจ้าเจ็ดต้องไปชมภาพวาดนี้ และรูปปั้นพระเยซูที่ก้มพระพักตร์จากไม้กางเขนนี้ และจะรู้ว่า ศิลปะที่งดงาม สื่อคำสอนความถ่อมตนให้แก่เราได้อย่างมากมาย
• สรุป พี่น้องที่รัก ย่อเขาลงเสมอ และมองพระพักตร์ที่ก้มลงมาหาเรา และจงเรียนรู้ที่จะรับฟังพระวาจา คำสอน ความรักและความเมตตา อีกทั้งความอ่อนโยนเสมอนะครับ
o เฉพาะหนทางที่ คือ ทางพระเยซู เราจะได้เรียนรู้จักพระเจ้า “พระบิดา” “พระเจ้าองค์ความรักแท้จริง”
o เพราะพระเยซูเจ้าตรัส และพระคัมภีร์ยืนยัน... ไม่มีที่อื่นครับ นอกจากพระคัมภีร์ที่เราได้รู้จักคำว่า “พระบิดา” พระเยซูเจ้าตรัสวันนี้ว่า “พระบิดาทรงมอบทุกสิ่งแก่ข้าพเจ้า ไม่มีใครรู้จักพระบุตร นอกจากพระบิดา และไม่มีใครรู้จักพระบิดา นอกจากพระบุตรและผู้ที่พระบุตรเปิดเผยให้รู้”
o โลกใบนี้ได้รู้จักพระบิดา “พระเจ้าองค์ความรัก” เพราะพระบุตรคือพระเยซูทรงเปิดเผยให้เรารู้ครับ ได้โปรดอย่าหลง อย่าหลง อย่าหลง หรืออย่าโง่งมงายและคิดมโนเอาว่า เราสามารถจะรู้จักพระบิดา จะสามารถฟังเสียงพระบิดาได้โดยไม่ผ่านทางพระเยซู... เพราะเพียงคำว่า “พระบิดา” (Pater, Abba) ที่เรารู้จักและใช้กันอยู่นั้นๆ เราได้รับมาจากคำเรียกของพระเยซูครับ ไม่มีทางอื่นๆครับ
o ใครปฏิเสธพระเยซู ก็ปฏิเสธพระบิดาเจ้าแน่นอนครับ เพราะเป็นพระองค์ที่สอนเราให้รู้จักพระบิดา... ย่อเขาลง อ่อนน้อมต่อพระเยซู และเราจะเรียนรู้ปรีชาญาณแท้ครับ ยิ่งคุกเข่าลงต่อพระเยซูยิ่งจะได้รักพระเจ้าครับ เพราะพระองค์มากจากพระบิดา และย่อถ่อมพระองค์ลงมาหาเรา... ดูง่ายนิดเดียวครับ คนที่รักพระเจ้ามีพระบิดาเป็นความเชื่อย่อมสุภาพ ถ่อมตน อ่อนโยน และไม่เกรี้ยวกราดรุนแรงเลยครับ ย่อมเป็นเหมือนพระเยซูพระบุตรของพระองค์เสมอ
o ขอพระเจ้าอวยพรครับ