วันศุกร์ สัปดาห์ที่ 26 เทศกาลธรรมดา
พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 10:13-16)
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “วิบัติจงเกิดแก่เจ้า เมืองโคราซิน วิบัติจงเกิดแก่เจ้า เมืองเบธไซดา ถ้าอัศจรรย์ที่ได้เกิดขึ้นในเจ้าได้เกิดขึ้นที่เมืองไทระและเมืองไซดอนแล้ว เขาเหล่านั้นคงได้นุ่งกระสอบนั่งบนกองขี้เถ้ากลับใจเสียนานแล้ว ดังนั้น เมืองไทระและเมืองไซดอนจะรับโทษเบากว่าเจ้าในวันพิพากษา ส่วนเจ้า เมืองคาเปอรนาอุม เจ้าจะยกตนขึ้นถึงฟ้าเทียวหรือ เจ้าจะตกลงไปถึงแดนผู้ตาย
ผู้ใดฟังท่าน ผู้นั้นฟังเรา ผู้ใดสบประมาทท่าน ผู้นั้นสบประมาทเรา ผู้ที่สบประมาทเรา ก็สบประมาทผู้ที่ทรงส่งเรามา”
ลก 10:12-15 เมืองโซดม... เมืองโคราซิน... เมืองเบธไซดา... เมืองไทระ… เมืองไซดอน… เมืองคาเปอร์นาอุม : ทั้งเมืองโซดมและเมืองโกโมราถูกพระเจ้าทำลายเพราะการปฏิเสธกฎศีลธรรมอย่างหนัก เมืองโคราซินและเมืองเบธไซดาเป็นเมืองแถบชายฝั่งกาลิลีที่ไม่ยอมรับพระคริสตเจ้า อีกทั้งเป็นเมืองบ้านเกิดของเปโตร ยอห์น และอันดรูว์ เมืองไทระและไซดอนเป็นเมืองของคนต่างศาสนาทางเหนือซึ่งยังไม่ได้รับการประกาศพระวรสาร ส่วนเมืองคาเปอร์นาอุมเป็นเมืองที่พระเยซูเจ้าทรงดำรงชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม ชาวเมืองหลายคนที่นั่นก็ปฏิเสธพระองค์ ถึงแม้ว่าได้ยินคำเทศน์สอนและได้เห็นการเป็นพยานจากอัศจรรย์ของพระองค์ก็ตาม
ลก 10:16 ผู้ใดฟังท่าน… ผู้ที่ทรงส่งเรามา : การฟังและปฏิบัติพระวาจาของพระเจ้าทำให้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระประสงค์ของพระองค์ หนทางพิเศษที่ทำให้เรารับพระวาจาของพระเจ้าได้ดีกว่าคือการอ่านพระคัมภีร์ประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวชีวิตของพระคริสตเจ้าที่บันทึกอยู่ในพระวรสาร ศาสนบริกรของบรรดาอัครสาวกและผู้สืบตำแหน่งต่อจากพวกท่านคือ บิชอป เป็นตัวแทนที่สานต่อพันธกิจของพระคริสตเจ้าบนแผ่นดินนี้ ดังนี้เมื่อบรรดาผู้นำพระศาสนจักรประกาศพระวาจาของพระเจ้า บรรดาสัตบุรุษจึงมีหน้าที่รับฟังคำสอนและคำแนะนำของพวกท่าน
อำนาจสอนของพระศาสนจักร (Magisterium Ecclesiae)
CCC ข้อ 87 บรรดาผู้มีความเชื่อซึ่งระลึกถึงพระวาจาที่พระคริสตเจ้าตรัสกับบรรดาอัครสาวกว่า “ผู้ใดฟังท่าน ผู้นั้นฟังเรา” (ลก 10:16) ยอมรับคำสั่งสอนและกฎเกณฑ์ที่บรรดาผู้อภิบาลมอบให้เขาในรูปแบบต่างๆ อย่างว่านอนสอนง่าย
พระศาสนจักรสืบเนื่องมาจากบรรดาอัครสาวก
CCC ข้อ 857 พระศาสนจักรสืบเนื่องมาจากบรรดาอัครสาวกเพราะมีบรรดาอัครสาวกเป็นประดุจรากฐานในสามความหมายดังต่อไปนี้
- พระศาสนจักรได้สร้างขึ้นและยังคงสร้างอยู่เป็นอาคาร “โดยมีบรรดาอัครสาวกเป็นรากฐาน” (อฟ 2:20) บรรดาอัครสาวกเหล่านี้เป็นพยานที่พระคริสตเจ้าทรงเลือกและส่งออกไป
- พระศาสนจักรโดยความช่วยเหลือของพระจิตเจ้าผู้ประทับอยู่ในพระศาสนจักร เก็บรักษาคำสอน ซึ่งเป็นดังขุมทรัพย์ที่ถูกฝากไว้ เป็นถ้อยคำนำความรอดพ้นที่ได้ยินมาจากบรรดาอัครสาวกและส่งต่อไป
- พระศาสนจักรได้รับคำสั่งสอน ความศักดิ์สิทธิ์ และยังคงรับการนำต่อมาจากบรรดาอัครสาวกจนถึงการเสด็จกลับมาของพระคริสตเจ้าอาศัยความช่วยเหลือของผู้ที่รับหน้าที่อภิบาลต่อจากท่าน อาศัยความช่วยเหลือของคณะพระสังฆราช “ซึ่งมีบรรดาพระสงฆ์คอยช่วยเหลือ ร่วมกับผู้สืบตำแหน่งต่อจากนักบุญเปโตร ผู้อภิบาลสูงสุดของพระศาสนจักร”
“พระองค์คือพระผู้อภิบาลสถิตนิรันดร มิได้ทรงทอดทิ้งประชากรซึ่งเป็นเสมือนฝูงแกะของพระองค์ แต่ทรงแต่งตั้งบรรดาอัครสาวกให้ปกป้องรักษาไว้ตลอดมา ท่านเหล่านี้จึงปฏิบัติงานแทนองค์พระบุตร ปกครองดูแลปวงประชาของพระองค์สืบมาจนทุกวันนี้”
(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)