แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันจันทร์ สัปดาห์ที่ 17 เทศกาลธรรมดา

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น (ยน 11:19-27)                             

เวลานั้น ชาวยิวจำนวนมากมาหามารธาและมารีย์เพื่อปลอบใจนางในการตายของพี่ชาย เมื่อมารธารู้ว่าพระเยซูเจ้ากำลังเสด็จมา นางก็ออกไปรับเสด็จ ส่วนมารีย์ยังคงนั่งอยู่ที่บ้าน มารธาทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์ทรงอยู่ที่นี่ พี่ชายของดิฉันคงไม่ตาย แต่บัดนี้ดิฉันรู้ดีว่าสิ่งใดที่พระองค์ทรงวอนขอจากพระเจ้า พระเจ้าจะประทานให้” พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “พี่ชายของท่านจะกลับคืนชีพ” มารธาทูลว่า “ดิฉันรู้ว่าเขาจะกลับคืนชีพเมื่อมนุษย์ทุกคนจะกลับคืนชีพในวันสุดท้าย” พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต ใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้ว ก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิต และเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย ท่านเชื่อเช่นนี้หรือ” มารธาทูลตอบว่า “เชื่อ พระเจ้าข้า ดิฉันเชื่อว่าพระองค์เป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าที่จะต้องเสด็จมาในโลกนี้” 


ยน 11:21-22  ถึงแม้ว่ามารธามีความเชื่อ ความหวังในพระคริสตเจ้าและในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ที่จะทำให้ลาซารัสกลับฟื้นคืนชีพจากความตายอย่างเด่นชัดอยู่แล้ว เธอก็มิได้วอนขอให้พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ เพราะเธอน้อมรับพระประสงค์ของพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิตใจ   

ความหวัง

CCC ข้อ 1817 ความหวังเป็นคุณธรรมเกี่ยวกับพระเจ้าที่ช่วยให้เราใฝ่หาพระอาณาจักรสวรรค์และชีวิตนิรันดรเป็นความสุขของเรา โดยวางความมั่นใจของเราไว้กับพระสัญญาของพระคริสตเจ้า ไม่วางใจในกำลังของเรา แต่วางใจในความช่วยเหลือจากพระหรรษทานของพระจิตเจ้า “เราจงยึดมั่นโดยไม่หวั่นไหวในการประกาศความหวังที่เรามีอยู่ เพราะว่าพระองค์ผู้ประทานพระสัญญานั้นทรงซื่อสัตย์” (ฮบ 10:23) พระองค์ “ทรงหลั่งพระจิตเจ้าลงเหนือเราอย่างอุดมโดยทางพระเยซูคริสตเจ้าพระผู้ไถ่ของเรา เพื่อพระหรรษทานของพระองค์จะบันดาลให้เรากลับเป็นผู้ชอบธรรมและเป็นทายาทในความหวังว่าจะได้ชีวิตนิรันดร” (ทต 3:6-7)   

  CCC ข้อ 1818 คุณธรรมความหวังตอบสนองการแสวงหาความสุขที่พระเจ้าทรงวางไว้ในในของมนุษย์แต่ละคน รวบรวมการคาดหวังที่เป็นพลังบันดาลใจให้มนุษย์ประกอบกิจกรรมต่างๆ ชำระพลังบันดาลใจเหล่านี้ให้มุ่งหาอาณาจักรสวรรค์ ช่วยป้องกันไม่ให้หมดกำลังใจ คอยพยุงใจไว้ไม่ให้ท้อแท้ ช่วยเปิดใจให้กว้างมีความหวังว่าจะได้รับความสุขนิรันดร พลังผลักดันของความหวังช่วยปกป้องเราไว้จากความรักตนเอง (“ความเห็นแก่ตัว”) และนำเราให้แสวงหาความสุขที่มาจากความรัก 


ยน 11:24  ชาวยิวจำนวนมากในศตวรรษแรกรวมทั้งชาวฟาริสีด้วย ต่างก็เชื่อในเรื่องการกลับคืนชีพจากความตาย แต่ชาวสะดูสีเป็นกลุ่มชาวยิวที่ไม่เชื่อในเรื่องนี้  

พระเจ้าทรงค่อยๆ เปิดเผยเรื่องการกลับคืนชีพตามลำดับ

CCC ข้อ 993 ชาวฟารีสี และผู้ร่วมสมัยกับพระคริสตเจ้าจำนวนมาก รอคอยการกลับคืนชีพพระเยซูเจ้าทรงสอนเรื่องนี้อย่างแข็งขัน พระองค์ทรงตอบชาวสะดูสีที่ปฏิเสธเรื่องนี้ว่า “ท่านไม่เข้าใจพระคัมภีร์และไม่รู้จักพระอานุภาพของพระเจ้า” (มก 12:24) ความเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพตั้งอยู่บนความเชื่อในพระเจ้า “ผู้มิใช่พระเจ้าของผู้ตาย แต่เป็นพระเจ้าของผู้เป็น” (มก 12:27)  


ยน 11:25  เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต : นี่เป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการถึงพระเทวภาพของพระคริสตเจ้า ความหวังของเราต่อการกลับคืนชีพและชีวิตนิรันดรนั้นขึ้นอยู่กับการกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้าและการไถ่กู้ของพระองค์โดยสิ้นเชิง โดยอาศัยความตายและการกลับคืนชีพของพระองค์ ผู้มีความเชื่อจะได้กลับคืนชีพจากความตายและเข้าสู่ชีวิตนิรันดร   

พระเจ้าทรงค่อยๆ เปิดเผยเรื่องการกลับคืนชีพตามลำดับ

CCC ข้อ 994 ยิ่งกว่านั้น พระเยซูเจ้ายังทรงรวมความเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพไว้กับพระบุคคลของพระองค์เองด้วย “เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต” (ยน 11:25) พระเยซูเจ้าพระองค์เองจะทรงบันดาลให้ผู้ที่เชื่อในพระองค์กลับคืนชีพในวันสุดท้าย รวมทั้งผู้ที่กินพระกายและดื่มพระโลหิตด้วย พระองค์ประทานเครื่องหมายและประกันเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อทรงคืนชีวิตให้แก่ผู้ตายบางคน และดังนี้ก็ทรงแจ้งล่วงหน้าถึงการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ด้วยแม้ว่าการนี้จะอยู่ในอีกระดับหนึ่ง พระองค์ตรัสถึงเหตุการณ์พิเศษนี้เช่นเดียวกับเมื่อตรัสถึงเครื่องหมายของประกาศกโยนาห์ ถึงเครื่องหมายเรื่องพระวิหาร พระองค์ทรงแจ้งล่วงหน้าถึงการกลับคืนพระชนมชีพที่จะเกิดขึ้นในวันที่สามหลังจากที่จะทรงถูกประหารชีวิต   

(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)