แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

วันเสาร์ สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลพระคริสตสมภพ

พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 3:23, 31-34, 36, 38)                                                                 

เวลานั้น เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเริ่มเทศนาสั่งสอน ทรงมีพระชนมายุราวสามสิบพรรษา คนทั่วไปคิดว่าพระองค์ทรงเป็นบุตรของโยเซฟผู้เป็นบุตรของเฮลี... บุตรของเมเลอา บุตรของเมนนา บุตรของมัทตะธา บุตรของนาธัน บุตรของดาวิด บุตรของเจสซี บุตรของโอเบด บุตรของโบอาส บุตรของสาลา บุตรของนาโชน บุตรของอัมมีนาดับ บุตรของอัดมิน บุตรของอารนี บุตรของเฮสโรน บุตรของเปเรศ บุตรของยูดาห์... บุตรของไคนาน บุตรของอารฟาซัด บุตรของเชม บุตรของโนอาห์ บุตรของลาเมค... บุตรของเอโนส บุตรของเสท บุตรของอาดัม บุตรของพระเจ้า 


ลก 3:23-28  เช่นเดียวกับพระวรสารโดยนักบุญมัทธิว นักบุญลูกากล่าวถึงลำดับบรรพบุรุษของพระเยซูเจ้าโดยต้องการแสดงว่าพระองค์ทรงมาจากเชื้อสายของดาวิดและอับราฮัม อย่างไรก็ตาม ต่างกันตรงที่นักบุญมัทธิวเริ่มต้นบรรพบุรุษของพระองค์จากอับราฮัม ส่วนนักบุญลูกาเริ่มต้นจากอาดัมและไปสิ้นสุดที่การเป็นบุตรพระเจ้า ลำดับวงศ์ตระกูลนี้มีความโดดเด่นที่พบได้จากหนังสือต่างๆ ในพันธสัญญาเดิม นี่แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงเปิดเผยแผนการของพระองค์มาตลอดหลายยุคหลายสมัย  

พระคริสตเจ้า

CCC ข้อ 437  ทูตสวรรค์แจ้งข่าวการสมภพของพระเยซูเจ้าว่าเป็นการสมภพของพระเมสสิยาห์ที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้แก่อิสราเอล “วันนี้ในเมืองของกษัตริย์ดาวิด พระผู้ไถ่ประสูตรเพื่อท่านแล้ว พระองค์คือพระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า” (ลก 2:11) ตั้งแต่แรกแล้ว พระองค์ทรงเป็น “ผู้ที่พระบิดาทรงบันดาลให้ศักดิ์สิทธิ์และทรงส่งมาในโลก” (ยน 10:36) เป็น “ผู้ศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งปฏิสนธิในพระครรภ์พรหมจารีของพระนางมารีย์ พระเจ้าทรงเรียกโยเซฟให้มารับพระนางมารีย์ผู้ทรงครรภ์แล้วเป็นภรรยา เพราะ “เด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระจิตเจ้า” (มธ 1:20) เพื่อให้พระเยซูเจ้า “ที่ขานพระนามว่า ‘พระคริสตเจ้า’” จะได้เกิดจากภรรยาของโยเซฟ อยู่ในลำดับวงศ์ตระกูลพระเมสสิยาห์ของกษัตริย์ดาวิด (มธ 1:16)   


ลก 3:23  พระชนมายุราวสามสิบพรรษา : สำหรับชาวยิวถือว่า อายุสามสิบปีเป็นวัยแห่งวุฒิภาวะ ดังนั้นผู้หนึ่งที่ยังไม่ถึงอายุนี้จะไม่สามารถเป็นรับบีหรืออาจารย์ได้ นอกนั้นยังเชื่อกันอีกว่าดาวิดได้รับการอภิเษกเป็นกษัตริย์เมื่อมีพระชนมายุสามสิบพรรษาด้วย (เทียบ 2ซมอ 5:4)

พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง

CCC ข้อ 535 พระเยซูเจ้าทรงเริ่มพระชนมชีพเปิดเผยโดยทรงรับพิธีล้างจากยอห์นในแม่น้ำจอร์แดนยอห์น “เทศน์สอนเรื่องพิธีล้างซึ่งแสดงถึงการเป็นทุกข์กลับใจเพื่อจะได้รับการอภัยบาป” (ลก 3:3)คนบาปจำนวนมาก คนเก็บภาษีและทหารชาวฟาริสีและสะดูสีและหญิงโสเภณี พากันมารับพิธีล้างจากยอห์น “เวลานั้น พระเยซูเจ้าก็เสด็จมา” ด้วย ยอห์นรู้สึกลังเลใจ แต่พระเยซูเจ้าทรงยืนยันและรับพิธีล้าง แล้วพระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระเยซูเจ้าดุจนกพิราบ และมีเสียงจากสวรรค์กล่าวว่า “ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา” (มธ 3:13-17) เหตุการณ์นี้เป็นการแสดงองค์ของพระเยซูเจ้า (“Epiphania”) ว่าทรงเป็นพระเมสสิยาห์แห่งอิสราเอลและพระบุตรของพระเจ้า    


ลก 3:28  บุตรของพระเจ้า : การที่นักบุญลูกาเรียกอาดัมว่า “บุตรของพระเจ้า” นั้นมีนัยว่า พระคริสตเจ้าทรงเป็นอาดัมใหม่ผู้ทรงชดใช้ความผิดพลาดของมนุษย์และทรงไถ่กู้มนุษยชาติให้รอดพ้นจากบาป 

พระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระเจ้า

CCC ข้อ 441 “บุตรของพระเจ้า” ในพันธสัญญาเดิม เป็นตำแหน่งที่ให้แก่ทูตสวรรค์ แก่ประชากรที่ทรงเลือกสรร แก่บรรดาบุตรของอิสราเอล และกษัตริย์ของเขา คำว่า “บุตรของพระเจ้า” นี้จึงหมายถึง “การเป็นบุตรบุญธรรม” ที่พระเจ้าทรงตั้งไว้เป็นความสัมพันธ์พิเศษระหว่างพระองค์กับสิ่งสร้าง เมื่อ “พระเมสสิยาห์-กษัตริย์” ที่พระองค์ทรงสัญญาไว้ถูกเรียกว่า “บุตรของพระเจ้า” นามนี้จึงไม่จำเป็นต้องหมายความว่าผู้นี้ ตามความหมายตามตัวอักษรของคำ มีธรรมชาติเหนือมนุษย์ ประชาชนที่เรียกพระเยซูเจ้า “พระเมสสิยาห์ของอิสราเอล” ว่า “บุตรของพระเจ้า” จึงอาจไม่ต้องการบอกอะไรมากกว่านี้   

สรุป -  พระบุตรของพระเจ้า

CCC ข้อ 454 พระนาม “พระบุตรของพระเจ้า” หมายถึงความสัมพันธ์เฉพาะตั้งแต่นิรันดรของพระเยซู คริสตเจ้ากับพระเจ้าพระบิดาของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระบิดา และพระองค์ก็ทรงเป็นพระเจ้าด้วย ผู้ใดจะเป็นคริสตชนได้จำเป็นต้องเชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า

(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)