วันเสาร์ สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา
พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกา (ลก 16:9-15)
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์อีกว่า “เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงใช้เงินทองของโลกอธรรมนี้เพื่อสร้างมิตรให้ตนเอง เพื่อว่าเมื่อเงินทองนั้นหมดสิ้นแล้ว ท่านจะได้รับการต้อนรับสู่ที่พำนักนิรันดร ผู้ที่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่ด้วย ผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กน้อย ก็จะไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องใหญ่ด้วย เพราะฉะนั้น ถ้าท่านไม่ซื่อสัตย์ในเรื่องเงินทองของโลกอธรรมแล้ว ผู้ใดจะวางใจมอบสมบัติแท้จริงให้ท่านดูแลเล่า ถ้าท่านไม่ซื่อสัตย์ในการดูแลทรัพย์สมบัติของผู้อื่น ผู้ใดจะให้ทรัพย์สมบัติของท่านแก่ท่านไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะเกลียดชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง เขาจะจงรักภักดีต่อนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้” ชาวฟาริสีที่รักเงินทอง ได้ยินถ้อยคำทั้งหมดนี้ จึงหัวเราะเยาะพระองค์ พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายคิดว่าท่านเป็นผู้ชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์ แต่พระเจ้าทรงล่วงรู้ใจของท่าน สิ่งที่มนุษย์ยกย่อง เป็นสิ่งน่ารังเกียจเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า”
ลก 16:9-15 ในขณะที่ให้บทสอนเรื่องการไม่ยึดติดกับความร่ำรวยนั้น พระคริสตเจ้าทรงเน้นถึงความเร่งด่วนและการเตรียมพร้อมสำหรับการตอบรับเสียงเรียกของเจ้านายด้วย เราต้องให้พระเจ้าผู้ทรงเป็นนายของเราอยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งปวง แมมมอน (Mammon) : ในภาษาอาราเมอิกแปลว่า ความร่ำรวย ถ้าหากเราให้ความร่ำรวยมาเป็นความรักอันดับแรกแล้ว เราก็จะไม่สามารถมอบหัวใจของเราแด่พระเจ้าได้
การกราบไหว้รูปเคารพ
CCC ข้อ 2113 การกราบไหว้รูปเคารพไม่หมายถึงเพียงคารวกิจไม่ถูกต้องของคนต่างศาสนาเท่านั้น ยังคงเป็นการประจญความเชื่ออยู่ตลอดเวลา การกราบไหว้รูปเคารพนี้อยู่ที่การยกย่องสิ่งที่ไม่ใช่พระเจ้าขึ้นเป็นพระเจ้า การกราบไหว้รูปเคารพมีได้เสมอเมื่อมนุษย์เคารพนับถือสิ่งสร้างแทนที่พระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าหรือปีศาจ (เช่น การเคารพนับถือผีปีศาจ) อำนาจ ความสนุกสนาน เชื้อชาติ บรรพบุรุษ รัฐ เงินทอง ฯลฯ “ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้” (มธ 6:24) บรรดามรณสักขีจำนวนมากยอมสละชีวิตเพื่อจะไม่ต้องกราบไหว้ “สัตว์ร้าย” ไม่ยอมแม้กระทั่งการเสแสร้งประกอบพิธีเหล่านี้ การกราบไหว้รูปเคารพปฏิเสธไม่ยอมรับอำนาจปกครองหนึ่งเดียวของพระเจ้า ดังนั้นจึงเข้ากันไม่ได้กับความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้า
ลก 16:13 ในปัจจุบันพระวรสารข้อนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับบริบทของความยุติธรรมในสังคม ทั้งในด้านธุรกิจและด้านการปกครอง คือจะต้องไม่มุ่งหาความเป็นเลิศด้านผลกำไร ผลผลิต และการกินดีอยู่ดี เหนือความจำเป็นต่างๆ ศักดิ์ศรี และการพัฒนาความเป็นมนุษย์
คำสอนของพระศาสนจักรเรื่องสังคม
CCC ข้อ 2424 ทฤษฎีที่ใช้ผลกำไรเป็นตัวกำหนดเพียงอย่างเดียวและเป็นจุดหมายสุดท้ายของกิจกรรมทางเศรษฐกิจย่อมเป็นที่ยอมรับไม่ได้ทางศีลธรรม ความกระหายเงินทองอย่างไร้ระเบียบมีแต่จะก่อให้เกิดผลร้ายอยู่เสมอ ความกระหายนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุต่างๆ ของการต่อสู้กันที่ทำลายระเบียบของสังคม ระบอบการปกครองที่ถือว่า “สิทธิพื้นฐานของแต่ละบุคคลและหมู่คณะมีความสำคัญน้อยกว่าองค์กรจัดการการผลิตส่วนรวม” ย่อมขัดกับศักดิ์ศรีของมนุษย์ การกระทำทุกอย่างที่ทำให้บุคคลกลายเป็นเพียงเครื่องมือหากำไรเท่านั้น ทำให้มนุษย์กลายเป็นทาส นำไปสู่การบูชาเงินทองและช่วยให้ลัทธิอเทวนิยมเผยแพร่ยิ่งขึ้น “ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้” (มธ 6:24; ลก 16:13)
(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)