วันศุกร์ สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา
พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น (ยน 16:20-23)
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านจะร้องไห้คร่ำครวญ แต่โลกจะชื่นชมยินดี ท่านจะเศร้าโศก แต่ความเศร้าโศกของท่านจะเปลี่ยนเป็นความยินดี หญิงที่กำลังจะคลอดบุตรย่อมมีความทุกข์เพราะถึงเวลาของนางแล้ว แต่เมื่อได้คลอดบุตรแล้ว นางก็จำความทุกข์ไม่ได้อีกต่อไป เพราะความยินดีที่มนุษย์คนหนึ่งได้เกิดมาในโลก ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน บัดนี้ท่านมีความทุกข์ แต่เราจะเห็นท่านอีก และใจของท่านจะชื่นชมยินดี ไม่มีใครเอาความชื่นชมยินดีไปจากท่านได้ ในวันนั้นท่านทั้งหลายจะไม่ถามอะไรเราอีก เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านจะขอสิ่งใดจากพระบิดา พระองค์จะประทานให้กับท่านในนามของเรา"
ยน 16:16-33 เป็นอีกครั้งหนึ่งซึ่งพระคริสตเจ้าทรงกล่าวล่วงหน้าถึงพระทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ เหตุการณ์เหล่านี้จะส่งผลอย่างไรต่อบรรดาอัครสาวก พวกเขาจะพบกับความโศกเศร้าอย่างมากเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ แต่ความโศกเศร้านั้นจะกลับกลายเป็นความชื่นชมยินดีหลังจากที่พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพ ในทำนองเดียวกัน ความเจ็บปวดจากการถูกเบียดเบียนและการเป็นมรณะสักขีนั้นจะกลายเป็นเป็นความชื่นชมยินดีอาศัยพระคุณของพระจิตเจ้า ซึ่งเป็นผลฝ่ายจิตที่เกิดขึ้นและความรุ่งโรจน์ของนิมิตแห่งความปีติยินดี อีกไม่นาน : เราจะไม่ได้เห็นพระองค์อีกครั้งจนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมาในพระสิริรุ่งโรจน์ในวันสุดท้าย
จนกระทั่งทุกสิ่งถูกนำมาอยู่ใต้อำนาจของพระองค์
CCC ข้อ 672 ก่อนเสด็จสู่สวรรค์ พระคริสตเจ้าทรงยืนยันว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะทรงสถาปนาพระอาณาจักรรุ่งโรจน์ของพระเมสสิยาห์ที่อิสราเอลกำลังรอคอย พระอาณาจักรนี้จะต้องนำระเบียบความยุติธรรม ความรัก และสันติที่สมบูรณ์มาให้แก่มวลมนุษย์ตามที่บรรดาประกาศกเคยประกาศไว้ องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ตรัสไว้แล้วว่า เวลาปัจจุบันนี้เป็นช่วงเวลาของพระจิตเจ้าและการเป็นพยานยืนยัน แต่ก็ยังเป็นยุคแห่งความยากลำบากในปัจจุบัน ยุคแห่งความเลวร้ายที่จะไม่ยกเว้นแม้กับพระศาสนจักรและเป็นการเริ่มต้นการต่อสู้ของวาระสุดท้าย เป็นวาระแห่งการรอคอยและตื่นเฝ้าอีกด้วย
ยน 16:21 พระคริสตเจ้าทรงเปรียบเทียบการทรมานของพระองค์กับการเกิดของทารก เหตุว่าเป็นกระบวนการอันเจ็บปวด แต่ชีวิตใหม่ที่เกิดมานั้นก็นำความยินดีอย่างยิ่งใหญ่
มนุษย์เป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้า
CCC ข้อ 1708 พระคริสตเจ้าทรงรับทรมานช่วยเราให้รอดพ้นจากอำนาจของปีศาจและบาป พระองค์ทรงบำเพ็ญคุณธรรมให้เราได้รับชีวิตใหม่ในพระจิตเจ้า พระหรรษทานของพระองค์คืนสิ่งที่บาปได้ทำลายในเรากลับมาอีก
ยน 16:23-27 ท่านทั้งหลายจะไม่ถามอะไรเราอีก... พระองค์จะประทานให้กับท่าน : บางทีพระคริสตเจ้าอาจทรงอ้างอิงถึงความยินดีแบบสมบูรณ์แห่งสวรรค์ ที่ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีการวอนขออะไรอีก ตราบใดที่เรายังจาริกอยู่บนโลกนี้ เราก็ยังต้องพึ่งพาพลังของการอธิษฐานภาวนาอย่างไว้วางใจเพราะทำให้พระบิดาทรงทราบถึงความต้องการของเราโดยทางพระคริสตเจ้า
ชื่อนักบุญองค์อุปถัมภ์ของคริสตชน (Christian name)
CCC ข้อ 2157 คริสตชนมักเริ่มวันใหม่ เริ่มการอธิษฐานภาวนาและการทำกิจการงานของตนด้วยเครื่องหมายกางเขน “เดชะพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาเมน” ผู้ที่รับศีลล้างบาปแล้วย่อมถวายวันของตนแด่พระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าและอัญเชิญพระหรรษทานของพระผู้ไถ่ให้มาช่วยเขาในฐานะบุตรของพระบิดาให้ทำกิจการในพระจิตเจ้า เครื่องหมายกางเขนยังทำให้เรามีกำลังต่อสู้ในการประจญและความยากลำบากต่าง ๆ
พระเยซูเจ้าทรงสอนให้อธิษฐานภาวนา
CCC ข้อ 2615 ยิ่งกว่านั้น เมื่อการอธิษฐานภาวนาของเรารวมกับการอธิษฐานภาวนาของพระเยซูเจ้าแล้ว พระบิดายังประทาน “ผู้ช่วยเหลืออีกองค์หนึ่ง […] เพื่อจะอยู่กับท่านตลอดไป คือพระจิตแห่งความจริง” (ยน 14:16-17) มิติใหม่ประการนี้ของการอธิษฐานภาวนาและเงื่อนไขปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดคำปราศรัยอำลาของพระเยซูเจ้า ในพระจิตเจ้า การอธิษฐานภาวนาของคริสตชนเป็นความสัมพันธ์ความรักกับพระบิดา ไม่เพียงผ่านทางพระคริสตเจ้าเท่านั้น แต่ยังในพระองค์อีกด้วย “จนถึงบัดนี้ ท่านยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเราเลย จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ เพื่อความยินดีของท่านจะสมบูรณ์” (ยน 16:24)
“พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ”
CCC ข้อ 2815 คำวอนขอประการนี้ ซึ่งรวมคำวอนขอทุกข้อ พระเจ้าทรงฟังเหมือนกับเป็นการอธิษฐานภาวนาของพระคริสตเจ้า เช่นเดียวกับคำวอนขออีกหกข้อที่เหลือซึ่งตามมา การอธิษฐานภาวนาต่อพระบิดาของเราเป็นการอธิษฐานภาวนาของเรา ถ้าเราอธิษฐานในพระนามของพระเยซูเจ้า พระเยซูเจ้าทรงวอนขอในคำอธิษฐานมหาสมณะของพระองค์ว่า “ข้าแต่พระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดเฝ้ารักษาบรรดาผู้ที่ทรงมอบให้ข้าพเจ้าไว้ในพระนามของพระองค์” (ยน 17:11)
(จากหนังสือ THE DIDACHE BIBLE with commentaries based on the Catechism of the Catholic Church, Ignatius Bible Edition)