พระเยซูทรงมีชีวิตอยู่ท่ามกลางเรา
พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนชีพและทรงส่งพระจิตให้แก่เราเพื่อจะรวบรวมบุตรทั้งหลายของพระเจ้าที่กระจัดกระจายไปนั้นให้เข้าเป็นเป็นพวกเดียวกัน (ยอห์น 11:52) และพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพทรงสั่งไว้กับอัครสาวกอย่างนี้ว่า “ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติ ให้มาเป็นศิษย์ของเรา...เราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ” (มัทธิว 28:19,20) ในการเลี้ยงอาหารค่ำครั้งสุดท้าย พระเยซูทรงสวดภาวนาเพื่อการนี้ว่า “ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนามิใช่สำหรับคนเหล่านี้เท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่จะเชื่อในข้าพเจ้าผ่านทางวาจาของเขาด้วย ข้าแต่พระบิดา ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนาเพื่อให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันเช่นเดียวกับพระองค์ทรงอยู่ในข้าพเจ้า และข้าพเจ้าอยู่ในพระองค์ เพื่อให้เขาทั้งหลายอยู่ในพระองค์และในข้าพเจ้า โลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา พระสิริรุ่งโรจน์ที่พระองค์ประทานให้ข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าได้ให้กับเขา เพื่อให้เขาเป็นหนึ่งเดียวกัน ข้าพเจ้าอยู่ในเขาและพระองค์ทรงอยู่ในข้าพเจ้า เพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์และข้าพเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ข้าพเจ้าอยู่ในเขาและพระองค์ทรงอยู่ในข้าพเจ้า เพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ โลกจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา และพระองค์ทรงรักเขาเช่นเดียวกับที่ทรงรักข้าพเจ้า” (ยอห์น 17:20-23)
เมื่อพระเยซูตรัสว่า “ข้าพเจ้าอยู่ในเขา” พระองค์ทรงกลับคืนชีพและทรงมีชีวิตอยู่ท่ามกลางเราตามที่ตรัสไว้ โดยทรงเติมเราให้เต็มด้วยพระจิต และนี่แหละคือพระคุณอันไม่มีขีดจำกัดที่พระเจ้าประทานให้แก่ผู้คนในยุคพันธสัญญาใหม่ พระเยซูตรัสว่า “ผู้ใดรักเรา ผู้นั้นจะปฏิบัติตามวาจาของเรา พระบิดาของเราจะทรงรักเขา พระบิดาจะเสด็จพร้อมกับเรามาหาเขา จะทรงพำนักอยู่กับเขา” (ยอห์น 14:23) พระเจ้าประทานพระองค์เองแก่เรา เหนือสิ่งอื่นใดเราได้เป็นบุคคลในครอบครัวของพระองค์ เป็นบุตรของพระเจ้าพระบิดา เป็นพี่น้องกับพระเยซู เป็นอวัยวะในพระกายพระเยซู เป็นพระวิหารของพระจิต ชีวิตใหม่ที่มนุษย์ได้รับมาจากพระเยซู และจากการเสด็จมาประทับของพระจิต