แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

สหพันธ์นักบุญและพระมารดาผู้ทรงได้รับพระพร
santos    กิจการอัครสาวกและบทจดหมายในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ตามธรรมดากล่าวถึงบรรดาคริสตชนในฐานะ “นักบุญ”   ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ใช่เพราะคริสตชนเป็นคนดีสมบูรณ์แบบ แต่เป็นเพราะพระเจ้าทรงเรียกเราให้เข้าสู่ความศักดิ์สิทธิ์  นั่นคือคำว่า นักบุญ หมายถึง “ผู้ศักดิ์สิทธิ์” โดยการเริ่มต้นเข้าสู่ความศักดิ์สิทธิ์ในชีวิตขององค์พระเยซูเจ้าด้วยศีลล้างบาป  คริสตชนได้รับอาชีพหนึ่งที่พิเศษซึ่งคนทั่วไปไม่สามารถทำได้ นั่นคือการเป็นนักบุญโดยเลียนแบบองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

สหพันธ์นักบุญประกอบไปด้วยใครบ้าง?
(CCC 954-955; 962)
    สหพันธ์นักบุญ คือ ความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกันของผู้ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งประกอบด้วยบรรดาบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์(พระศาสนจักรที่จาริกแสวงบุญ)  บรรดาผู้ที่กำลังชำระตนให้บริสุทธิ์ในไฟชำระ(พระศาสนจักรที่กำลังทนทุกข์ทรมาน)  และบรรดาผู้มีบุญในสวรรค์(พระศาสนจักรที่อยู่ในความรุ่งโรจน์)
    คำว่า สหพันธ์นักบุญ เน้นย้ำว่าประชากรของพระเจ้า ซึ่งเป็นพระศาสนจักร คือชุมชนแห่งศีลมหาสนิท  พระศาสนจักรเป็นชุมชนของประชากรที่มามีส่วนร่วมกันอย่างแท้จริง โดยการรวมตัวกันรอบโต๊ะแห่งศีลมหาสนิทขององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฟื้นคืนชีพ และด้วยพลังของพระจิตเจ้า พระศาสนจักรจึงรวมกันเป็นกลุ่มประชากรที่มีความรักและความศักดิ์สิทธิ์ ในฐานะที่มีส่วนร่วมในของขวัญจากพระเจ้าผู้ทรงฟื้นคืนชีพ ซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งความศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง
อะไรเป็นพื้นฐานสำหรับความเชื่อในเรื่องสหพันธ์นักบุญ?
(CCC 958-959; 1475)
    คำสอนเรื่องสหพันธ์นักบุญเป็นผลมาจากความเชื่อของเราที่ว่าเราคริสตชนถูกรวมไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่นด้วยพระจิตของพระเยซูคริสต์  พันธนาการที่เป็นความรักรวมเราเป็นหนึ่ง   บรรดานักบุญที่ยังคงมีชีวิตอยู่ไว้วางใจในการภาวนาและการกระทำที่ชอบธรรมแท้จริงของพี่น้องชายหญิงคริสตชนซึ่งถูกรวมไว้ด้วยกันกับเราภายในความเป็นเพื่อนกับพระเจ้า  เรายังเชื่อถึงคุณค่าของคำภาวนาสำหรับบรรดาพี่น้องชายหญิงที่ล่วงลับไปแล้วและกำลังอยู่ในไฟชำระ  ท้ายที่สุดเราเชื่อว่าบรรดาวีรบุรุษคริสตชนผู้ซึ่งเราเรียกว่านักบุญในสวรรค์ให้ความสนใจพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างมาก
นักบุญคือใคร?
(CCC 828-957)
    นักบุญคือบุคคลผู้ดำเนินชีวิตอยู่ในฐานะที่ได้รับพระหรรษทาน  นักบุญเป็นแบบอย่างแก่คริสตชนในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์
    โดยการแนะนำของพระจิตเจ้า ในบางโอกาสพระศาสนจักรจะประกาศต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการว่าบุคคลผู้หนึ่งซึ่งได้ดำเนินชีวิตที่ดีและสิ้นชีวิตอย่างมีส่วนร่วมกับพระเยซูเจ้านั้นเป็นนักบุญ  นี่คือการประกาศแต่งตั้งนักบุญของพระศาสนจักร  กระบวนการที่นำไปสู่การลงบันทึกนามในสารบบนักบุญเกี่ยวพันกับการศึกษาชีวิตของบุคคลนั้นอย่างรอบคอบและพิจารณาเครื่องหมายจากพระเจ้า (ตามปกติหมายถึงอัศจรรย์ที่ถูกวอนขอให้เกิดขึ้นในนามของเขา) ที่แสดงว่าบุคคลนี้มีค่าเพียงพอแก่การเลียนแบบโดยพระศาสนจักรสากล
ทำไมเราจึงภาวนาต่อบรรดานักบุญ?
(CCC 955-957)
    การศรัทธาในบรรดานักบุญเป็นวิธีการแบบดั้งเดิมที่นำไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์  เราไม่ได้ภาวนาต่อนักบุญราวกับว่าพวกท่านเป็นพระเจ้า แต่เป็นการอ้อนวอนท่านเหล่านั้นให้ขอร้องพระบิดาในสวรรค์เพื่อเรา  พวกท่านกำลังดำรงอยู่กับพระเจ้าอย่างล้ำลึกแบบเป็นส่วนตัวด้วยความรัก  และได้พิสูจน์ความเป็นเพื่อนของพวกท่านแล้วด้วยความดีที่เกินธรรมดาของพวกท่านขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลก  เราภาวนาต่อบรรดานักบุญโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เรารู้สึกใกล้ชิดเป็นพิเศษให้เป็นเพื่อนกับเรา  เราขอบรรดาผู้ชอบธรรมเหล่านี้ให้นำคำวอนขอของเราเสนอต่อพระเป็นเจ้าแทนเรา
บทบาทของพระนางมารีย์ในพระศาสนจักรคืออะไร?
(CCC 964-968; 973)
    พระนางมารีย์ผู้มีความสำคัญที่สุดท่ามกลางนักบุญทั้งหลาย มีบทบาทพิเศษในเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การช่วยให้รอดพ้น  พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่บอกเราว่า พระนางได้รับเลือกโดยเฉพาะและถูกทำให้งดงามโดยพระเจ้าเพื่อสิทธิพิเศษหนึ่งเดียวที่เจาะจงสำหรับการเป็นพระมารดาของพระผู้ไถ่   ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงเริ่มงานศาสนบริการส่วนรวมของพระองค์ พระนางมารีย์ทรงรับรู้และให้ความช่วยเหลือพระองค์อย่างซื่อสัตย์  พระนางทรงยืนอยู่ที่เชิงกางเขนด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความกล้าหาญและความเศร้าโศกในขณะที่พระเยซูเจ้ากำลังสิ้นพระชนม์  สุดท้ายพระคัมภีร์บอกเราว่า หลังจากการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า พระนางมารีย์ทรงอยู่กับบรรดาอัครสาวก พร้อมกันภาวนาในห้องชั้นบน และรอคอยการเสด็จมาของพระจิตเจ้าด้วยความหวัง  พระศาสนจักรสอนว่าพระนางมารีย์คือนักบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดานักบุญของศาสนาคริสต์, เป็นแบบอย่างด้านความเชื่อคริสตชนที่ดีสุด, และเป็นศิษย์คนแรกของพระเยซูเจ้า
ชื่อเรียกพระนางมารีย์มีอะไรบ้าง?
(CCC 969)
    พระศาสนจักรแสดงความเคารพต่อพระนางมารีย์โดยการใช้ชื่อเรียกต่างๆ มากมาย อาทิเช่น ราชินีของเรา  พระมารดาของพระเจ้า  ราชินีผู้ปฏิสนธินิรมล  พระมารดาผู้ทรงได้รับพระพร  มารดาของพระศาสนจักร  พรหมจารีเสมอ  ราชินีแห่งสวรรค์และแผ่นดิน  ชื่อเรียกเหล่านี้แสดงให้เห็นสิ่งที่พระศาสนจักรเชื่อและสอนเกี่ยวกับพระนาง
การปฏิสนธินิรมลหมายถึงอะไร?
(CCC 490-493; 508; 722)
    พระศาสนจักรสอนว่า พระนางมารีย์ทรงครรภ์โดยปราศจากบาปกำเนิด นั่นหมายถึงตั้งแต่แรกที่พระนางมารีย์ทรงกำเนิดมา พระนางก็ได้รับพระหรรษทานอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งทำให้ไม่ต้องทุกข์ใจเพราะความเหินห่างจากพระเจ้าอันมีบาปกำเนิดเป็นต้นเหตุ  ด้วยเหตุที่พระนางมารีย์จะต้องมีบทบาทพิเศษในแผนการไถ่กู้ของพระเจ้า พระนางจึงถูกตกแต่งให้งดงามขึ้นด้วยการช่วยเหลือของพระเจ้านี้ที่เตรียมไว้สำหรับความตายและการกลับคืนชีพของบุตรของพระนางที่จะต้องเกิดขึ้น
พระศาสนจักรสอนเกี่ยวกับการเป็นพรหมจารีของพระนางมารีย์อย่างไร?
(CCC 484-489; 494; 496-499; 502-503;510; 723)
    ในบทข้าพเจ้าเชื่อของอัครสาวก เราประกาศว่าพระเยซูเจ้าทรงปฏิสนธิโดยพระจิตเจ้าและบังเกิดจากพระนางมารีย์พรหมจารี พระนางมารีย์ทรงตั้งครรภ์พระเยซูเจ้าโดยปราศจากบิดาที่เป็นมนุษย์ และตั้งแต่ศตวรรษแรกๆ พระศาสนจักรก็ได้สอนไว้ว่าพระนางยังคงเป็นพรหมจารีเสมอ
พระนางมารีย์เป็นพระมารดาของพระเจ้าและมารดาของพระศาสนจักรได้อย่างไร?
(CCC 495; 501; 509; 724-726; 963)
    ในการประชุมสภาสังคายนาที่เมืองเอเฟซัส ปีค.ศ.431 ปิตาจารย์ของพระศาสนจักรประกาศว่าพระนางมารีย์คือ พระมารดาของพระเจ้า (theotokos) ซึ่งหมายถึง ผู้ให้กำเนิดบุตรของพระเจ้า(bearer of God) โดยการเป็นมารดาของพระเยซูเจ้า พระนางมารีย์จึงเป็นพระมารดาของพระเจ้าอย่างแท้จริง เป็นการเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคริสตชนที่จะกล่าวถึงพระนางด้วยชื่อเรียกที่สูงส่ง  แต่พระนางมารีย์ก็เป็นมารดาของเราและมารดาของพระศาสนจักรด้วย องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์ให้พระศาสนจักรได้เรียนรู้ว่าพระเจ้าทรงกระทำต่อผู้ที่พระองค์ทรงรักอย่างไรโดยการมอบพระนางมารีย์ให้เป็นมารดาของเรา  พระศาสนจักรเองยังมีบทบาทหนึ่งที่เหมือนมารดา และสามารถเรียนรู้จากพระนางมารีย์ได้มากมาย เพราะทรงเป็นแบบอย่างที่ดีสุดด้านความเชื่อ, ความนบนอบ, ความซื่อสัตย์, ความเมตตากรุณาและการภาวนาอย่างจริงจัง  พระนางมารีย์เป็นแบบอย่างเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของคริสตชนและภาพแห่งความรักของพระเจ้าที่มีต่อประชากรของพระองค์
การรับเข้าสู่สวรรค์คืออะไร?
(CCC 966; 974)
    ในปีค.ศ. 1950 พระสันตะปาปาปีอุสที่ 12ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับข้อความเชื่อเรื่องการรับเข้าสู่สวรรค์ว่า “พระมารดาผู้บริสุทธิ์ยิ่งของพระเจ้า พระนางพรหมจารีมารีย์ ได้ทรงสิ้นพระชนม์จากโลกนี้และถูกรับไปสู่ความรุ่งโรจน์แห่งเมืองสวรรค์ทั้งร่างกายและวิญญาณ” ในการรับพระนางมารีย์เข้าสู่สวรรค์นั้น พระนางได้รับการดูแลไม่ให้เน่าเปื่อยหลังความตาย  พระนางมารีย์ผู้เป็นพระมารดาของพระผู้ไถ่ ได้มีส่วนร่วมแบบพิเศษในการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า
ทำไมคริสตชนคาทอลิกจึงให้ความเคารพเป็นพิเศษต่อพระนางมารีย์?
(CCC 970; 972; 975)
    ชาวคาทอลิกเคารพพระนางมารีย์เพราะพระนางเป็นพระมารดาของพระเจ้าและเป็นมารดาของพระศาสนจักร  การภาวนาและการให้ความเคารพต่อพระนางมารีย์ในรูปแบบพิเศษ ทำให้เราเกิดความรักและการเลียนแบบคุณธรรมของพระนางในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความรับผิดชอบต่อการกระทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าอย่างเต็มที่และความมั่นใจในงานของพระเจ้าด้วยการอุทิศตัวของพระนาง
    บางครั้งชาวคาทอลิกก็ถูกกล่าวหาว่าให้การบูชาพระนางมารีย์ราวกับว่าพระนางเป็นพระเจ้า  การศรัทธาอย่างถูกต้องต่อพระนางมารีย์เป็นการให้ความเคารพต่อพระนาง มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่เราจะทำการสักการะ เมื่อเราภาวนาต่อพระนางนั้น แท้จริงแล้วเรากำลังขอบคุณและสรรเสริญพระเจ้าสำหรับการให้พรแก่บุคคลหนึ่งในบรรดาพี่สาวน้องสาวของเรา
สายประคำคืออะไร?
(CCC 971; 2708)
    สายประคำคือการผสมผสานกันอย่างสมบูรณ์ที่สุดของการภาวนาด้วยวาจากับการรำพึง  การภาวนาด้วยวาจามุ่งไปที่การท่องบทวันทามารีย์10 ครั้ง ซึ่งก่อนการท่องบทวันทามารีย์จะเริ่มต้นด้วยบทข้าแต่พระบิดา และหลังบทวันทามารีย์จะจบด้วยบทพระสิริรุ่งโรจน์  ในระหว่างการท่องบทภาวนาด้วยเสียงเหล่านี้ เรารำพึงถึงเหตุการณ์หรือความล้ำลึกบางอย่างในชีวิตของพระเยซูเจ้าและพระนางมารีย์  การท่องบทวันทามารีย์ซ้ำๆ จะช่วยรักษาจิตใจเราให้พ้นจากสิ่งรบกวนขณะที่เรารำพึงเกี่ยวกับความล้ำลึกทั้งหลาย  ความล้ำลึกเหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทที่เปี่ยมด้วยความสุข  ประเภทที่ให้ความแจ่มแจ้ง  ประเภทที่น่าโศกเศร้า  และประเภทที่แสดงความรุ่งโรจน์