มหากางเขน
มนุษย์ คนบาป ได้ตรึงพระเยซูพระผู้ไถ่ไว้บนกางเขน เนื่องจากพระเยซูเจ้าทรงเป็นอาดัมองค์ใหม่และศีรษะของมนุษยชาติ พระองค์ทรงแบกบาปทั้งหมดของมนุษย์ เพื่อความรอดของพวกเขา ทรงแบกความทุกข์ของชาวโลก เพื่อวอนขอความปราณีจากพระบิดา
ทรงน้อมรับความตายของมนุษย์และของพระองค์ และทรงทำลายมันเสีย
ทรงรับเครื่องบูชาของมนุษย์ไว้กับเครื่องบูชาของพระองค์ และน้อมถวายพระบิดา
ทรงรักความรักของมนุษย์ไว้กับความรักของพระองค์ และน้อมถวายพระบิดา
พระองค์ทรงรักมนุษย์มากถึงขนาดสามารถอภัยให้แก่เพชฌฆาตของพระองค์ และทรงภาวนาขอพระบิดาให้ทรงอภัยแก่พวกเขาด้วย “เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร”(ลก 23:34)
สำหรับคนร้ายที่กลับใจ พระเยซูทรงสัญญาว่าเขาจะอยู่กับพระองค์ในสวรรค์
พระองค์ทรงให้พระมารดาของพระองค์ เป็นมารดาของมวลมนุษย์
ทรงมอบพระมารดาให้แก่มนุษย์ และพวกเขาก็รับใช้พระนางอย่างกับมารดาของตน
“เพราะเห็นแก่เรา พระเจ้าทรงทำให้พระองค์ผู้ไม่รู้จักบาปเป็นผู้รับบาป”
(2 คร 5:21)
พระเยซูเจ้าทรงสัมผัสความทุกข์ทรมานของคนบาป ผู้เชื่อว่าพระเจ้าทรงละทิ้งพวกเขาจนวาระสุดท้าย และเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างได้สำเร็จลงแล้ว พระเยซูทรงมอบชีวิตของพระองค์ในพระหัตถ์พระบิดาด้วยความไว้ใจและความรัก
อาศัยความรัก พระเยซูทรงทำลายความเกลียดชังและความตาย
พระองค์ทรงมอบชีวิตให้แก่เรา
หลังจากที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์แล้ว นายทหารที่เฝ้าดูพระศพบนกางเขนอยู่
ตลอดเวลา กล่าวว่า “ชายคนนี้เป็นบุตรของพระเจ้าแน่ทีเดียว” (มธ 27:54)
โปรดทรงพระเมตตาแก่เราเถิด พระเจ้าข้า ถึงแม้เราเป็นคนบาป
แต่พระองค์ทรงรักเราอย่างล้นเหลือ
มนุษย์ฆ่าพระเยซูอย่างไร?
พวกเขาตรึงพระเยซูไว้บนกางเขนเยี่ยงทาสคนหนึ่ง
พระเยซูทรงวอนขอพระบิดาเพื่อเพชฌฆาตอย่างไร?
พระองค์ตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า ขอโปรดอภัยโทษเขา
เพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร”
พระเยซูตรัสสัญญากับผู้ร้ายที่กลับใจว่าอย่างไร?
พระเยซูตรัสสัญญาว่า “วันนี้เจ้าจะอยู่กับเราในเมืองสวรรค์”
พระเยซูตรัสอะไรกับพระมารดาและนักบุญยอห์น?
พระองค์ตรัสกับพระมารดาว่า “แม่ นี่คือลูกของแม่”
และตรัสกับนักบุญยอห์นว่า “นี่คือแม่ของท่าน”
ความทุกข์ทรมานใจอันเป็นผลที่เกิดจากบาปของมนุษย์ทำให้พระเยซูตรัสว่าอย่างไร?
พระองค์ตรัสว่า “พระเจ้าของข้าพเจ้า ไฉนทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าเล่า”
พระองค์ตรัสอะไรก่อนสิ้นพระชนม์?
ก่อนสิ้นพระชนม์ พระเยซูตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้ามอบจิตของข้าพเจ้าไว้
ในพระหัตถ์ของพระองค์” แล้วพระองค์ยังตรัสอีกว่า “สำเร็จบริบูรณ์แล้ว”