ประวัติศาสตร์แห่งความรอด (History of Salvation)
ชาวคริสต์เชื่อว่า ศาสนาคริสต์ไม่ได้เริ่มที่การปรากฏมาของพระเยซู แต่เริ่มต้นจากความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์นับแต่การสร้างโลกแล้ว และจะไปจบสิ้นอย่างสมบูรณ์เมื่อโลกจะสิ้นไป เมื่อเกิด “ฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่” ขึ้นมา การปรากฏมาของพระเยซูเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์แห่งความรอดนี้ เพราะพระองค์ทรงทำให้ “พันธสัญญา” (Covenant) ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์สมบูรณ์ โดยทรงเปิดเผยสัจธรรมที่จะนำมนุษย์ไปสู่ความหลุดพ้นหรืออีกนัยหนึ่ง นำมนุษย์ไปหาพระเจ้า พันธสัญญานี้หมายถึง สัญญาระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ ซึ่งเริ่มกับมนุษย์คู่แรกและกับบุคคลสำคัญอีกหลายคน รวมทั้งกับชนชาติที่พระเจ้าทรงเลือกสรรคือชาติอิสราเอล พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงช่วยให้มนุษย์พ้นทุกข์และได้รับความรอดนิรันดรในที่สุดถ้าหากมนุษย์ซื่อสัตย์และปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์
นอกจากจะเป็น “คู่สัญญา” กันแล้ว พระเจ้ากับมนุษย์ก็เป็น “คู่สนทนา” กันในประวัติศาสตร์แห่งความรอดนี้ “ในอดีต พระเจ้าได้ตรัสแก่บรรพบุรุษของเราโดยทรงประกาศกหลายวาระและหลายวิธี ครั้นมาถึงสมัยนี้อันเป็นวาระสุดท้าย พระองค์ได้ตรัสแก่เราโดยทางพระบุตร” (ฮบ 1:1-2) ซึ่งหมายถึงพระเยซู นอกจากนี้พระเจ้ายัง “ตรัส” กับมนุษย์แต่ละคน ทรงเรียกให้มีส่วนร่วมแตกต่างกันไปในประวัติศาสตร์แห่งความรอดนี้
ด้วยความเชื่อดังกล่าว ชาวคริสต์จึงมองวิวัฒนาการของศาสนาคริสต์ในฐานะที่เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์แห่งความรอดซึ่งครอบคลุมไปถึงประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติทั้งหมดด้วย โดยถือว่า พระเจ้าเป็นผู้ให้กำเนิดแก่มนุษยชาติ และทรงเป็นจุดหมายสุดท้ายที่มนุษยชาติกำลังพัฒนาไปสู่ พระเจ้าตรัสกับคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่คริสต์ด้วยวิธีการต่างๆ มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดหรือลัทธิความเชื่อใดก็สามารถไปสู่ความหลุดพ้นได้เหมือนกัน
ที่มา : หนังสือศาสนาคริสต์