แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ความทรมานและความตาย
223

    พระเยซูจึงทรงเลี้ยงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายให้แก่อัครสาวก ระหว่างงานเลี้ยงพระองค์ทรงแสดงถึงการมีตัวตนอยู่อย่างแท้จริงของพระองค์ ด้วยพิธีกรรมแบบง่าย ๆ ทรงหยิบขนมปัง หักส่งให้เหล่าสาวก แล้วตรัสว่า “จงรับเถิด นี่เป็นกายของเรา” และในทำองเดียวกัน เมื่อการเลี้ยงอาหารค่ำเสร็จลง พระองค์ทรงหยิบถ้วยเหล้าองุ่นประทานแก่บรรดาศิษย์ตรัสว่า “จงรับไปดื่มให้ทั่วกันเถิด ด้วยว่านี่เป็นโลหิตของเราอันเป็นโลหิตแห่งพันธสัญญา” “จงทำอย่างนี้ให้เป็นที่ระลึกถึงเรา” (มัทธิว 26:26-30; มาระโก 14 : 22-24 ; ลูกา 22:17 – 20; 1โครินทร์ 11:24-25) พันธสัญญาใหม่ที่บรรดาประกาศกประกาศไว้ล่วงหน้า เกิดขึ้นและเป็นจริงแล้ว ณ เวลานั้น พระเยซูนั้นเองคือพันธสัญญาใหม่ สันติสุขและสามัคคีธรรมนิรันดรของพระเจ้ากับมนุษย์เกิดขึ้นโดยการเสียสละชีวิตของพระองค์ในคืนนั้นเองหลังจากงานเลี้ยงอาหารค่ำพระเยซูเสด็จไปสวนเกทเสมนีกับพวกอัครสาวก ณ ที่นั้นเมื่อความรู้สึกกลัวตายจู่โจมพระองค์ พระองค์ทรงกราบลงถึงดินและสวดภาวนาต่อพระเจ้าว่า “โอพระบิดา ของข้าพระองค์ ถ้าเป็นไปได้ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด แต่อย่างไรก็ดี อย่าให้เป็นไปตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์” (มัทธิว 26:39) แม้ว่าพระเยซูจะทรงผ่านประสบการณ์ทุกข์ยากทุกประการ อย่างที่มนุษย์จะพึงได้รับมาแล้วในชีวิตก็ตาม การตายอย่างทรมานยังคงเป็นสิ่งที่น่าสยดสยองที่สุด แต่ไม่ว่าจะแค่ไหนอย่างไร พระองค์ยังคงสวดภาวนาว่า “พระบิดาให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์”

    หลังจากสวดภาวนาเสร็จ ยูดาส อิสคาริโอท พาพวกทหารกับประชาชนมาจับ และผูกมือพระองค์พาไปสภา การพิจารณาคดีพระเยซูเป็นตัวอย่างให้เห็นถึงความอยุติธรม เพราะพวกผู้พิพากษาได้ตัดสินประหารชีวิตของพระองค์แล้วตั้งแต่ก่อนพิจารณาคดี (ยอห์น 11:50) แต่ในช่วงเวลาของการพิจารณาคดีอันอยุติธรรมนั้นยังมีช่วงเวลาประเสริฐอยู่ชั่วอึดใจหนึ่ง คือเมื่อมหาปุโรหิตคายาฟาส ผู้เป็นหัวหน้าผู้พิพากษาถามพระเยซูเจ้าว่า “ท่านเป็นพระคริสต์ พระบุตรของพระเจ้าหรือไม่” (มัทธิว 26: 63) พระเยซูผู้ทรงถูกประชาชนทอดทิ้ง ถูกทหารมัดและตบหน้า ทรงตอบผู้พิพากษาด้วยความสงบว่า “ท่านว่าถูกแล้ว และยิ่งกว่านั้นอีกเราบอกท่านทั้งหลายว่า ในเวลาเบื้องหน้านั้นท่านจะได้เห็นพระบุตรนั่งข้างขวาของผู้ทรงฤทธานุภาพ และเสด็จมาบนเมฆแห่งฟ้าสวรรค์” (มัทธิว 26:64) พระเยซูไม่เคยทรงประกาศชัดเจนและเปิดเผยอย่างนั้นมาก่อนจนถึงเวลานั้น พระองค์ไม่ทรงปรารถนาจะเสียชีวิตโดยปล่อยให้ผู้คนไม่รู้ความจริง หรือเข้าใจผิดเรื่องของพระองค์ ในขณะที่ “ถึงเวลา” ของพระองค์แล้ว เวลานี้เป็นเวลาที่ทรงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพระองค์เป็นผู้ใด อะไรคือภาระหน้าที่ของพระองค์ ดูเหมือนว่านี่แหละเป็นเหตุผลที่ทำให้พระเยซูถูกพิพากษาตัดสินว่า มีความผิด เพราะทันทีที่มหาปุโรหิตได้ยินถ้อยคำที่พระเยซูทรงประกาศ เขาก็ตะโกนสียงดังว่า “ท่านทั้งหลายก็ได้ยินเขาพูดหมิ่นประมาทพระเจ้าแล้ว ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร” (มัทธิว 26:65-66)
    นักโทษคนนี้ที่ไม่อาจปกป้องตนเองจากน้ำมือของพวกทหารยืนยันว่าเขาเป็นผู้ที่จะช่วยอิสราเอลให้เป็นอิสระ และทั้ง ๆ ที่เป็นมนุษย์ธรรมดา ๆ ก็ยังบังอาจประกาศตนเองเท่าเทียมพระเจ้า คำประกาศชัดเจนว่าตนเองนั่งอยู่ข้างขวาของพระเจ้าถือเป็นเรื่องเหลวไหลและหมิ่นประมาทพระเจ้า พวกผู้พิพากษาทั้งปวงพากันโกรธแค้นและร้องตะโกนว่า “ควรปรับโทษถึงตาย” (มัทธิว 26:66) ในสมัยนั้นเจ้าเมืองโรมันมีสิทธิอำนาจพิพากษาตัดสินประหารชีวิตในกรุงเยรูซาเล็ม บรรดาสมาชิกสภาจึงพาพระเยซูไปหาปิลาตเจ้าเมือง เพื่อให้เขาพิพากษาประหารพระองค์เสีย  โดยมีข้อกล่าวหาที่ปราศจากหลักฐานว่า พระองค์ทรงเป็นอาชญากรการเมืองผู้ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายปั่นป่วน (ลูกา 23:2) ตอนแรกปิลาตเห็นว่าพระเยซูไม่ทรงมีความผิดอะไร พระองค์ลังเลใจไม่อยากประกาศพิพากษาพระองค์ แต่การปฏิเสธคำเรียกร้องของบรรดาปุโรหิตไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดต่อเขาในทางการเมือง ปิลาตจึงตัดสินใจประกาศไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการพิพากษาและมอบพระเยซูให้แก่พวกเขา ซึ่งได้นำพระองค์ไปตรึงที่กางเขน พวกทหารพากันถ่มน้ำลายรดพระองค์ เอาไม้อ้อตีพระเศียร และหลังจากเฆี่ยนตีพระองค์แล้วก็พาไปตรึงกางเขนที่กลโกธา พระเยซูทรงรับทุกข์ทรมานบนกางเขนประมาณ 3 ชั่วโมง เวลานั้นดูเหมือนว่าคนชั่วร้ายทั้งมวลในโลกนี้ตกอยู่กับพระองค์ ทรงทำพระราชภารกิจสำเร็จตามพระราชประสงค์ของพระเจ้าพระบิดาผู้ทรงใช้พระองค์มา แต่เมื่อทรงถูกตรึงกางเขนพระเจ้าไม่ได้ทรงช่วยพระองค์ให้ปราศจากจากความทุกข์ทรมานแต่อย่างใด นอกจากทรงแบกรับความทุกข์ทรมานทางฝ่ายร่างกายแล้ว จิตใจก็ทรงเจ็บปวดด้วยเช่นกัน ทรงรู้สึกว่าพระเจ้าทรงทอดทิ้งพระองค์ ซึ่งถือว่าเป็นการเผชิญการทดลองที่น่ากลัวน่าสยดสยองที่สุด ตลอดเวลาที่ผ่านมาพระเยซูทรงสั่งสอนผู้คนว่า จงรักศัตรูของท่านถ้าอย่างนั้นเมื่อพวกเขาประหารพระองค์ด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมที่สุด หนำซ้ำยังหัวเราะเยาะพระองค์เมื่อทรงต้องทรงทุกข์ทรมาน ถึงขนาดนี้แล้วพระองค์ยังทรงรักพวกเขาอยู่ได้หรือเปล่า และสำหรับคำสั่งสอนของพระองค์ที่ว่า จงไว้ใจพระเจ้าโดยไม่มีขีดจำกัดล่ะ ทั้ง ๆ ที่พระองค์เองถวายชีวิตแด่พระเจ้าพระบิดา เพื่อให้สำเร็จตามพระประสงค์ ทั้ง ๆ ที่พระบิดาทรงมองเห็นว่าพระองค์จะถูกประหาร ทำไมพระบิดาจึงไม่ทรงช่วยพระองค์ พระเจ้าองค์นี้จะยังสมควรเป็นผู้ที่พระเยซูมอบความไว้วางใจให้อีกหรือ
    การทดสอบทั้งสองประการที่ว่า พระเยซูจะยังทรงรักศัตรู และทรงไว้วางใจพระเจ้าอยู่ได้หรือไม่นั้น เป็นการทดสอบในวาระสุดท้ายของชีวิตพระองค์
    พระเยซูทรงมีท่าทีสนองตอบการทดสอบสองอย่างนี้อย่างไรหรือพระองค์ตรัสว่า “พระบิดาเจ้าข้า ขอโปรดอภัยโทษเขา เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไร” (ลูกา 23:34) นี่คือข้อความแรกที่พระเยซูตรัสขณะถูกตรึงกางเขน เป็นท่าทีของพระองค์ทรงมีต่อการทดสอบประการแรก ทั้งๆที่พวกเขาตรึงพระองค์ พระองค์ก็ยังทรงรักพวกเขาทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพวกผู้พิพากษา เพชรฆาต หรือศิษย์ผู้ที่ละทิ้งพระองค์ตลอดจนคนอื่นๆ เหล่านั้น จนถึงวาระสุดท้าย พระเยซูเคยตรัสสอนว่า “ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหาย” (ยอห์น 15:13) และตอนนี้พระองค์กำลังสละชีวิตของพระองค์เองเพื่อทุกคน สำหรับพระเยซูทุกคนเป็นมิตรสหาย ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะทรยศ เกลียดชัง ละทิ้งและฆ่าพระองค์
    ข้อความสุดท้ายที่พระเยซูตรัสบนกางเขน คือคำอ้อนวอนแด่พระเจ้า ผู้ที่ดูเหมือนว่ากำลังทรงละทิ้งพระองค์ไป “พระบิดาเจ้าข้า ข้าพระองค์ฝากวิญญาณจิตของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์” (ลูกา 23:46) นี่เป็นท่าทีสนองตอบต่อการทดสอบประการที่สองของพระเยซู พระองค์สิ้นพระชนม์ไปพร้อมกับความไว้วางใจและความเชื่อฟังที่เต็มล้นบริบูรณ์ ชีวิตของพระเยซูคือบทเพลงสวดสรรเสริญความรักที่ทรงมอบถวายแด่พระเจ้าและแก่ทุกคน การสิ้นพระชนม์ของพระองค์ คือที่สุดของความรักที่พระองค์ทรงมีต่อพระเจ้าและมนุษย์ทุกคน ความตายของพระองค์นี่แหละที่แสดงให้เราเห็นถึงความรักอันสมบูรณ์แบบของพระเจ้า
    ช่วงเวลาที่พระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนทำให้เราเข้าใจว่าพระบุตรของพระเจ้าทรงมีพระลักษณะอย่างไร ทรงยอมเสียสละพระองค์เองด้วยความรัก และภายหลังทรงได้รับทั้งสิ้นเหล่านี้คืนจากพระบิดา
    นายร้อยผู้ยืนอยู่ตรงพระพักตร์พระองค์ในวาระสุดท้ายมองเห็นสิ่งเหล่านี้ เขาบอกว่า “แท้จริงท่านผู้นี้เป็นพระบุตรของพระเจ้า” (มาระโก 15:34) ตรงข้ามกับบรรดาศิษย์ของพระองค์ที่เห็นว่าการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เป็นเรื่องน่าอับอายและเป็นความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง พวกเขาเห็นว่านอกจากไม่สามารถช่วยพระองค์เองได้แล้ว  แม้แต่พระเจ้าก็ยังทรงไม่ช่วยพระเยซูด้วย เพราะฉะนั้นการที่พวกเขาเคยคิดว่า พระเยซูทรงเป็นพระผู้ช่วยของทุกคนนั้นเป็นความเข้าใจผิดอย่างมหาศาล และเมื่อความคิดเช่นนี้ครอบงำจิตใจ พวกศิษย์ก็เกิดความเกรงกลัวภัยอันตรายจากชาวยิว พวกเขาพากันหนีกระจัดกระจายไป บ้างก็ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านด้วยความหวาดกลัว ดูเหมือนพวกเขากำลังเข้าใจว่าการที่พระเยซูทรงยอมถูกกระทำทุกอย่างด้วยความรักนั้น เป็นความพ่ายแพ้

สื่อการสอน เกมคำสอน เกมพระคัมภีร์ ออนไลน์

สื่อคำสอน เมื่อจะไปรับศีลอภัยบาป
สื่อคำสอน เมื่อจะไปรับศีลอภัยบาป
แผนภูมิความรู้ เมื่อจะไปรับศีลอภัยบาป 5 ขั้นตอนของการรับศีลอภัยบาป มีดังนี้ 1. ภาวนา เพื่อจะได้เตรียมตัวรับศีลอภัยบาปอย่างดี และมีความเป็นทุกข์ถึงบาปอย่างจริงใจ 2. พิจารณาบาป ทบทวนถึงบาปที่ได้กระทําผิดต่อพระเจ้า ต่อเพื่อนพี่น้อง และต่อตนเอง 3. เป็นทุกข์ถึงบาป การสํานึกผิดและการเสียใจที่ได้ทําบาป เป็นเงื่อนไขที่สําคัญที่สุดเพื่อจะได้รับการอภัยบาป 4. ไปสารภาพบาป...
สื่อการสอน คุณค่าพระวรสาร 21 ประการ
สื่อการสอน คุณค่าพระวรสาร 21 ประการ
คุณค่าพระวรสาร 21 ประการ สำหรับอัตลักษณ์การศึกษาคาทอลิก คุณค่าพระวรสาร คือ คุณค่าที่พระเยซูเจ้าสั่งสอน และเจริญชีวิตเป็นแบบอย่างแก่บรรดาสานุศิษย์และประชาชน ดังที่มีบันทึกในพระคัมภีร์ มีชื่อเรียกว่า “พระวรสาร” ซึ่งแปลว่า“ข่าวดี” คำว่า “ข่าวดี” หมายถึง ข่าวดีแห่งความรอดพ้นของมนุษย์จากทุกข์ (อิสยาห์ 61:1) (ลูกา 4:16-18)...
สื่อคำสอน เรื่องปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025
สื่อคำสอน เรื่องปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025
ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงออกประกาศสมณโองการกําหนดให้ปี ค.ศ. 2025 เป็นปีศักดิ์สิทธิ์ (Jubilee Year) “ความหวังนี้ไม่ทําให้เราผิดหวัง” (รม. 5:5) โดยให้ “ความหวัง” เป็นหัวใจสําคัญของการเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 (24 ธันวาคม 2024...

รำพึงพระวาจาประจำวัน

วันพุธ สัปดาห์ที่ 10 เทศกาลธรรมดา บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 10:7-13) เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาอัครสาวกว่า “จงไปประกาศว่า อาณาจักรสวรรค์ใกล้เข้ามาแล้ว จงรักษาคนเจ็บไข้ จงปลุกคนตายให้กลับคืนชีพ จงรักษาคนโรคเรื้อนให้สะอาด จงขับไล่ปีศาจให้ออกไป ท่านได้รับมาโดยไม่เสียค่าตอบแทน ก็จงให้เขาโดยไม่รับค่าตอบแทนด้วย อย่าหาเหรียญทอง เหรียญเงินหรือเหรียญทองแดงใส่ในไถ้...
วันอังคาร สัปดาห์ที่ 10 เทศกาลธรรมดา บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 5:13-16) เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ท่านทั้งหลายเป็นเกลือดองแผ่นดิน ถ้าเกลือจืดไปแล้ว จะเอาอะไรมาทำให้เค็มอีกเล่า เกลือนั้นย่อมไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากจะถูกทิ้งให้คนเหยียบย่ำ ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างส่องโลก เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะไม่ถูกปิดบัง ไม่มีใครจุดตะเกียงแล้วเอามาวางไว้ใต้ถัง แต่ย่อมตั้งไว้บนเชิงตะเกียง จะได้ส่องสว่างแก่ทุกคนในบ้าน...

ประชาสัมพันธ์

ประมวลภาพกิจกรรม

ชุมนุมฟ้ื้นฟูจิตใจคริสตชน 2025
ชุมนุมฟ้ื้นฟูจิตใจคริสตชน 2025
🕊 ชุมนุมฟ้ื้นฟูจิตใจคริสตชน 2025 🕊 พิธีรับผู้ใหญ่เข้าเป็นคริสตชน เสนอให้มีงานฉลอง เพื่อแสดงการสิ้นสุดการสอนคำสอนแก่ คริสตชนใหม่ ในวันอาทิตย์สมโภชพระจิตเจ้า (RCIA 237) และเป็นโอกาสให้ผู้รับ ศีลล้างบาปปีก่อนหน้า มาชุมนุมกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อขอบคุณพระเจ้า แบ่งปันประสบการณ์ และรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลล้างบาป (RCIA 238) อีกทั้งบรรดาครูคำสอน...
คุณพ่อ Marcus Holden และคณะเซอร์ เยี่ยมเยียนแผนกฯ
คุณพ่อ Marcus Holden และคณะเซอร์ เยี่ยมเยียนแผนกฯ
"ยินดีต้อนรับ" วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2025 แผนกคริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้เปิดออฟฟิศต้อนรับ คุณพ่อ Marcus Holden และคณะเซอร์ ที่ได้มาเยี่ยมเยียนแผนกฯ คุณพ่อ Marcus Holden ทำงานอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และช่วงนี้ท่านได้มาที่ประเทศไทย คณะเซอร์จึงได้พาคุณพ่อมาเยี่ยมและดูงานที่แผนกคำสอน โดยมีคุณพ่อทัศมะ กิจประยูร...

คำสอนสำหรับเยาวชน YOUCAT

331. แต่ทำไมจึงมีความอยุติธรรมในท่ามกลางมนุษย์ มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีเดียวกัน แต่มิใช่ทุกคนพบกับสภาพความเป็นอยู่แบบเดียวกัน ในกรณีที่ซึ่งความอยุติธรรมเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เป็นการขัดแย้งกับพระวรสาร ในกรณีที่ซึ่งมนุษย์ได้รับมอบพระพรและความสามารถต่างๆจากพระเจ้า พระเจ้าทรงขอให้เราพึ่งพาผู้อื่นในความรักเมตตา คนจำนวนหนึ่งต้องกระทำในสิ่งที่ผู้อื่นขาดแคลน (1936-1938,...
330. มนุษย์เท่าเทียมกันในสายพระเนตรของพระเจ้าในขอบเขตใด มนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกันในสายพระเนตรของพระเจ้าตราบเท่าที่ทุกคนมีพระผู้สร้างองค์เดียวกัน ทุกคนถูกสร้างมาในภาพลักษณ์ของพระเจ้าเดียวกัน พร้อมกันวิญญาณที่มีเหตุผลและทุกคนมีพระผู้ไถ่กู้พระองค์เดียวกัน (1934-1935, 1945) เพราะมนุษย์ทุกคนเท่าเทียมกันในสายพระเนตรของพระเจ้า ทุกบุคคลมีศักดิ์ศรีเดียวกัน และทุกคนเรียกร้องสิทธิมนุษย์เดียวกัน...

กิจกรรมพระคัมภีร์

คำถามที่เด็กๆ อยากรู้เกี่ยวกับพระเจ้า

พระศาสนจักร – พระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้า
CCC for Kids (คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกสำหรับเด็ก) # วันที่ 94 # II. พระศาสนจักร – พระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้า (787-796) พระเยซูเจ้าทรงรักพวกเราทุกคนมาก พระองค์จึงเชิญให้เราเข้ามาอยู่ใกล้ชิดกับพระองค์...
พระศาสนจักร-ประชากรของพระเจ้า
CCC for Kids (คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกสำหรับเด็ก) # วันที่ 93 # วรรค 2 พระศาสนจักร-ประชากรของพระเจ้า พระวรกายของพระคริสตเจ้า พระวิหารของพระจิตเจ้า I. พระศาสนจักร...

ประวัตินักบุญ

13 มิถุนายน ระลึกถึง นักบุญอันตน แห่งปาดัว
13 มิถุนายน ระลึกถึง นักบุญอันตน แห่งปาดัว พระสงฆ์ นักปราชญ์ (St. Anthony of Padua, Priest & Doctor, memorial) นักบุญอันตนเกิดที่กรุงลิสบอน...
1 มิถุนายน ระลึกถึงนักบุญยุสติน มรณสักขี
วันที่ 1 มิถุนายน ระลึกถึงนักบุญยุสติน มรณสักขี (St. Justin, Martyr, memorial) นักบุญยุสตินเกิดที่ฟลาวีอา เนอาโปลิส (Flavia Neapolis) ปัจจุบันคือเมือง Nablus ในแคว้นสะมาเรีย...

E-Book แผนกคริสตศาสนธรรม อัคสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

Don't be afraid

Facebook CCBKK

CCBKK Channel

youtube1

Kamson TikTok

tiktok

พระคัมภีร์คาทอลิก

WOPTMR80W7YC0H90QTK7LZC1E1L2WM

บทเพลงศักดิ์สิทธิ์

angels-5b

บทอ่านและบทมิสซา

ordomissae

วันละหนึ่งนาทีกับนักบุญโยเซฟ

St.Joseph 2021

คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก

ccc thai web

คู่มือแนะแนวในการสอนคำสอน

ปก คู่มือแนะแนว

คู่มือเตรียมรับศีลมหาสนิท แบบที่ 1-2

ปก แบบที่ 2 01

ครอบครัว บ่อเกิดแห่งความเชื่อ

F cover fmaily

สถิติเยี่ยมชม (22-2-2012)

วันนี้
เมื่อวานนี้
สัปดาห์นี้
เดือนนี้
เดือนที่แล้ว
ทั้งหมด
29585
32497
81345
389838
867929
43710081
Your IP: 216.73.216.79
2025-06-10 21:19

สถานะการเยี่ยมชม

มี 563 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์