แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

ผู้หว่าน

พระคัมภีร์    มัทธิว 13:3-9; มาระโก 4:2-9, 14-20; ลูกา 8:4-8, 11-15

คำแนะนำสำหรับผู้นำ
ผู้แสดง   
1.    พระเยซูเจ้า
2.    ชาวนา
3.    เมล็ดที่ตกบนทางเดิน 2 คน
4.    เมล็ดที่ตกบนพื้นหิน 2 คน
5.    เมล็ดที่ตกในพงหนาม 2 คน
6.    เมล็ดที่ตกในที่ดินดี 3 คน
7.    นก 2 ตัว
8.    หนาม 2 อัน
9.    ดวงอาทิตย์
10.    ฝูงชน    

อุปกรณ์ในการแสดง
1.    ไฟส่องเพื่อทำเป็นดวงอาทิตย์
2.    ตะกร้า
3.    ฝักข้าวโพดที่ทำด้วยกระดาษ 19 อัน

ใจความสำคัญ
    การฟังพระวาจาของพระเจ้า

คำอธิบาย
    การเสด็จไปยังเมืองกาลิลี ซึ่งเป็นสังคมที่ทำเกษตรกรรม พระเยซูเจ้าทรงพบว่าผู้หว่านและเมล็ดนั้นเป็นธรรมชาติที่เป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้าและพระวาจาของพระองค์ ในสมัยนั้น ชาวนาเพาะปลูกโดยการหว่านเมล็ดพืชจำนวนมากลงบนพื้นแล้วจึงไถ มีทางเดินเท้าผ่านรอบทุ่งนา และบางแห่งมีแผ่นหินปูไว้ข้างบน โชคชะตาของเมล็ดที่ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน สอดคล้องกับโชคชะตาของพระวาจาของพระเจ้าในชีวิตของมนุษย์ ในบางคน พระวาจาของพระเจ้าไม่มีโอกาสได้เข้าไปในชีวิตของเขาเพราะถูกทำลายไปในทันที ในหัวใจของบางคนไม่เกิดรากและเหี่ยวแห้งไปเมื่อถูกท้าทายในครั้งแรก ในบางครั้งพระวาจาถูกปิดกั้นโดยการเอาใจใส่ดูแลชีวิต กิจกรรมต่างๆ และความสนุกสนานเพลิดเพลิน แต่บางคนเหมือนกับดินดี ซึ่งเมล็ดแห่งพระวาจาเกิดผลมากมาย ในอุปมานี้ เมล็ดส่วนมากเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่เมล็ดที่เติบโตให้ผลผลิตอย่างมากมาย การปกครองของพระเจ้า มีอำนาจทั้งที่เป็นอุปสรรคด้วย
ลักษณะเด่นเพื่ออภิปราย
    พระวาจาของพระเจ้าที่ตกลงในหัวใจแบบต่างๆ
    เรารับพระวาจาของพระเจ้าจากไหน
    ทำอย่างไรเพื่อให้ตัวเราเป็นดินดี
    พระวาจาของพระเจ้าที่เราควรนำมาไว้ในหัวใจ
    การเก็บเกี่ยวคืออะไร
    ทำไมพระวาจาของพระเจ้าจึงถูกปฏิเสธในปัจจุบัน

-------------------------------------------------
(พระเยซูเจ้าและฝูงชนออกมาจากด้านหนึ่ง วางหนามไว้ที่หนึ่ง เมล็ดที่ตกในดินดีทั้งสามคนยืนอยู่อีกด้านหนึ่งที่ไม่ใช่ตรงกลาง พร้อมกับฝักข้าวโพดของแต่ละคน 3 ฝัก 6 ฝัก และ 10 ฝัก)
พระเยซูเจ้า    (พูดกับฝูงชน)
    วันหนึ่ง ชาวนาคนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช
    (ชาวนาเข้ามา ตามด้วยเมล็ดต่างๆ ทั้ง 9 คน นำคนที่เป็นเมล็ดชนิดต่างๆ ไปไว้ตามจุดต่างๆ โดยเมล็ดที่ตกในดินดีทั้งสามคนจัดเป็นอันดับสุดท้าย คนที่เป็นเมล็ดชนิดต่างๆ ยืนในที่ของตน ชาวนาออกไป)
พระเยซูเจ้า    (ชี้ไปยังเมล็ดที่ตกบนทางเดิน)
    บางเมล็ดตกอยู่ริมทางเดิน นกก็มาจิกกิน
    (นกบินเข้ามา และพาคนที่เป็นเมล็ดตกบนทางเดิน 2 คนออกไป)
พระเยซูเจ้า    (ชี้ไปยังเมล็ดที่ตกบนพื้นหิน)
    บางเมล็ดตกบนพื้นหินที่มีดินอยู่เล็กน้อย ก็งอกขึ้นทันทีเพราะดินไม่ลึก
    (เมล็ดทั้งสองยืนขึ้น)
พระเยซูเจ้า    แต่เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น
    (แสงอาทิตย์ส่อง)
    ก็ถูกแดดเผา และเหี่ยวแห้งไปเพราะไม่มีราก
    (เมล็ดทั้งสองล้มลงบนพื้น)
พระเยซูเจ้า    (ชี้ไปยังเมล็ดที่ตกในพงหนาม)
    บางเมล็ดตกในพงหนาม ต้นหนามก็ขึ้นปกคลุมมันไว้ จึงไม่เกิดผล
    (หนามและเมล็ดทั้งสองยืนขึ้น หนามใช้มือโอบรอบคอของเมล็ดที่ตกในพงหนาม เมล็ดทั้งสองคนล้มลงบนพื้น)
พระเยซูเจ้า    (ชี้ไปยังเมล็ดที่ตกในดินดี)
    ยังคงมีบางเมล็ดตกในที่ดินดี จึงงอกขึ้น เติบโต และเกิดผล
    (เมล็ดที่ตกในดินดีทั้งสามยืนขึ้น ยิ้ม และยกแขนเบ่งกล้าม)
พระเยซูเจ้า    บางคนเกิดผล สามสิบเท่า
    (เมล็ดที่ตกในดินดีอีกคนหนึ่งหอบฝักข้าวโพดเข้ามา 3 ฝัก)
พระเยซูเจ้า    บางคนเกิดผลหกสิบเท่า
    (เมล็ดที่ตกในดินดีอีกคนหนึ่งหอบฝักข้าวโพดเข้ามา 6 ฝัก)
พระเยซูเจ้า    บางคนเกิดผลร้อยเท่า
    (เมล็ดที่ตกในดินดีอีกคนหนึ่ง หอบฝักข้าวโพดเข้ามา 10 ฝัก ชาวนาเข้ามาพร้อมกับตะกร้า และรวบรวมฝักข้าวโพดจากผู้ที่เป็นดินดีทั้งสามคน)
พระเยซูเจ้า    ใครมีหูสำหรับฟัง ก็จงฟังเถิด สิ่งที่ผู้หว่านกำลังหว่านนั้นคือพระวาจาของพระเจ้า เมล็ดที่ตกริมทาง (เดินไปยังกลุ่มริมทางและแสดงท่าทางบอก) หมายถึงบุคคลที่ได้ฟังพระวาจา ต่อจากนั้นซาตานก็มาช่วงชิงพระวาจาออกไปจากใจของเขา
    บรรดาผู้รับที่เหมือนกับเมล็ดที่ตกบนพื้นหิน (เดินไปยังกลุ่มที่เป็นพื้นหินและแสดงท่าทางบอก) หมายถึง บุคคลที่ได้ฟังพระวาจาและมีความยินดีรับไว้ทันที แต่เขาไม่มีรากในตัว จึงไม่มั่นคง เมื่อเผชิญความยากลำบากหรือถูกข่มเหงเพราะพระวาจานั้น เขาก็ยอมแพ้ทันที
    แล้วยังมีผู้รับพระวาจาที่เหมือนกับเมล็ดที่ตกในพงหนาม (เดินไปยังกลุ่มพงหนามและแสดงท่าบอก) หมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจา แต่ความวุ่นวายในทางโลก ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ และความโลภในสิ่งอื่นๆ เข้ามาปกคลุมพระวาจาไว้ จึงไม่เกิดผล (เดินไปยังกลุ่มดินดี) และมีผู้รับพระวาจาที่เป็นเมล็ดพืชที่ตกในดินดี พวกเขาฟังพระวาจาและรับไว้ จึงเกิดผลสามสิบเท่า หกสิบเท่า และร้อยเท่า