19. กฎแห่งชีวิต
ชาวอิสราเอลเอ๋ย จงฟังเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเป็นพระเจ้าของเรา องค์พระผู้เป็นเจ้ามีเพียงพระองค์เดียว ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน สุดจิตใจ สุดวิญญาณ และสุดกำลังของท่าน (ฉธบ 6 : 4-5)
เมื่อท่านล้อมเมืองใดเมืองหนึ่งเป็นเวลานานแล้วโจมตีเพื่อจะยึดได้ ท่านจะต้องไม่ใช้ขวานโค่นไม้ผลรอบ ๆ เมืองนั้น ท่านจะกินผลไม้ได้ แต่อย่าโค่นต้นไม้เลย เพราะต้นไม้ไม่ใช่ศัตรูของท่านที่จะต้องทำลาย (ฉธบ 20 : 19)
ท่านจะต้องไม่ข่มเหงหญิงม่ายหรือลูกกำพร้า ถ้าท่านข่มเหงเขา เขาจะร้องขอความช่วยเหลือจากเรา เราจะฟังเสียงร้องขอของเขาอย่างแน่นอน (อพย 22 : 22ff)
ถ้าท่านเห็นโคหรือแกะของพี่น้องของท่านพลัดหลงไป ท่านจะต้องไม่นิ่งเฉย แต่ต้องเอาใจใส่นำมาคืนให้เขา (ฉธบ 22 : 1)
ท่านจะต้องไม่โกงคนยากจนและลูกจ้างที่ขัดสน ทั้งที่เป็นพี่น้องชาวอิสราเอลและที่เป็นคนต่างด้าวอาศัยอยู่ในแผ่นดินและในเมืองของท่าน ท่านจะต้องจ่ายค่าจ้างให้เขาทุกวันก่อนดวงอาทิตย์ตก เพราะเขาเป็นคนยากจนและต้องการเงินนั้น มิฉะนั้น เขาจะทูลฟ้องร้องท่านต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และท่านจะมีความผิด (ฉธบ 24 : 14-15)
เมื่อท่านเขย่าต้นมะกอกเทศเพื่อเก็บผล หรือ เมื่อท่านเก็บผลองุ่น ท่านจะต้องไม่กลับไปเก็บเป็นครั้งที่สอง ผลที่เหลือไว้จะเป็นของคนต่างด้าว ลูกกำพร้าและหญิงม่าย (ฉธบ 24 : 20-21)
ท่านจะต้องไม่ข่มเหงคนต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยอยู่ในแผ่นดินของท่าน ท่านจะต้องปฏิบัติต่อคนต่างด้าวเหมือนท่านปฏิบัติต่อชาวอิสราเอลด้วยกัน และรักเขาเหมือนรักตนเอง อย่าลืมว่าท่านทั้งหลายเคยเป็นคนต่างด้าวในแผ่นดินอียิปต์มาแล้ว เราคือ องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่าน (ลนต 19 : 33-34)
ท่านจะต้องไม่สาปแช่งคนหูหนวก ผู้ซึ่งไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ เจ้าอย่าเอาของไปวางขวางทางเดินของคนตาบอด ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุทำให้เขาต้องสะดุดหกล้ม (ลนต 19 : 14)
ท่านจะต้องไม่เก็บความเกลียดชังพี่น้องไว้ในใจ แต่จงตักเตือนเพื่อนบ้านอย่างตรงไปตรงมา ท่านจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบบาปของเรา ท่านจะต้องไม่แก้แค้น หรืออาฆาตชนชาติเดียวกับท่าน แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง (ลนต 19 : 17-18)