อาแมนหรืออาเมน (Amen)
ศัพท์ฮีบรูแปลว่า “สาธุ ขอให้เป็นเช่นนั้นเทอญ”
คำว่า “อาแมน” แปลทับศัพท์จากภาษาฮีบรู ความหมายเดิมหมายถึง ความมั่นคง (ความสัมพันธ์) แน่นแฟ้น น่าไว้ใจได้ และสัจจะ ชาวอิสราเอลพูดคำนี้แสดงถึงความยินยอม หรือสนับสนุนคำพูดของคนอื่น เช่น สาบาน (กดว.5.19-22) คำอวยพรหรือคำแช่งสาปของพระเจ้า (ฉธบ.27.11-26) คำประกาศ (1 พกษ.1.36) คำเผยพระวจนะ (ยรม. 28.6) คำสรรเสริญพระเจ้า (1 พศด.16.36 / สดด.41.13) ยด.14-25) คำอธิษฐาน (1 คร.14.16) คำพยากรณ์ (วว.1.7) และคำสัญญา (วว.22.20)
บรรดาพระสัญญาของพระเจ้าได้สำเร็จเป็นความจริงในพระเยซูคริสตเจ้าทุกประการ ฉะนั้น หนังสือพันธสัญญาใหม่จึงใช้คำว่า “อาแมน” เป็นพระนามของพระเยซูเจ้าอีกพระนามหนึ่ง ซึ่งตรงกับหนังสือพันธสัญญาเดิมที่เรียกพระเจ้าแห่งสัจจะ (ความจริง) หรือพระเจ้าแห่งอาแมน (2 คร.1.20/ วว3.14 ดู อสย.65.16) คริสตชนแสดงความเชื่อในความจริงข้อนี้โดยกล่าวว่า “อาแมน” (2 คร.1.29) ซึ่งใช้มากในพิธีกรรมของพระศาสนจักรคาทอลิก หลังคำลงท้ายบทภาวนาของพระสงฆ์ว่า “ทั้งนี้ อาศัยบารมีของพระเยซูคริสตเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย” สัตบุรุษในพิธีจะตอบว่า “อาแมน”
ในบทสวด บท"ข้าพเจ้าเชื่อ" เช่นเดียวกับหนังสือเล่มสุดท้ายของพระคัมภีร์ (เทียบ วว.22:21) จบลงด้วยคำภาษาฮีบรูว่า "อาแมน" เราจะพบคำนี้เสมอๆ ในตอนจบของบทภาวนาในพันธสัญญาใหม่เช่นเดียวกัน พระศาสนจักรก็จบบทภาวนาของพระศาสนจักรด้วยคำว่า "อาแมน"
"อาแมน" สุดท้ายของบท "ข้าพเจ้าเชื่อ" จึงเป็นการกล่าวซ้ำและยืนยันสองคำแรกของบทนั้น คือ "ข้าพเจ้าเชื่อ" การเชื่อคือการกล่าว "อาแมน" แก่ถ้อยคำ คำมั่นสัญญา และบัญญัติของพระเจ้า คือการมอบความวางใจโดยสิ้นเชิงไว้ในองค์พระผู้เป็น "อาแมน" แห่งความรักอันไม่มีที่สิ้นสุดและสัตย์ซื่อสมบูรณ์ ดังนั้น ชีวิตคริสตชนประจำวันจึงเป็นการกล่าว "อาแมน" ต่อคำ "ข้าพเจ้าเชื่อ" ในการยืนยันความเชื่อของเราเมื่อรับศีลล้างบาป
ขอให้ "สัญลักษณ์" ของเจ้าจงเป็นประดุจกระจกเงาสำหรับเจ้า จงมองตัวเองในกระจกนั้น เพื่อดูว่าเจ้าเชื่อทุกสิ่งที่เจ้าประกาศว่าเชื่อหรือไม่ และจงปลาบปลื้มยินดีในความเชื่อของเจ้าทุกวันเถิด
พระเยซูคริสตเจ้าพระองค์เอง ทรงเป็น "อาแมน" (วว.3:14) พระองค์ทรงเป็น "อาแมน" ขั้นเด็ดขาดแห่งความรักของพระบิดาต่อเรา พระองค์ทรงตอบรับ "อาแมน" ของเราต่อพระบิดาและทรงทำให้สำเร็จไป "จริงแท้ บรรดาพระสัญญาของพระเจ้าก็เป็นจริงในพระเยซูเจ้า ด้วยเหตุนี้ เราจึงพูดคำว่า "อาแมน" "โดยทางพระองค์ เป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า" (2 คร.1:20)