เวลาของใคร
หัวข้อ เวลาของพระเจ้า
พระคัมภีร์ วันเวลาของข้าพระองค์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์
(สดด 31:15)
อุปกรณ์ นาฬิกาข้อมือ นาฬิกาแขวนหรือตั้งโต๊ะ นาฬิกาจับเวลา ปฏิทิน สุมดนัดหมาย และปากกา (ปฏิทินให้พอกับเด็กแต่ละคน ครูใส่นาฬิกาข้อมือหลายๆ ชนิดซ่อนไว้ใต้แขนเสื้อ)
หมายเหตุ เรื่องนี้เหมาะสำหรับใช้สอนในวันใกล้วันปีใหม่
เนื้อหา
กี่โมงแล้ว? (ให้เด็กที่มีนาฬิกาตอบ) เธอ (เรียกชื่อเด็กที่ตอบ) รู้ได้อย่างไรว่าเป็นเวลาเท่าไร? ในวันนี้มีใครบ้างในพวกเราที่ใส่นาฬิกา? (ให้เด็กๆ ตอบ) มีใครในพวกเราใส่นาฬิกาชนิดเดียวกันบ้าง? (ให้เวลาเด็กๆ สำรวจนาฬิกาของกันและกันก่อนตอบ) วันนี้ครูนำนาฬิกาที่รวบรวมไว้ มีรูปร่าง และขนาดแตกต่างกันมาให้ดู ให้เด็กดูนาฬิกาที่แขนของครู
มีวิธีการใดบ้างที่คนเราสามารถใช้เพื่อรู้เวลา? (ให้เด็กๆ ตอบ)
เรารู้ชั่วโมง และนาทีจากนาฬิกาข้อมือ นาฬิกาตั้งโต๊ะ และนาฬิกาแขวน (ครูให้เด็กๆ ดู นาฬิกา และนาฬิกาจับเวลา) ปฏิทิน และ สมุดนัดหมายช่วยเราในการทำเครื่องหมายให้รู้วันและเดือน (ครูให้เด็กดูปฏิทินและสมุดนัดหมาย)
คนเราสนุกสนานไปกับเวลา ถ้ากระทำสิ่งที่ชอบ เช่น เล่นกับเพื่อนๆ หรือไปสวนสนุกต่างๆ เรารู้สึกว่าเวลาน้อยไป แต่ถ้าเราอยู่ในห้องเรียน หรือฟังเทศน์ที่วัด เรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า เราจะคอยมองนาฬิกาว่าเวลาผ่านไปเท่าใดแล้ว
ประชาชนในสมัยพระคัมภีร์ไม่มีนาฬิกา พวกเขาไม่รู้ว่าเวลาเท่าใด แต่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ พวกเขามีความผูกพันอยู่กับว่าเป็นเวลาของใครมากกว่า
ในเพลงสดุดีที่ 31:15 กล่าวว่า “วันเวลาของข้าพระองค์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์” เวลาทั้งหมดเป็นของพระเจ้า ตั้งแต่เราตื่นนอนตอนเช้า จนกระทั่งเข้านอนในเวลากลางคืน และแม้แต่ในเวลาหลับ พระเจ้าเฝ้าดูเรา และปกป้องเราจากภัยอันตรายต่างๆ
ถ้าเราสำนึกว่าเวลาเป็นของใคร เราคงไม่ต้องกังวลว่าเป็นเวลากี่โมงแล้ว เราสามารถดำเนินชีวิตของเราทุกๆนาทีด้วยความยินดีใน พระเจ้า (นำปฏิทินและปากกาขีดเครื่องหมายออกมา) เราจะจำไว้ว่า เดือน……………… (ชื่อเดือน) เป็นเดือนของพระเจ้า วัน…………….. (ชื่อวัน) วันของพระเจ้า (ในขณะที่พูดให้เขียน “ของพระเจ้า” ลงในเดือน และวันที่กล่าวถึง) พระเจ้าประทาน วินาที นาที ชั่วโมง วัน และเดือน ให้กับเรา ทุกๆ เวลาของเราเป็นของประทานจากพระเจ้า ที่เราต้องมอบคืนแด่พระองค์
วันนี้ครูจะมอบปฏิทินให้เป็นของขวัญแก่พวกเธอแต่ละคน ให้เธอเริ่มเขียนคำว่า “ของพระเจ้า” ลงในทุกๆ วันของสัปดาห์นี้ ถ้าจำเป็นขอให้คุณพ่อหรือคุณแม่ช่วยก็ได้ ต้องจำไว้เสมอว่า ไม่เพียงแต่รู้เวลาเท่านั้นแต่ต้องรู้ด้วยว่าเวลาเป็นของใคร