แผนกคริสตศาสนธรรม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

CATECHETICAL CENTER OF BANGKOK ARCHDIOCESE

thzh-CNenfritjako

resurrection 690x450

ความตายและการกลับคืนชีพของพระเยซูช่วยให้เราไปสู่ความรอดพ้น
    ชาวคริสต์ที่ได้รับแสงสว่างจากพระจิตเจ้าในยุคแรก ต่างก็เชื่อเช่นนี้ พระจิตเจ้าทำให้เขาเข้าใจถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูในอีกแง่มุมหนึ่ง กล่าวคือการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการเผยให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความรักนิรันดรของพระเจ้า “พระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์” (ยอห์น 3:16) “พระองค์มิได้ทรงหวงพระบุตรของพระองค์ แต่ได้ทรงมอบพระบุตรเพื่อเราทุกคน” (โรม 8:32) ทรงทำอย่างนี้ “ขณะที่เรายังเป็นคนบาป” (โรม 5:8) พลังความมืดโจมตีพระเยซูมากมายหลายทางพร้อม ๆ กัน มันพยายามดับไฟแห่งความรักที่ลุกโชติช่วงในจิตใจของพระองค์ บาปทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นความโอหังเห็นแก่ตัวของผู้มีอำนาจปกครองเยรูซาเล็ม ความเย็นชาของปิลาต การทรยศของยูดาส การหลบหนีของบรรดาศิษย์ ความโหดร้ายของพวกทหารเหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ทำร้ายพระเยซูทั้งใจและกาย และตรงนี้เอง ที่ความรักของพระเยซูได้กระทำให้บาปทั้งหลายเปลี่ยนไป บาปช่วยเราให้เข้าใจในความรักอันยิ่งใหญ่ ไม่มีขอบเขตจำกัด รักจนสามารถอภัยให้ได้จนหมดสิ้น ด้วยความรักเช่นนี้แหละที่ทำให้พระเยซูทรงสวดภาวนาให้ผู้ที่กำลังจะฆ่าพระองค์และทรงยอมให้เขาฆ่าพระองค์ นี่คือพระลักษณะของพระเจ้าพระบิดาที่ทรงสำแดงต่อโลกทรงสะท้อนภาพความเมตตาอันไม่มีขีดจำกัด รักจนสามารถอภัยให้ได้จนหมดสิ้น ด้วยความรักเช่นนี้แหละที่ทำให้พระเยซูทรงสวดภาวนาให้ผู้ที่กำลังจะฆ่าพระองค์และทรงยอมให้เขาฆ่าพระองค์ นี่คือพระลักษณะของพระเจ้าพระบิดาที่ทรงสำแดงต่อโลก ทรงสะท้อนภาพความเมตตาอันไม่มีขีดจำกัดของพระบิดาให้โลกนี้มองเห็น

    พระเจ้าทรงเกลียดชังบาปอย่างแน่นอน เพราะบาปล่วงละเมิดพระองค์ผู้ทรงเป็นความรัก และมันทำลายจิตใจของมนุษย์ผู้ที่พระองค์ทรงรัก พระเจ้าทรงให้พระบุตรมาปรากฏในโลกแห่งบาปและคนบาป ทรงสวดภาวนาเพื่อพวกเขาและทรงรักพวกเขา ทั้ง ๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นทำให้พระองค์ตองทนทุกข์ทรมาน และพระเยซูองค์นี้เองที่ทรงเป็นพระผู้แทนมวลมนุษยชาติทำพันธสัญญานิรันดรกับพระเจ้าพระบิดา เพื่อที่พระเจ้าจะทรงพบและสนิทสัมพันธ์กับคนเหล่านั้นที่ตอบสนองต่อการทรงเรียกให้พระเจ้าทรงมองเห็นมวลมนุษยชาติผ่านทางพระเยซูผู้ทรงมีชีวิตและเสียชีวิตรวมทั้งกลับคืนชีพเพื่อเรา
    พระเจ้าทรงใช้พระบุตรมาในโลกนี้ ทรงให้พระบุตรมีชีวิตอยู่เพื่อความรักเท่านั้น ผลของความเชื่อฟังน้ำพระทัยพระบิดา คือ พระองค์ทรงตายบนกางเขน แต่พระเจ้าทรงให้พระเยซูกลับคืนชีพ เพื่อที่โดยพระเยซูนั้น พระเจ้าจะทรงมองเห็นเราผู้เป็นพี่น้องกับพระองค์เสมอ และโดยพระเยซู พระเจ้าจะทรงส่งพระจิตมาให้แก่ทุกคน พระจิตผู้ทรงเป็นดั่งลมเย็นชื่นใจ พัดพาเอาเมฆหมอกของบาปออกจากใจมนุษย์ แล้วทรงให้ความยินดี และแดดอบอุ่นของความรักเข้ามาทดแทนจนเต็ม
    สรุปตรงนี้คือ ความทุกข์ทรมานและความตายของพระเยซูนั้น เป็นเงินค่าไถ่ที่พระเจ้าทรงซื้อมนุษย์คืนจากการเป็นทาสของบาป (1เปโตร 1:18;2:9) และพระเจ้าทรงให้พระจิตที่เต็มล้นอยู่ในพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพ เป็นตราประทับผนึกไว้ในจิตใจของเรา (เอเฟซัส 1:12)
ชีวิตทั้งสิ้นของพระเยซูเป็นหนทางให้เราเดิน ทรงเป็นทางไปสู่พระบิดา ไปสู่ชีวิต ไปสู่ผู้คน พระเยซูทรงเดินนำอยู่ข้างหลัง ความตายและการกลับคนชีพ เป็นพลังขับเคลื่อนเราให้ออกเดินและติดตามพระองค์ไป “เพราะว่าความรักของพระคริสตเจ้าผลักดันเรา ...พระองค์สิ้นพระชนม์แทนทุกคน เพื่อผู้ที่มีชีวิตจะได้ไม่มีชีวิตเพื่อตนเองอีกต่อไป แต่มีชีวิตเพื่อพระองค์ผู้ได้สิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนพระชนม์ชีพเพื่อเขา” (2โครินทร์ 5:14,15)