พระธรรมล้ำลึกแห่งเมล็ดพันธุ์
มาระโก 4:1-20
ผู้คนสมัยพระเยซูเจ้าเห็นพระธรรมล้ำลึกในเมล็ดพันธุ์มากกว่าผู้คนในสมัยปัจจุบัน ในสมัยนี้ถ้าใครสักคนหนึ่งเห็นเมล็ดพันธุ์สักเมล็ดหนึ่งเขาจะจินตนาการถึงดอกไม้สวยงามหรือผลร้อยเท่าทวีคูณที่เกิดจากเมล็ดพันธุ์น้อยนิดนั้นได้หรือเปล่า เมล็ดพันธุ์น้อยนิดยังมีพระธรรมล้ำลึกเกินกว่าที่ใจเราจะจินตนาการไปได้ ชีวิตมนุษย์นั้นก็ยิ่งลึกล้ำกว่าเมล็ดพันธุ์พืชธรรมดาๆเหล่านั้นมากมายนัก ใครเล่าเป็นผู้สร้างกระดูกผูกเชื่อมเป็นโครงร่าง สร้างเนื้อติดหนังแก่ชีวิตเล็กๆที่เริ่มกำเนิดใหม่ในท้องแม่ ใครเล่าเป็นผู้บำรุงเลี้ยงชีวิตย้อยๆ นั้นให้โตขึ้น ใครเล่าเป็นผู้ประทานจิตวิญญาณแก่ชีวิตเล็กๆนั้น
พระเยซูเจ้าทรงมองเห็นทุกสิ่งเหล่านี้ด้วยสายตาของความเชื่อทรงใช้อุปมาเรื่องเมล็ดพันธุ์สอนเรื่องชีวิตนิรันดรแก่เรา พระเจ้าทรงหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อไว้ในจิตใจเราแต่ละคน ไม่ใช่เพียงจิตใจของชาวคริสต์เท่านั้น ภาระหน้าที่ของพระศาสนจักรคือกระตุ้นให้ทุกคนรู้ถึงความจริงข้อนี้ ชีวิตนิรันดรเกิดขึ้นและฝังตัวอยู่ในจิตใจเรา
ชีวิตนิรันดรไม่ได้หมายถึงชีวิตที่เราจะได้รับหลังความตายแต่ในชีวิตนี้ชีวิตนิรันดรจะงอกงามเติบโตขึ้นในความเชื่อในความรักของพระเจ้า และการทะนุบำรุงเลี้ยงดูเสร็จสมบรูณ์เมื่อจบชีวิตลงเพราะฉะนั้นตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่พระเจ้าเองจะประทานน้ำแห่งชีวิตหล่อเลี้ยง จิตใจของเราเพื่อไม่ให้เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตนิรันดรในจิตใจเราเหี่ยวเฉาตายไป แต่ถ้าเราปฎิเสธพระวาจาที่นำเราไปสู่ความรักและชีวิตนิรันดร จนถึงกาลสุดท้ายของชีวิต ตัวเรานั้นเองเป็นสาเหตุให้เมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตเฉาตายไป อย่างไรก็ดีเราทั้งหลายไม่อาจทราบหรือยืนยันได้ว่ามีใครบ้างในโลกนี้ปฎิเสธพระคุณและความรักของพระเจ้าจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เรารู้แต่เพียงว่าเราก็เช่นเดียวกันกับพระเจ้า คือ มีใจปรารถนาให้ทุกคนได้รับความรอด และหวังว่าจะไม่มีใครสักคนที่ปฎิเสธพระคุณและความรักของพระเป็นเจ้า
ที่มา: หนังสือชีวิตนิรันดร