ความหมายของอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าทรงทำ
มาระโก 3:7-12
ผู้คนในสมัยพระเยซูเชื่อว่าโรคร้ายเป็นผลจากบาป คนที่เป็นโรคร้ายทั้งหลายจึงต้องทนทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ และดูเหมือนว่าความเจ็บปวดภายในจะรุนแรงกว่าภายนอกเสียอีก พระเยซูจึงทรงทำอัศจรรย์เพื่อรักษาคนเหล่านั้น เพื่อที่จะเข้าใจความหมายของอัศจรรย์ที่พระเยซูทรงทำต่อพวกเขา เราจำเป็นต้องเข้าใจก่อนว่า
อัศจรรย์เป็นหมายสำคัญที่พระเจ้าผู้ทรงบรรดาลชีวิต แสดงให้เราเห็นว่าทรงเป็นผู้อยู่เหนือความตาย โรคร้าย หรือความทุกข์ยากต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นสัญญาณส่อถึงความตาย นอกจากนี้อัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงฟังคำพูดของมนุษย์และประทับอยู่กับพวกเขาเสมอ
อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องเข้าใจเมื่ออ่านถึงอัศจรรย์ที่พระเยซูทรงทำคือ การรักษาคนตาบอดไม่ได้มีความหมายเพียงแค่ทรงทำให้ตาของพวกเขามองเห็นเท่านั้น แต่หมายรวมถึง การประทานแสงสว่างของพระจิตเจ้าแก่บรรดาผู้ที่ทนทุกข์อยู่ในความมืดของความทุกข์ยาก และการรักษาคนเป็นอัมพาตไม่ได้หมายถึงแค่การทรงทำให้ผู้เดินไม่ได้ลุกขึ้นเดินเท่านั้น แต่หมายถึงการที่เราผู้ซึ่งไม่เคยเดินตรงไปบนหนทางแห่งชีวิตเพราะความบาปและความเห็นแก่ตัวได้นั้น สามารถลุกขึ้นและเดินตรงต่อไปได้ เมื่อเราสัมผัสถึงพระทัยของพระเยซูเจ้า นอกจากนี้เมื่ออ่านเรื่องการทรงรักษาคนโรคเรื้อนเราก็ต้องเข้าใจและเชื่อมั่นด้วยว่ามีพระเยซูผู้เดียวเท่านั้นที่ทำให้ชีวิตอันเต็มไปด้วยบาปของเรากลับเป็นชีวิตที่สะอาดบริสุทธิ์ และเราควรตระหนักถึงลักษณะพิเศษอีก 4 ประการของอัศจรรย์ที่พระเยซูเจ้าทรงทำด้วยคือ
1. พระองค์ไม่ทรงทำอัศจรรย์เพื่อผลประโยชน์ของพระองค์เอง
2. พระองค์ไม่ทรงทำอัศจรรย์เพื่อแสดงอำนาจของพระองค์เอง
3. พระองไม่ทรงทำอัศจรรย์เพื่อทรงทำลายล้าง
4. พระองค์ทรงทำอัศจรรย์เพื่อความรัก และความเชื่อในจิตใจมนุษย์เสมอ เพราะคำสอนของพระองค์เป็นเรื่องของการสร้าง การบังเกิด และการเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องของการเสริมสร้างไม่ใช่การทำลาย
ที่มา: หนังสือชีวิตนิรันดร