ศาสนบริกรผู้อ่าน
ในปีพระวาจา ตามที่สภาพระสังฆราชคาทอลิก (ประเทศไทย) ได้ประกาศ (20 พฤษภาคม 2007-2010) นอกจากช่วยกันรณรงค์ให้คริสตชนแต่ละคน แต่ละครอบครัว มีหนังสือพระคัมภีร์แล้ว เราควรอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำวัน เพื่อให้พระวาจาเป็นประดุจเข็มทิศนำทางชีวิตของเรา
ทุกวันหรือทุกวันอาทิตย์ที่เราพากันไปวัด ร่วมพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ บุคคลกลุ่มหนึ่งที่เป็นผู้อ่านพระคัมภีร์ในระหว่างพิธีกรรม มีส่วนสำคัญทำให้พี่น้องผู้มาวัด สามารถฟังพระวาจาของพระเป็นเจ้าได้อย่างมีความหมาย บางสังฆมณฑลหรือหลายวัดจึงจัดอบรมผู้อ่านพระคัมภีร์เป็นพิเศษเพื่อพวกเขา ไม่ว่าผู้ใหญ่ เยาวชน และเด็ก จะได้รู้จักความหมายของพระคัมภีร์ ความหมายของปีพิธีกรรม มิสซา และฝึกปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุด
ในประมวลกฎหมายพระศาสนจักร มาตรา 230 วรรค 2 กล่าวว่า “ฆราวาสสามารถรับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้อ่านชั่วคราว ระหว่างการประกอบพิธีกรรมได้ ในทำนองเดียวกัน ฆราวาสทุกคนสามารถปฏิบัติหน้าที่เป็นพิธีกร หรือนักขับร้อง หรือหน้าที่อื่นๆ ตามกฎเกณฑ์ของกฎหมายได้”
มาตรา 231 วรรค 1 กล่าวว่า “ฆราวาสผู้อุทิศตนอย่างถาวร หรือแบบครั้งคราวในการรับใช้พระศาสนจักรอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นพิเศษ ต้องได้รับการอบรมอย่างเหมาะสม ที่จำเป็นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของเขาอย่างถูกต้อง และต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างมีจิตสำนึก กระตือรือร้น และขยันขันแข็ง”
ศาสนบริกรผู้อ่านพระคัมภีร์ (lector) เป็นตำแหน่งหน้าที่ทางการขั้นแรก ซึ่งพระศาสนจักรให้แก่สามเณรใหญ่ที่ใกล้จะได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์ แต่พระศาสนจักรอนุญาตให้ฆราวาสสามารถปฏิบัติหน้าที่นี้ได้แบบชั่วคราว กล่าวคือ รับการแต่งตั้งครั้งละ 2 ปี
หน้าที่ของผู้อ่าน คือ อ่านบทอ่านจากพระคัมภีร์ ยกเว้นบทพระวรสาร ซึ่งสงวนไว้เป็นพิเศษแก่พระสงฆ์ สังฆานุกร
- อ่านบทภาวนาเพื่อมวลชน
- หากเป็นสามเณร ต้องสอนคำสอนให้สัตบุรุษรับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม
- สอนและเตรียมผู้ทำหน้าที่อ่านพระคัมภีร์
- รำพึงพระวาจา (ที่ตนอ่าน) และดำเนินชีวิตตามแบบอย่างคำสอนนั้น
“ประโยชน์ล้ำค่า คือ การรู้จักพระคริสตเยซู” (ฟิลิปปี 3:8)