ฉันเป็นส่วนใดของพระกายพระคริสตเจ้า
พระคัมภีร์ใช้คำบรรยายให้เห็นภาพ เพื่ออธิบายถึงความสัมพันธ์ต่อกันของคริสตชน เราเป็น “ครอบครัว” ที่เป็นพี่น้องกันในพระคริสตเจ้า เราเป็น “สิ่งก่อสร้าง” ซึ่งมีพระคริสตเจ้าเป็นหัวมุม เราเป็น “กาย” ซึ่งรับใช้กันและกันตามหน้าที่ของแต่ละส่วน พระเจ้าทรงกล่าวถึงส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อแสดงให้เห็นว่าคริสตชนควรปฏิบัติต่อกันและทำงานร่วมกันอย่างไร พระเจ้าทรงประทานพระพรให้แต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งหมายความว่า เราแต่ละคนมีพรสวรรค์และความสามารถที่สามารถช่วยสัตบุรุษอื่นๆ มิใช่ทุกคนมีความสามารถแบบเดียวกัน ในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย เราต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน ความสามารถและพรสวรรค์ทุกอย่างของเราเป็นสิ่งสำคัญ
ข้อความสำคัญ
เพราะร่างกายของเรามีองค์ประกอบหลายส่วน และส่วนต่างๆ เหล่านี้ไม่มีหน้าที่เดียวกันฉันใด แม้เราจะมีจำนวนมาก เราก็รวมเป็นร่างกายเดียวในพระคริสตเจ้าฉันนั้น โดยแต่ละคนต่างเป็นส่วนร่างกายของกันและกัน (โรม 12:4-5)
พระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง
โรม 12:6-8
เรามีพระพรพิเศษแตกต่างกันตามพระหรรษทานที่พระองค์ประทานให้ ผู้ได้รับพระพรที่จะประกาศพระวาจา ก็จงใช้พระพรนั้นมากน้อยตามส่วนความเชื่อของตน ผู้ที่ได้รับพระพรที่จะรับใช้ ก็จงรับใช้ ผู้ที่ได้รับพระพรที่จะสอน ก็จงสอน ผู้ที่ได้รับพระพรที่จะตักเตือน ก็จงตักเตือน ผู้ที่บริจาค ก็จงบริจาคด้วยความเอื้อเฟื้ออย่างจริงใจ ผู้ที่เป็นผู้นำ ก็จงทำหน้าที่ผู้นำด้วยความเอาใจใส่ ผู้ที่แสดงความเมตตากรุณา ก็จงแสดงความเมตตากรุณาด้วยใจยินดี
1 โครินธ์ 12:1-30
1คร 12:1-3 พระพรพิเศษจากพระจิตเจ้า
12 (1)พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ต้องการให้ท่านขาดความรู้เรื่องพระพรจากพระจิตเจ้า (2)ท่านก็รู้อยู่แล้วว่าเมื่อยังเป็นคนต่างศาสนา ท่านยอมถูกชักจูงไปกราบไหว้รูปเคารพที่พูดไม่ได้ (3)ข้าพเจ้าขอยืนยันให้ท่านรู้ว่า ไม่มีผู้ใดพูดโดยพระจิตเจ้าทรงดลใจว่า “พระเยซูจงถูกสาปแช่ง” และหากพระจิตเจ้ามิได้ทรงดลใจก็ไม่มีผู้ใดพูดได้ว่า “พระเยซูคือองค์พระผู้เป็นเจ้า”
1คร 12:4-11 พระพรพิเศษมีจุดประสงค์เดียวกัน
(4)พระพรพิเศษมีหลายประการ แต่มีพระจิตเจ้าพระองค์เดียว (5)มีหน้าที่หลายอย่างต่างกัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียว (6)กิจการมีหลายอย่าง แต่มีพระเจ้าพระองค์เดียวผู้ทรงกระทำทุกอย่างในทุกคน (7)พระจิตเจ้าทรงแสดงพระองค์ในแต่ละคนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม (8)พระจิตเจ้าประทานถ้อยคำที่ปรีชาแก่คนหนึ่ง พระจิตเจ้าประทานถ้อยคำที่รอบรู้แก่อีกคนหนึ่ง พระจิตเจ้าพระองค์เดียวกัน (9)ประทานความเชื่อแก่อีกคนหนึ่ง พระจิตเจ้าพระองค์เดียวกันประทานพระพรบำบัดรักษาโรค (10)ประทานอำนาจทำอัศจรรย์ให้อีกคนหนึ่ง ประทานให้อีกคนหนึ่งประกาศพระวาจา ให้อีกคนหนึ่งรู้จักจำแนกจิตต่าง ๆ ให้อีกคนหนึ่งพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ และให้อีกคนหนึ่งตีความอธิบายความหมายของภาษานั้นได้ (11)พระพรพิเศษทั้งมวลเป็นผลงานจากพระจิตเจ้าพระองค์เดียว ผู้ทรงแจกจ่ายพระพรต่าง ๆ ให้แต่ละคนตามที่พอพระทัย
การเปรียบเทียบกับร่างกาย
(12)แม้ร่างกายเป็นร่างกายเดียว แต่ก็มีอวัยวะหลายส่วน อวัยวะต่าง ๆ เหล่านี้แม้จะมีหลายส่วนก็ร่วมเป็นร่างกายเดียวกันฉันใด พระคริสตเจ้า ก็ฉันนั้น (13)เดชะพระจิตเจ้าพระองค์เดียว เราทุกคนจึงได้รับการล้างมารวมเข้าเป็นร่างกายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือไทยก็ตาม เราทุกคนต่างได้รับพระจิตเจ้าพระองค์เดียวกัน (14)ร่างกายไม่ได้ประกอบด้วยอวัยวะส่วนเดียว แต่มีอวัยวะหลายส่วน (15)ถ้าเท้าจะพูดว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่มือ จึงไม่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย” แต่เท้าไม่ได้เป็นอวัยวะของร่างกายน้อยกว่าอวัยวะส่วนอื่น เพราะเป็นเพียงเท้า (16)หรือถ้าหูจะพูดว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่ดวงตา จึงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของร่างกาย” แต่ก็ไม่ได้ทำให้หูไม่เป็นอวัยวะของร่างกายเลย (17)ถ้าร่างกายทั้งหมดเป็นดวงตา แล้วจะได้ยินได้อย่างไร ถ้าร่างกายทั้งหมดเป็นหู แล้วจะได้กลิ่นได้อย่างไร (18)พระเจ้าทรงจัดอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายให้อยู่ในที่ที่ทรงพระประสงค์ (19)ถ้าร่างกายทุกส่วนเป็นอวัยวะเดียวแล้ว ร่างกายจะอยู่ที่ไหน (20)เท่าที่เป็นอยู่ มีอวัยวะหลายส่วน แต่มีร่างกายเดียว (21)ดวงตาพูดกับมือไม่ได้ว่า “เราไม่ต้องการเจ้า” และศีรษะก็พูดกับเท้าไม่ได้ว่า “เราไม่ต้องการเจ้า” (22)ตรงกันข้าม ส่วนที่เราคิดว่าเป็นอวัยวะที่อ่อนแอของร่างกายกลับเป็นอวัยวะที่จำเป็นมากกว่า (23)อวัยวะส่วนที่เราคิดว่าไม่มีเกียรติในร่างกาย เรากลับทะนุถนอมด้วยความเคารพเป็นพิเศษ และอวัยวะที่น่าอับอายของเรากลับได้รับการตกแต่งให้งดงามมากกว่าส่วนอื่น (24)อวัยวะที่น่าดูอยู่แล้วไม่ต้องการตกแต่งอะไรอีก พระเจ้าทรงประกอบร่างกายขึ้น โดยให้เกียรติแก่อวัยวะที่ไม่มีเกียรติมากกว่าอวัยวะอื่น ๆ (25)เพื่อร่างกายจะได้ไม่มีการแตกแยกใด ๆ ตรงกันข้าม อวัยวะแต่ละส่วนจะเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน (26)ถ้าอวัยวะหนึ่งเป็นทุกข์ อวัยวะอื่น ๆ ทุกส่วนก็ร่วมเป็นทุกข์ด้วย ถ้าอวัยวะหนึ่งได้รับเกียรติ อวัยวะอื่น ๆ ทุกส่วนก็ร่วมยินดีด้วยเช่นเดียวกัน (27)ท่านทั้งหลายเป็นพระกายของพระคริสตเจ้า แต่ละคนต่างก็เป็นอวัยวะของพระกายนั้น (28)พระเจ้าทรงแต่งตั้งบางคนให้ทำหน้าที่ต่าง ๆ ในพระศาสนจักร คือ หนึ่งให้เป็นอัครสาวก สองให้เป็นประกาศก และสามให้เป็นครูอาจารย์ ต่อจากนั้น คือผู้มีอำนาจทำอัศจรรย์ ผู้รักษาโรค ผู้ช่วยเหลือ ผู้ปกครอง และผู้พูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ (29)ทุกคนเป็นอัครสาวกหรือ ทุกคนเป็นประกาศกหรือ ทุกคนเป็นครูอาจารย์หรือ ทุกคนเป็นผู้ทำอัศจรรย์หรือ (30)ทุกคนบำบัดโรคได้หรือ ทุกคนพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจหรือ ทุกคนเป็นผู้ตีความอธิบายความหมายของภาษานั้นหรือ
สำหรับพ่อ-แม่/คุณครู
คำถามแบบนี้มักจะมาจากเด็กที่มีอายุมากหน่อย (ชั้นมัธยม หรือสูงกว่านั้น) ที่เคยได้ยินการสอนเรื่องพระกายของพระคริสตเจ้า ควรช่วยให้เด็กคิดถึงความสามารถ และพรสวรรค์ที่พวกเขามี